magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home Articles posted by pensiri (Page 18)
formats

‘รศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์’นักวิจัย สตรีไทยสร้างชื่อ ดำดิ่งสำรวจใต้ท้องทะเลแอนตาร์กติก

ปฏิเสธไม่ได้ว่าสตรีไทยมีบทบาทสำคัญในทุกอาชีพ แม้แต่อาชีพนักวิจัยในวงการวิทยาศาสตร์ ผลงานการค้นคว้าสำคัญ ๆ หลายผลงานมาจากฝีมือของสตรี ประเทศไทยมีนักวิจัยสตรีเก่ง ๆ ที่มีฝีมือและสร้างชื่อเสียงอยู่จำนวนไม่น้อย หนึ่งในนักวิจัยสตรีไทย ซึ่งเป็นสตรีไทยคนแรกที่ได้เดินทางไปทำการวิจัยเรื่องภาวะโลกร้อนยังดินแดนขั้วโลกใต้เมื่อปี พ.ศ. 2552 รศ.ดร.สุชนา ชวนิชย์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในวันนี้กำลังจะเดินทางไปสู่ขั้วโลกใต้เพื่อทำการวิจัยอีกครั้งใน “โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี” เพื่อศึกษาวิจัยทั้งด้านผลกระทบที่เกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมและการวิจัยดินอันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการศึกษาข้อมูลสำคัญ ๆ เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัยที่เหมาะสมกับประเทศไทยต่อไปในอนาคต โดยการเดินทางครั้งนี้จะต้องถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์ เพราะจะเป็นคนไทยคนแรกที่ได้ลงไปสำรวจถึงใต้ท้องทะเลแอนตาร์กติกอันหนาวเหน็บ – ( 15 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

7 ผลไม้ไหว้ได้มงคลสุขภาพรับตรุษจีน

ช่วงตรุษจีนเป็นเทศกาลแห่งความสุขและมงคลชีวิต หากได้ดูแลสุขภาพให้สุขสมบูรณ์ร่วมไปด้วยก็จะช่วยให้ชีวิตดีอย่างครบถ้วน นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ กล่าว ว่า เรื่องการกิน มีเทคนิครับประทานให้อร่อยแถมด้วย “เฮง” ต่อสุขภาพ คือ ให้ลดแป้งและน้ำตาลลง เช่น จากข้าว ซาละเปา ขนมเข่งและขนมหวานทั้งหลาย ขอให้จำกัดปริมาณลง และควรเลี่ยงน้ำอัดลมรวมถึงน้ำผลไม้เพราะอาจทำให้ได้น้ำตาลฟรุกโตสมากเกินไป เรื่อง เนื้อสัตว์ ให้ของไหว้มี “เนื้อสีขาว” บ้างอย่าง เนื้อปลา ไก่ หรือแม้แต่กุ้งและปลาหมึกก็ได้ เพราะจะช่วยลดไขมันโดยอัตโนมัติ ส่วนหมูสามชั้นให้ “เจียว” มันออกก่อนกินจะช่วยได้ เรื่อง การดื่ม ขอให้เลี่ยงเครื่องดื่มหวานๆอย่างน้ำอัดลมและน้ำผลไม้ ให้เลือกดื่มเป็น “น้ำเปล่า” หรือ “ชาจีน” แทน ซึ่งเป็นของหาได้สะดวกในเทศกาลอย่างนี้ การ จุดธูป นอกจากระวังไฟไหม้แล้วขอให้ระวังเรื่อง “ควัน” ไว้ด้วย เพราะในควันธูปมีอณูละอองขนาดจิ๋วเกินมองเห็นอยู่นับไม่ถ้วน ขอให้ชวนกันจุดในที่ที่อากาศถ่ายเทดี หรือถ้าไม่มีที่ก็อาจจุดถวายไว้แล้วต่อมาค่อยย้ายกระถางออกมานอกบ้านก็ได้ – ( 12 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ฉลาดเลือกน้ำผลไม้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

