อย. เผยคนไทยใช้ยาพาราเซตามอลพร่ำเพรื่อ คิดว่ารักษาได้ทุกอาการปวด หากใช้มากอาจเป็นพิษต่อตับ และเสียชีวิต แนะ ไม่ควรกินเกินวันละ 8 เม็ด… วันที่ 22 ม.ค. 57 มีรายงานว่า นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ พบข้อมูลการใช้ยาพาราเซตามอลของคนไทยส่วนใหญ่ มักใช้เกินกว่าปริมาณที่กำหนด เพราะมองว่าเป็นยาพื้นฐาน มีความปลอดภัย และเข้าใจว่าสามารถรักษาได้ทุกอาการปวด ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด เนื่องจากยาแก้ปวดแต่ละชนิด มีประสิทธิภาพในการรักษา และความปลอดภัยในการใช้ยาแตกต่างกัน โดยทั่วไปแบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มยาแก้ปวด ที่ใช้ระงับอาการปวดที่รุนแรงถึงรุนแรงมากที่สุด แต่ไม่มีฤทธิ์ลดไข้ เช่น มอร์ฟีน (morphine) ทรามาดอล (Tramadol) ยากลุ่มนี้จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาทส่วนกลาง ใช้ระงับความเจ็บปวดที่รุนแรงจากอวัยวะภายใน เช่น ปวดนิ่วในไต ปวดกล้ามเนื้อหัวใจจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด ปวดจากบาดแผลที่มีขนาดใหญ่ เช่น หลังการผ่าตัด การคลอดลูก โรคมะเร็ง ยาประเภทนี้ต้องใช้ใบสั่งแพทย์ในการซื้อ จึงมักใช้กับคนไข้ในโรงพยาบาลหรือคลินิกเป็นส่วนใหญ่ ยากลุ่มดังกล่าวอาจก่อให้เกิดอาการข้างเคียงสูง หากได้รับยาเกินขนาดจะทำให้เกิดภาวะอื่นๆ ตามมา
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
Camera Mouse เมาส์ถ่ายรูปได้
King Jim บริษัทในญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัวเมาส์รุ่นใหม่ CMS 10 ที่มาพร้อมกับกล้องดิจิตอลในวันที่ 31 มกราคม 2557 โดยจับกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องทำจัดเอกสาร รายงาน หรืออีเมล์ที่ต้องประกอบกับรูปภาพ ผลิตภัณฑ์ หรือสิ่งของบางอย่าง ซึ่งน่าจะรวมถึงการใช้เมาส์ติดกล้องนี้ถ่ายรูปสิ่งต่างๆ รอบตัว เพื่อแชร์บนเฟซบุ๊ก หรือทวิตเตอร์ด้วย อย่างไรก็ตาม ภาพที่ถ่ายด้วเมาส์ติดกล้องนี้จะมีขนาดเล็ก เนื่องจากความละเอียดกล้อง 2 ล้านพิกเซลเท่านั้น (ขนาดไฟล์ภาพ 300 – 500K) โดยหลังจากถ่ายภาพเสร็จแล้ว (ปุ่มชัตเตอร์จะอยู่ด้านข้าง) เราสามารถถ่ายโอนข้อมูลเข้าสู่พีซีได้ทันทีผ่านทางซอฟต์แวร์ที่มาด้วยกัน นอกจากซอฟต์แวร์ที่มากับ CMS 10 จะช่วยอำนวยความสะดวกในการถ่ายโอนไฟล์ภาพแล้ว มันยังมีฟังก์ชันพื้นฐาน สำหรับการแก้ไขภาพที่ถ่ายให้ด้วย สำหรับไฟล์ภาพที่สามารถบันทึกได้จะมี 3 ฟอร์แมต แต่ถ้าเป็นการบันทึกวิดีโอจะได้ 2 ฟอร์แมตคือ WMA และ AVI ถึงแม้กล้องที่มากับเมาส์ จะมีความละเอียดไม่สูงมากนัก แต่สามารถใช้สแกน QR code ได้ด้วย – ( 23 Views)
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