ประโยชน์ของ “ผลไม้” ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายมาก แต่ด้วยไลฟ์สไตล์ใช้ชีวิตในยุคเร่งรีบ และสภาวะแวดล้อมที่เปลี่ยนไปส่งผลให้คนรุ่นใหม่เลือกการบริโภคที่เน้นความสะดวก จนบางครั้งไม่คำนึงถึงประโยชน์และความปลอดภัยของอาหารมากพอ ทำให้โรคภัยต่าง ๆ เข้ามาเยือนได้โดยคาดไม่ถึง!!! “นํ้าผลไม้พร้อมดื่ม” จึงเป็นที่พึ่งของหนุ่มสาวที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพ นอกจากเน้นความสะดวกรวดเร็วยังคำนึงถึงสารอาหารที่ครบถ้วนในเวลาเดียวกัน เพราะในนํ้าผลไม้ส่วนใหญ่อุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด อาทิ วิตามินเอที่มีผลต่อการบำรุงสายตาและผิวพรรณ, วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสะที่มีส่วนช่วยในการชะลอความแก่, โพแทสเซียมช่วยลดความดันโลหิต รักษาอาการภูมิแพ้ เป็นต้น ในฐานะผู้คร่ำหวอดอยู่วงการเครื่องดื่ม พงศกร พงษ์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดริงค์โคโลจีสต์ จำกัด ผู้ผลิตนํ้าผลไม้เพื่อสุขภาพ “อีฟ ฟรุตตามิน” เผยว่า ส่วนตัวเป็นคนดูแลสุขภาพตลอด โดยแบ่งเวลาออกกำลังกายและเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ เคล็ดลับง่าย ๆ อีกอย่างคือการเลือกกินผลไม้เป็นประจำ แต่เนื่องจากชีวิตประจำวันที่เร่งรีบการดื่มนํ้าผลไม้ควบคู่กันไปก็สามารถทดแทนวิตามินในส่วนที่ร่างกายขาดไปในแต่ละวันได้เทียบเท่าการกินผลไม้สด ๆ แต่ก็ต้องใส่ใจในการเลือกและตรวจสอบฉลากก่อนซื้อเพื่อสุขภาพที่ดี เมื่อได้มีโอกาสผลิตนํ้าผลไม้พร้อมดื่ม จึงให้ความสำคัญกับรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ เลือกนำเข้าเทคโนโลยีการผลิตบรรจุแบบปลอดเชื้อ โคลด์ อะเซฟติค ฟิลลิ่ง (Cold Aseptic Filling) ทันสมัยที่สุดจากประเทศฝรั่งเศสมาใช้ผลิตนํ้า ผลไม้เพื่อสุขภาพในบรรจุภัณฑ์ขวดพีอีที (PET) ที่สามารถนำมารีไซ เคิลแปรรูปกลับมาเป็นทรัพยากรได้ใหม่ โดยเทคโนโลยีการบรรจุเย็นแบบปลอดเชื้อนี้เป็น การใช้ระบบยูเอชที

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ระวัง!! น้ำหมัก “ผู้ใหญ่สุพรรณ-โสมตังเซียง” เชื้อโรคเพียบ

ศูนย์วิทย์โคราชตรวจพบน้ำหมัก “ผู้ใหญ่สุพรรณ-โสมตังเซียม” พบเชื้อโคลิฟอร์ม อี.โคไล เพียบ แถมเจอสารอันตรายทั้งไดคลอโรมีเทน และไซ-โปรเฮปตาดีน เกินมาตรฐานกำหนดอื้อ ชี้กินแล้วเลือดออกในทางเดินอาหาร คลื่นไส้อาเจียน สูดดมมากถึงขั้นตาย เร่งประสาน สสจ.จัดการ พ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า เมื่อไม่นานมานี้ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 9 นครราชสีมา ได้รับตัวอย่างส่งตรวจจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา จำนวน 3 ตัวอย่าง จำแนกเป็นของเหลวใสในขวดแก้วสีชา จำนวน 1 ตัวอย่าง และตัวอย่างเครื่องดื่มน้ำหมักในภาชนะบรรจุปิดสนิทจำนวน 2 ตัวอย่าง ได้แก่ เครื่องดื่มน้ำหมักพืชแท้เต็มพลัง “ตราผู้ใหญ่สุพรรณ” และเครื่องดื่มน้ำสมุนไพรหมักเต็มพลัง ตรา “โสมตังเซียม” ซึ่งผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการพบเชื้อโคลิฟอร์ม และ อี.โคไล ซึ่งเป็นเชื้อก่อโรคอาหารเป็นพิษในปริมาณที่เกินมาตรฐานกำหนด รวมทั้งมีส่วนผสมของยาและสารเคมีอันตรายในเครื่องดื่มน้ำหมักทั้ง 2 ตัวอย่าง ได้แก่ สารไดคลอโรมีเทน และ สารไซ-โปรเฮปตาดีน – (

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

“เนคเทค -ทรู”แจ้งย้ายสถานที่จัดงาน “APRICOT 2014” จาก กทม.ไปมาเลเซีย

วันนี้(30ม.ค.) นายสุพจน์ มหพันธ์ ผู้อำนวยการ ด้านธุรกิจบริการระหว่างประเทศ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ทางศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ(เนคเทค) และ บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น   และคณะผู้จัดงานทั้งAsia & Pacific Internet Association (APIA) และAsia Pacific Network Information Centre (APNIC) มีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดให้มีการประชุม APRICOT 2014ขึ้นในประเทศไทย  ในระหว่างวันที่ 18-28 ก.พ. 57ที่กรุงเทพฯ แต่เนื่องจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในประเทศขณะนี้ คณะผู้จัดงาน จึงขอแจ้งย้ายสถานที่จัดงาน “APRICOT 2014″ ไปยังเมืองเปตาลิง จายา ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเราต้องขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นมา ณ ที่นี้ ทั้งนี้ ผู้สนใจร่วมงานAPRICOT 2014ยังสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://2014.apricot.netหรือสอบถามข้อมูลการจัดงานได้ที่อีเมล์ secretariat@apricot2014.net อนึ่งงานประชุมนานาชาติ “APRICOT 2014″ เป็นงานประชุมผู้ให้บริการและผู้เชี่ยวชาญด้านอินเทอร์เน็ตจากทั่วโลก ซึ่งศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ และ บมจ.

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ภัยเงียบจากการใช้คอมพิวเตอร์ (1)

โรคที่มากับคอมพิวเตอร์ในที่นี้ไม่ใช่ “ไวรัสคอมพิวเตอร์” หรือ “โปรแกรมตัวหนอน” ซึ่งเป็นบ่อนทำลายข้อมูลในคอมพิวเตอร์ แต่หมายถึงความเจ็บป่วยที่อาจเกิดจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันคงไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานเกือบทุกอย่าง รวมทั้งใช้เพื่อความเพลิดเพลิน การศึกษาและการติดต่อสื่อสารต่างๆ ในอนาคตคอมพิวเตอร์จะยิ่งมีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันจนแทบขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งใดที่มีประโยชน์มากก็อาจมีโทษมหันต์ ในแง่สุขภาพของเราการใช้คอมพิวเตอร์อาจมีพิษภัยต่อสุขภาพได้ถ้าใช้ไม่ถูกวิธี ซึ่งความเจ็บป่วยที่ว่าอาจเกิดจากการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์นานเกินไป โดยเกิดขึ้นได้กับอวัยวะต่างๆ และทำให้เกิดโรคได้ ตา ในขณะที่จ้องดูจอคอมพิวเตอร์จะมีส่วนของนัยน์ตาอย่างน้อย 2 ส่วนที่ต้องทำงานส่วนแรกคือ กล้ามเนื้อตาที่จะต้องคอยหดเกร็งตัวเพื่อปรับเลนส์ตาให้มีความหนาเหมาะสมให้แสงจากจอไปตกบนฉากรับภาพด้านหลังตาหรือที่เรียกว่า เรตินา (retina) เพื่อให้ได้ภาพคมชัด ดังนั้น ถ้าดูจอคอมพิวเตอร์ต่อเนื่องกันนานๆ กล้ามเนื้อตาจะต้องทำงานหนักจนกล้ามเนื้ออาจเกิดอาการล้าได้นานวันก็อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงของสายตา เช่น สายตาสั้นหรือสายตายาว อีกส่วนที่ต้องทำงานหนักคือ จอรับภาพด้านหลังตาหรือเรตินา ซึ่งประกอบด้วยเซลล์รับแสง 2 ชนิด ชนิดหนึ่งเป็นแท่ง ทำหน้าที่รับแสงไม่สว่างมากเช่น ภาพดำขาว อีกชนิดหนึ่งเป็นรูปโคนรับแสงที่สว่าง เช่น ภาพสีต่างๆ แล้วส่งสัญญาณไปยังสมอง สองส่วนนี้ หากใช้งานหนักหรือจ้องจอนานเกิน 2 ชั่วโมงบ่อยๆ อาจทำให้การทำงานของเรตินาเสื่อมก่อนเวลาอันควร ดังนั้น การใช้คอมพิวเตอร์ที่ถูกต้องจึงไม่ควรใช้สายตาดูหน้าจอนานเกินไป  และควรมีการพักสายตา โดยการเปลี่ยนไปมองระยะไกลๆ บ้างสัก 10-15 นาที  จึงค่อยกลับมาใช้คอมพิวเตอร์ใหม่– (