‘อีพับ’ อีบุ๊กมาตรฐานอ่านได้ทุกคน
การทำหนังสือได้ปรับตัวไปตามเทคโนโลยี จากกระดาษเปลี่ยนมาเป็นอีบุ๊ก หรือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการเข้าถึงข้อมูลด้วยอุปกรณ์พกพาคู่กาย แต่การเข้าถึงอีบุ๊กในปัจจุบันก็ยังมีช่องว่างโดยเฉพาะในกลุ่มผู้พิการทางสายตา ดังนั้นจึงมีการพัฒนาสิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Publication ) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า อีพับ (EPUB) ขึ้นเพื่อให้เป็นอีกหนึ่งมาตรฐานของการสร้างหนังสืออิเล็ก ทรอนิกส์ ที่แม้แต่ผู้พิการทางสายตาก็สามารถเข้าถึงได้ และเป็นมาตรฐานที่ไม่มีลิขสิทธิ์ “ดร.ณัฐนันท์ ทัดพิทักษ์กุล” นักวิจัยจากศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ หรือเนคเทค บอกว่า อีพับเกิดจากการร่วมมือระหว่างองค์กรระหว่างประเทศ คือ The International Digital Publication Forum (IDPF) และ Daisy Consortium ปัจจุบันพัฒนามาถึงเวอร์ชั่นที่ 3– ( 18 Views)
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
นาฬิกาบอกเวลาด้วยกลิ่น
นาฬิกาอัจฉริยะส่วนใหญ่มักจะบอกผู้ใส่ให้รู้เกี่ยวกับตารางนัดหมาย, เปิดอ่านอีเมล, แจ้งเตือนต่างๆ โดยเชื่อมกับมือถือหรือแม้แต่การวัดค่าด้านสุขภาพ แต่ Aisen Caro Chacin อาจารย์ผู้สอนคอมพิวเตอร์ที่ Parsons New School for Design ในนิวยอร์ก ได้สร้างนาฬิกาอัจฉริยะที่แตกต่างออกไปเพื่อช่วยเตือน ในรูปแบบที่ไม่เครียด แทนที่จะใช้ตาดูแต่เค้าเปลี่ยนมาใช้การดมกลิ่นแทน นาฬิกาเรือนนี้มีชื่อว่า Scent Rhythm มันจะปล่อยน้ำหอมออกมาได้ โดยกลิ่นที่ปล่อยออกมาจะเกี่ยวข้องกับการตื่นนอน, การตื่นตัว, การผ่อนคลายและการนอนหลับ ตัวเรือนของนาฬิกา จะมีความหนาหน่อยเพราะด้านล่างของหน้าปัดจะติดตั้งหลอดแก้วเล็กๆ 4 หลอดที่มีกลิ่นแตกต่างกันเอาไว้ ทุกๆ 6 ชั่วโมงนาฬิกาก็จะปล่อยกลิ่นหอมๆออกมาตามแต่ละช่วงเวลาของวัน เช่น ปล่อยกลิ่นกาแฟเอสเพรสโซ่ออกมาเพื่อปลุกให้คุณตื่นนอน หรือปล่อยกลิ่นดอกคาโมมายล์เมื่อถึงเวลาเข้านอน ซึ่งกลิ่นเหล่านี้จะพ่นออกมาตามนาฬิกาในร่างกายของมนุษย์ ในส่วนของหน้าปัดนาฬิกาจะเป็นเครื่องพ่นละอองน้ำขนาดเล็ก เมื่อถึงเวลาที่ต้องพ่นน้ำหอมออกมา มันก็จะใช้คลื่นเสียงอัลตราโซนิคในการสั่นน้ำหอมในหลอดแล้วให้กลายเป็นละอองน้ำแล้วพ่นออกมา ส่วนพลังงานก็จะใช้ไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ลิเธียมไออนในตัว ชาร์จหนึ่งครั้งใช้งานได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง แบตหมดสามารถชาร์จผ่านสาย micro-USB ได้ ที่มา : ฉัตรปวีณ์ ตรีชัชวาลวงศ์. (2557, 20 มกราคม). นาฬิกาบอกเวลาด้วยกลิ่น. ครอบครัวข่าวสามออนไลน์.
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
เยอรมนี..สร้างหุ่นยนต์ลิงฝึกเดิน 2 เท้า
นักวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์วิจัยปัญญาประดิษฐ์ของเยอรมนี พัฒนาหุ่นยนต์คล้ายลิง ถูกตั้งชื่อว่า ชาร์ลี มีลักษณะพิเศษคือส่วนสันหลังที่ยืดหยุ่น ทำให้มันสามารถลุกขึ้นยืนตรง 2 เท้า และเดิน 4 เท้าแบบเดียวกับลิง ขณะนี้นักวิจัยกำลังพยายามสอนให้มันก้าวเดิน 2 เท้าแบบเดียวกับคน หัวใจสำคัญอีกอย่างของงานวิจัยนี้คือ การพัฒนาเท้าที่มีระบบเซ็นเซอร์ สามารถสร้างข้อมูลการเคลื่อนไหวแบบหกทิศทางเหมือนมนุษย์ เพื่อสอนให้หุ่นยนต์ สามารถยืนตัวตรง เดินและวิ่งได้ในที่สุด แต่กว่าจะมาถึงขั้นนี้ได้หุ่นยนต์จะต้องเรียนรู้การทิ้งน้ำหนักและจังหวะก้าวเดิน ซึ่งเป็นการฝึกเดินเลียนแบบระบบชีวกลของสัตว์ที่ประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อ กระดูก และเอ็น ห้องปฏิบัติการทดสอบของชาร์ลี ถูกออกแบบให้ดูเหมือนพื้นผิวดวงจันทร์ เป็นการสร้างแรงบันดาลใจว่า สักวันจะมีการพัฒนาหุ่นยนต์เดินสองเท้ารุ่นต่อไป เพื่อขึ้นไปทำงานสำรวจดาวเคราะห์แทนมนุษย์ ที่มา : เยอรมนี..สร้างหุ่นยนต์ลิงฝึกเดิน 2 เท้า. (2557). ครอบครัวข่าวสามออนไลน์. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2557. จาก http://www.krobkruakao.com/ข่าวต่างประเทศ/86874/เยอรมนี–สร้างหุ่นยนต์ลิงฝึกเดิน-2-เท้า.html– ( 9 Views)
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
ลาว-แขวงบ่อแก้วเตรียมแผนพัฒนาการท่องเที่ยวรับ AEC
แขวงบ่อแก้ว ของประเทศลาว เปรียบเสมือนเมืองคู่แฝดของเชียงของ เชื่อมไทยกับสปป. ลาวตอนบน เตรียมแผนการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้มากขึ้นในปี 2557 บ่อแก้ว เป็นแขวงที่มีขนาดเล็กที่สุดของลาว มีพรมแดนติดกับไทย และพม่า ห่างจากชายแดนจีนเพียง 100 กิโลเมตร ในปีที่ผ่านมา (2556) มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเที่ยวเกือบ 4 แสนคน เป็นนักท่องเที่ยวจากจีนกว่า 1 หมื่นคนจากไทยเกือบ 6 หมื่นคน และประเทศอื่นๆรวมกันกว่า 3 แสนคน ส่วนใหญ่ต้องการมาเยี่ยมชม เรียนรู้วัฒนธรรม และประเพณีของชนเผ่าต่างๆ ทางแขวงจึงได้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมของเผ่าขึ้นอีก 1 แห่ง และปรับปรุงแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เพื่อเตรียมความพร้อม สำหรับงานท่องเที่ยวประจำปีของแขวง ที่จะมีขึ้นวันที่ 24 ถึง 26 มกราคม 2557 สำนักงานการท่องเที่ยวแขวงบ่อแก้วได้ขอความร่วมมือจากบริษัทท่องเที่ยวใน แขวงบ่อแก้วทั้งหมด 14 แห่ง ให้ปฏิบัติตามระเบียบกฏหมายใหม่ด้านการท่องเที่ยว ที่มา : ลาว-แขวงบ่อแก้วเตรียมแผนพัฒนาการท่องเที่ยว. (2557). ครอบครัวข่าวสามออนไลน์. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 22
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
เมื่อจบยุคสารสนเทศ อะไรจะมาต่อ
หากมองย้อนไปในอดีตที่ผ่านมาจะเห็นว่า โลกเรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลานะครับ แรก ๆ ก็เป็นยุคโบราณ (Ancient Age) จนเปลี่ยนถ่ายมาเป็น ยุคเกษตรกรรม (Agriculture Age) ที่การเพาะปลูกและการใช้แรงงานในภาคเกษตร กรรมเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนโลก ต่อมาเมื่อมีการพัฒนาเครื่องจักรต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น ก็เข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม (Industrial Age) และในที่สุดก็เปลี่ยนถ่ายเข้ามาสู่ปัจจุบัน ยุคสารสนเทศ (Information Age) หรือบางคนก็เรียกว่ายุคแห่งข้อมูลข่าวสาร ที่มีการขับเคลื่อนโลกของเราด้วยข้อมูลข่าวสาร เกิดอินเทอร์เน็ต เกิดเครือข่ายสังคมออนไลน์ขึ้น เกิดปรากฏ การณ์ที่ข้อมูลข่าวสารปริมาณมหาศาลไหลสู่กันอย่างรวดเร็วกว่าสมัยก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญมาก เช่น เกิดเหตุสึนามิที่ญี่ปุ่น คนที่อยู่ลาตินอเมริกาในอีกซีกโลกก็สามารถรับรู้ข่าวนี้ได้ในเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่วินาที เรียกว่าเป็นยุคที่เปลี่ยนแปลงโฉมหน้าของโลกเราอย่างมากจริง ๆ แต่คำถามคือเมื่อหมดยุคข้อมูลข่าวสารนี้แล้ว ยุคอะไรจะมาต่อ? เรื่องนี้มีนักวิชาการทั่วโลกพยากรณ์เอาไว้แตกต่างกันครับ บ้างก็บอกน่าจะเป็นยุคแห่ง เทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology Age) บ้างก็ว่าน่าจะเป็นยุคแห่งนาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology Age) ที่ทุกอย่างจะเล่นกันไปถึงระดับที่เล็กมากในระดับนาโน ทั้งสองยุคที่ผมกล่าวไปก็น่าสนใจครับ แต่มีอีกยุคหนึ่งที่นักวิชาการทางคอมพิวเตอร์ท่านหนึ่งได้ทำนายเอาไว้ แต่หลายคนอาจจะยังไม่คุ้นเคยนัก ใช่ครับ วันนี้ผมจะพาคุณผู้อ่านมารู้จักยุคที่เรียกกันว่า Experience Age – ( 29
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
อียู ทุ่มงบ 8 หมื่นล้านยูโร สร้างเครือข่ายวิจัยอาเซียนและยุโรป
วันนี้(21มค.57) ที่ศูนย์การประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย รังสิต สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ( สวทช. ) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการ “ASEAN-EUScience, Technology and Innovation Days 2014 (STI days)” ขึ้นระหว่างวันที่21 – 23 มกราคม 2557 เพื่อผลักดันความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีระหว่างภูมิภาคอาเซียน และยุโรป ดร. ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช.เปิดเผยว่า งานประชุมดังกล่าว มีทั้งการ ประชุมเชิงปฏิบัติการในหลากหลายหัวข้อที่เป็นปัญหาท้าทายของสังคมโลกใน ปัจจุบันเช่น ความมั่นคงทางอาหาร สุขภาพ และการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการแสดงนิทรรศการโดยหน่วยงานให้ทุนวิจัยจากสหภาพยุโรป กลุ่มโครงการวิจัยและบริษัทธุรกิจนวัตกรรม นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัวโครงการHorizon 2020 ซึ่งจะเป็นความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ระหว่างภูมิภาคอาเซียนและยุโรป ภายใต้กรอบวงเงินสนับสนุนมากกว่า 8 หมื่นล้านยูโร ในระยะเวลา 7ปี(พศ.2557-2563) ด้านดร.พิเชษฐ์ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ(สวทน.) ในฐานะผู้แทนอาเซียน กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นการขยายความร่วมมือจากโครงการเดิมที่ประสบความสำเร็จใน7
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
สทน. เตือน ใช้เครื่องสำอางสมุนไพรเสี่ยงเชื้อโรค
ปัจจุบันมีคนจำนวนไม่น้อยที่มักใช้สมุนไพรในการพอกหน้า ขัดผิว ทดแทนการใช้เครื่องสำอางสูตรปัจจุบัน ที่มีส่วนประกอบเป็นสารเคมีเป็นส่วนใหญ่ แต่การใช้สมุนไพรเหล่านี้ หากไม่มีมาตรฐานก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน ดร.สมพร จองคำ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือสทน .กล่าวว่า การใช้ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ขัดหน้า ขัดตัวจัดเป็นเครื่องสำอางที่ต้องได้มาตรฐานเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ ซึ่งผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 152-2555 เครื่องสำอาง ได้กำหนดให้มีการตรวจเชื้อจุลินทรีย์ในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางดังนี้ คือ จำนวนเชื้อจุลินทรีย์ทั้งหมดต้องน้อยกว่า 1,000 โคโลนีต่อกรัม และจะต้องไม่พบเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคประเภท Staphy lococcus aureus, Pseudomonas aeruginosa ซึ่งเป็นเชื้อโรคที่ส่งเสริมให้เกิดการติดเชื้อรุนแรงขึ้น เช่น หากติดเชื้อที่ปอดอาจจะทำให้ปอดและหลอดลมอักเสบ รวมถึงหากได้รับเชื้อทางผิวหนังอาจจะทำให้เกิดโรคทางผิวหนังชนิด ecthyma gangrenosum คือ มีอาการลักษณะบวม แดง ค่อนข้างแข็ง ต่อมาจะกลายเป็นเนื้อตายได้ และในเครื่องสำอางสมุนไพรจะต้องตรวจไม่พบ Clostridium spp. ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคบาดทะยัก– ( 18 Views)
![formats](../../../../../wp-content/themes/ifeature/images/formats/default.png)
“มดสีรุ้ง” วิทยาศาสตร์ ศิลปะ บนความบังเอิญ
ภาพ “มดสีรุ้ง” นี้เป็น 1 ใน Top 10 ประจำเดือนที่เป็นการรวบรวมเนื้อหาต่างๆ ที่ “สำรวจโลก” ได้โพสลงบน www.facebook.com/samrujlok มาจัดอันดับโดยนำเนื้อหาที่มีแฟนเพจกดไลท์มากที่สุดในแต่ละเดือนมาให้ชมกัน โดยภาพ “มดสีรุ้ง” เป็นภาพยอดนิยมของเดือนพฤษภาคม 2013 มดสีรุ้งที่เห็นอยู่นี้เป็นภาพถ่ายที่สร้างสรรค์โดย Dr. Babu การที่มดเป็นสีรุ้งนี้ค้นพบจากความช่างสังเกตของเขา จากการที่วันหนึ่งภรรยาของ Dr. Babu ได้ทำนมหกบนพื้นแล้วมีมดมารุมดื่มกินนมที่หกบนพื้นนั้น Dr.Babu ได้สังเกตเห็นท้องของมดจากเดิมที่เคยมีลักษณะใสๆ เกิดเป็นสีขาวขุ่นเหมือนกับสีของนมที่มดได้ดื่มเข้าไป เมื่อเห็นดังนั้น Dr.Babu จึงได้ทดลองนำสีต่างๆ ผสมกับน้ำเชื่อม เช่น สีแดง สีน้ำเงิน สีเขียว และสีเหลือง แล้วหยดลงบนพื้นเพื่อล่อให้มดเข้ามากิน ผลที่เกิดขึ้นคือท้องของมดที่ดื่มกินน้ำเชื่อมสีต่างๆ นั้นจะแสดงเป็นสีตามที่มดได้ดื่มน้ำเชื่อมผสมสีเข้าไป และสิ่งที่ Dr.Babu สังเกตเห็นยิ่งกว่านั้นคือ ดูเหมือนว่าเหล่ามดทั้งหลายนี้จะชอบสีเขียวและสีเหลืองมากเป็นพิเศษ ด้วยความที่ Dr.Babu เป็นนักวิทยาศาสตร์ จึงให้นิยามของการทดลองนี้ว่า “you are what you eat” ดั่งที่คนไทยชอบพูดกันเสมอว่า “กินอะไรย่อมได้อย่างนั้น”