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ผลสำรวจชี้คนไทยภาษาอังกฤษอ่อนมาก

รายงานในเว็บไซด์ของสถาบัน“เอดูเคชันเฟิสต์”(อีเอฟ)แห่งกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เมื่อวันที่30 ม.ค.ประกาศผลการจัดอันดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของบุคคลในวัยผู้ใหญ่ใน ประเทศต่างๆที่ไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักรวม60 ประเทศทั่วโลกปรากฎว่าไทยอยู่อันดับเกือบรั้งท้ายที่55ทั้งนี้อีเอฟซึ่งเป็น องค์กรนานาชาติที่เชี่ยวชาญเรื่องการฝึกอบรมภาษาขนาดใหญ่ที่สุดในโลกมี โรงเรียนในเครือกว่า 400แห่งทั่วโลกประกาศผลการจัดอันดับทักษะการใช้ภาษาอังกฤษประจำปี2556 โดย10 อันดับแรกได้แก่1.สวีเดน(68.69) 2.นอร์เวย์(66.60) 3.เนเธอร์แลนด์(66.19) 4.เอสโตเนีย(65.55) 5.เดนมาร์ก(65.15) 6. ออสเตรีย(62.66) 7.ฟินแลนด์(62.63) 8.โปแลนด์(62.25) 9.ฮังการี(60.41) 10.สโลวีเนีย(60.19) ส่วน10 อันดับรั้งท้ายคือ50.จอร์แดน(46.44) 51.กาตาร์(45.97) 52.กัวเตมาลา(45.72) 53.เอลซัลวาดอร์(45.29) 54.ลิเบีย(44.65) 55.ไทย(44.44) 56.ปานามา(43.61) 57.คาซัคสถาน(43.47) 58.แอลจีเรีย(43.16) 59.ซาอุดิอาระเบีย(41.19) 60.อิรัก(38.16) ทั้งนี้คะแนนของไทยปี 2556เพิ่มขึ้นจาก 44.36คะแนน ของปี 2555และ 39.41 คะแนนในปี2554โดยคะแนนดังกล่าวประเมินจากผลการทำข้อสอบประชาชนทั่วโลกหลาย แสนคน ส่วนประเทศในภูมิภาคอาเซียนอื่นได้ลำดับทักษะภาษอังกฤษดังนี้มาเลเซีย อยู่ที่ 11มีคะแนน 58.99สิงคโปร์อยู่ลำดับที่12 มีคะแนน58.92อินโดนีเซียอยู่ที่25 มีคะแนน53.44 คะแนนเวียดนามอยู่ที่ 28มีคะแนน 52.27คะแนน ด้านประเทศในเอเชียอื่นๆมีลำดับดังนี้ญี่ปุ่นอยู่ลำดับที่ 25จีนอยู่ที่ 34เกาหลีใต้อยู่ที่ 24และอิเดียอยู่ลำดับที่21 รายการอ้างอิง

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

นักวิทยาศาสตร์สหรัฐพัฒนาแบตเตอรี่พลังน้ำตาล

นักวิทย์เวอร์จิเนียพัฒนา “ไบโอแบตเตอรี่” ใช้พลังงานจากน้ำตาลเล็งต่อยอดทำแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนใช้ครั้งเดียวทิ้ง วันนี้(30ม.ค.57)กระแสการพัฒนาเซลล์เชื้อเพลิงทางเลือกรุดหน้าไม่หยุดหย่อน ล่าสุดเป็นทีมนักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเวอร์จิเนีย เทค สหรัฐอเมริกา ประกาศความก้าวหน้าในการพัฒนา “ไบโอแบตเตอรี่” ใช้พลังงานจากน้ำตาล  สามารถกักเก็บพลังงานได้มากกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมในขนาดเท่ากันแบบที่ใช้กับสมาร์ทโฟน อนาคตอาจนำมาใช้แทนทั้งแบตเตอรี่แบบชาร์จซ้ำหรือใช้แล้วทิ้ง แถมยังมีราคาถูกกว่า เติมพลังงานได้ง่ายเพียงแต่เติมความหวานลงไป ย่อยสลายได้ และเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม วาย เอช จาง ศาสตราจารย์ด้านวิศวกรรมระบบชีวภาพ ที่เวอร์จิเนีย เทค กล่าวว่า น้ำตาลเป็นสารประกอบเก็บพลังงานชั้นดีตามธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้ เราจึงพยายามที่จะใช้ประโยชน์จากพลังงานธรรมชาตินี้มาผลิตแบตเตอรี่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม – ( 11 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ค้นพบมะเขือเทศม่วงช่วยชะลอมะเร็ง

นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษปรับสายพันธุ์มะเขือช่วยชะลอมะเร็งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ วันนี้(29ม.ค.57)นักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ประสบความสำเร็จในการปรับสายพันธุ์มะเขือเทศจากที่มีผลสีแดงให้มีผลสีม่วง ได้ และสีม่วงของมะเขือเทศสายพันธุ์นี้ได้รับการยืนยันจากผลทดลองกับหนู ทดลองแล้วว่าสามารถชะลอมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังสามารถต้านการติดเชื้อและมี ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย มะเขือเทศสีม่วงนี้มีสารแอนโธไซยานินปริมาณสูง ซึ่งเป็นสารชนิด เดียวกับที่ พบในผลบลูเบอร์รี่ แบล็กเบอร์รี่ และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่อื่นๆ โดยนักวิจัยได้ทดลองกับหนูที่เป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองและกินอาหารธรรมดา หนู กลุ่มนี้ตายด้วยโรคมะเร็งภายใน 142 วัน  ในขณะที่หนูอีกกลุ่มหนึ่งกินผงสกัด จากมะเขือเทศสีม่วงเป็นประจำใช้เวลาประมาณ 182 วันกว่าจะตาย นักวิชาการ กล่าวว่า ผลไม้อื่นๆ ที่มีสีม่วงก็สามารถป้องกันมะเร็งบางชนิดได้ นอกจากนี้ นักวิชาการด้านโภชนาการชาว เยอรมัน โวลเคอร์ โบฮ์ม จากมหาวิทยาลัย Jena กล่าวยืนยันว่า มะเขือเทศสี ม่วงมีประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่มะเขือเทศสีแดงก็มีประโยชน์เหมือนกันในการลด ความเสี่ยงกับโรคมะเร็งเพราะสารแคโรธีนอย (สีส้มและสีแดง) ก็ช่วยดักจับ อนุมูลอิสระเช่นกัน แต่ร่างกายมนุษย์สามารถดูดซึมสารแอนโธไซยานินได้ดีกว่า แคโรธีนอยด์เพราะแคโรธีนอยด์ละลายในน้ำมัน ดังนั้น ในการปรุงมะเขือเทศจึง ควรมีน้ำมันเป็นส่วนผสมด้วยก็จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น รายการอ้างอิง : ค้นพบมะเขือเทศม่วงช่วยชะลอมะเร็ง. (2557, 29 มกราคม). TNN24. ค้นเมื่อวันที่  30 มกราคม 2557, จากhttp://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=21258&t=news.   – ( 69 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

กูเกิลชวนเล่นเลโก้ผ่าย Build with Chrome

GoogleจับมือLegoเปิดตัวเว็บไซต์ Build with Chrome เล่นตัวต่อเลโก้ผ่านหน้าเว็บ ผ่านเว็บบราวเซอร์ Chrome วันนี้(30ม.ค.57)กูเกิลได้ร่วมมือกับเลโก้เปิดเว็บไซต์ Build with Chrome สำหรับออกแบบและสร้างสรรค์สิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ด้วยตัวต่อเลโก้ ที่ทุก ๆ คนสามารถเข้าไปเล่นได้ฟรีผ่านหน้าเว็บโดยไม่ต้องเสียเงินซื้อตัวต่อเลโก้ของ จริง และเมื่อสร้างเสร็จแล้วก็สามารถนำไปแชร์ไว้บน Google Maps ให้คนอื่นสามารถเข้ามาชมผลงานของเราได้อีกด้วย (แต่ต้องแชร์ผ่านบัญชี Google+ เท่านั้น) ทั้งนี้ เว็บไซต์ Build with Chrome สามารถเข้าใช้งานได้ด้วยเว็บบราวเซอร์ Chrome เท่านั้น โดยสามารถใช้ได้ทั้ง Chrome บนคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตจ้า รายการอ้างอิง : กูเกิลชวนเล่นเลโก้ผ่าย Build with Chrome. (2557, 30 มกราคม). TNN24. ค้นเมื่อวันที่  30 มกราคม 2557, จาก http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=21430&t=news.– (

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments