magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home Archive for category "เก็บมาเล่า เอามาฝาก" (Page 166)
formats

ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน

ในร่างกายของเรามีฮอร์โมนตัวหนึ่งซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน”  เพราะฮอร์โมนชนิดนี้ส่งผลให้เกิดความรู้สึกผูกพัน  อบอุ่น คลายกังวล  และรู้สึกปลอดภัย  เช่น  ความรู้สึกรักในพ่อแม่  เป็นความรักที่มีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น ความรู้สึกที่ไม่ตื่นเต้น  แต่มีความอบอุ่นลึกซึ้ง ซึ่งความรู้สึกดังกล่าวนี้  เป็นความรู้สึกที่ได้รับผลกระทบมาจาก “ฮอร์โมนออกซิโทซิน” – ( 285 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ประโยชน์ของลูกพรุน

ลูกพรุน … ผลไม้ที่หลายๆ คนรู้จัก ส่วนมากจะในเรื่องช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดี แต่เจ้าลูกพรุนนี้ยังให้ประโยชน์อีกหลายอย่างไปด้วย เช่น สารอาหาร วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 วิตามินซี โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส แมกนีเซียมและสังกะสี กากใยของลูกพรุนช่วยลดโคเลสเตอรอลได้ เหมาะสำหรับคนที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับความอ้วน มีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยกระตุ้นให้ลำไส้บีบตัว และอุจจาระที่ออกมาก็จะนิ่ม หมดห่วงเรื่องริดสีดวงทวารอีกด้วย มีสารต้านอนุมูลอิสระเยอะจนผลไม้อื่นอิจฉา น้ำตาลจากลูกพรุนเป็นน้ำตาลฟลุคโตสและซอร์บิทอล ซึ่งเป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ร่างกายจึงดูดซึมไปใช้ได้ทันที่กินเข้าไป แคลเซียมในผลไม้ชนิดนี้ จะทำให้คุณเป็นสาวกระดูกเหล็ก ฟันแข็งแรง หัวใจแกร่ง ประสาททำงานเป็นปกติ จะคิดอะไรก็คล่อง มีวิตามิน บี2 ที่ชื่อไรโนฟลาติน ที่ช่วยในการสร้างเม็ดเลือดแดงดีต่อผิว ผิว เล็บ และช่วยเรื่องการมองเห็น อุดมด้วยวิตามินอี ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ยืดอายุของเม็ดเลือดแดง แถมยังบำรุงผิวและบำรุงสายตาให้เห็นชัดในความมืด มีธาตุเหล็กสูงแหล่งที่มา : ลูกพรุน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.doodee.in.th/?cat=406/ลูกพรุน. (วันที่ค้นข้อมูล 3

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ตู้เย็น

ทุกบ้านต้องมีตู้เย็นไว้สำหรับถนอมอาหารให้สด สะอาดอยู่เสมอแน่ เพราะแบคทีเรียทีแฝงตัวอยู่ในอาหารจะเติบโตช้ากว่าปกติในอุณหภูมิต่ำนั่นเอง ตู้เย็นในแต่ละบ้านก็มีขนาดแตกต่างกันไปตามปริมาณการใช้งาน ซึ่งเราจะใช้หน่วยวัดขนาดของตู้เย็นเป็นคิว (ลูกบาศก์ฟุต) โดยตู้เย็นนั้นจะประกอบด้วยส่วนฉนวน เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนไหลเข้ามา และส่วนทำความเย็น เพื่อนำความร้อนออกสู่ภายนอก ตู้เย็นยุคก่อนมักใช้สารทำความเย็นซึ่งมีส่วนผสนของคลอโรฟลูออกโรคาร์บอน (CFCs) ที่ทำลายชั้นโอโซน ปัจจุบันจึงมีการใช้ไฮโดรฟลูออกโรคาร์บอน (HFCs) หรือ ไฮโดรคาร์บอน (HCs) ทดแทน นอกจากนั้น ในตู้เย็นจะมีการแบ่งส่วนตามอุณหภูมิ เพื่อให้เหมาะสมกับการเก็บรักษาอาหารชนิดต่าง ๆ แหล่งที่มา : น้องโนเนะ.  “เคมีรอบบ้าน : ดอกไม้ไฟ”.  Update. 27(291) : 105 ; มกราคม 2555.– ( 144 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

รู้ไหม ไฟจ้าหน้าจอยามค่ำคืน

ปัจจุบันนี้การใช้ชีวิตอยู่เบื้องหน้าหน้าจอสว่างจ้า ไม่ว่าจะเป็นจอคอมพิวเตอร์ จอแท็บเล็ต หรือแม้กระทั่งแสงจากหน้าจอของสมาร์ทโฟนทั้งหลาย ดูเหมือนจะกลายเป็นเรื่องปกติเสียแล้ว แต่รู้ไหมว่าแสงเหล่านี้สามารถส่งผลให้คุณเกิดอาการเครียด และมีปัญหาด้านการเรียนรู้จดจำไปโดยไม่รู้ตัว การที่สายตาของคนเราสัมผัสกับแสงสว่างจ้าเป็นช่วงเวลาที่นานเกินสมควร ไม่ว่าจะเป็นแสงไฟจากหลอดไฟในบ้าน จากจอโทรทัศน์ จากอุปกรณ์ไอทีนานาชนิด หรือจะเป็นกลุ่มที่ทำงานเป็นกะ ที่ต้องตื่นและอยู่ในออฟฟิศที่เปิดไฟสว่างตลอดทั้งคืน ส่งผลให้บุคคลผู้นั้นกลายเป็นผู้ที่มีอาการเครียดหรือซึมเศร้า ไปจนถึงมีปัญหาเรื่องการเรียนรู้จดจำ ซึ่งเป็นผลที่เกิดขึ้นจากการทำงานที่บกพร่องของสมอง และส่วนที่ทำงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดการอารมณ์ การเรียนรู้ และความทรงจำ เมื่อถูกกระตุ้นมากเกินไปด้วยแสงไฟที่สว่างจ้าผิดเวลา จึงนำมาซึ่งการทำงานที่ขาดตกบกพร่องไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ควร เหล่าบรรดามนุษย์เงินเดือนที่ทำงานออฟฟิศ ควรออกมาเดินรับแสงยามเย็นบ้างในระหว่างเดินทางกลับบ้าน นอกจากนี้ ผู้ปกครองก็จำเป็นต้องควบคุมการใช้เวลาอยู่หน้าจอในยามก่อนนอนของบุตรหลานด้วย อย่างน้อยก็น่าจะช่วยให้เด็ก ๆ มีสมาธิและกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ที่โรงเรียนได้เช่นกัน แหล่งที่มา: รู้ไหม…ไฟจ้าหน้าจอยามค่ำคืน เพิ่มความเครียด. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.doodee.in.th/?cat=477/รู้ไหม…ไฟจ้าหน้าจอยามค่ำคืน. (วันที่ค้นข้อมูล 2 ธันวาคม 2555).– ( 100 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

6 วิธีลดความอยากทานอย่างได้ผล…สาว ๆ ฟังไว้

นักโภชนาการแนะ 6 วิธีรับมือการกินอาหารเกินความจำเป็น บางคนต้องรับประทานอาหารเพราะความอยากกินมากกว่าความหิว จนทำให้เกินความต้องการของร่างกาย นำมาซึ่งโรคภัยไข้เจ็บได้โดยไม่รู้ตัว เรามารู้วิธีรับมือกับการจู่โจมของความอยากอาหารแบบไม่ยั้ง และ 6 วิธีลดความอยากรับประทานอาหารอย่างได้ผล ดังนี้ 1. กินเพื่อความสบายใจ ส่วนใหญ่เลือกปฏิบัติมากที่สุด เพื่อต้องการลดความเครียด หลังจากผ่านเรื่องแย่ ๆ จากการทำงาน ผู้บริโภคด้วยเหตุผลนี้ อาจรู้สึกผิดหลังจากหายเครียด เนื่องจากเผลอรับประทานในสิ่งที่ไม่ควรกิน 2. กินเป็นรางวัลให้กับตัวเอง เนื่องจากเหตุผลข้อนี้เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ยาก เพราะมีหลายคนที่ให้รางวัลกับตัวเองด้วยการรับประทานอาหารให้สมอยาก หลังจากประสบความสำเร็จในการควบคุมอาหารและน้ำหนักได้ตรงตามแผนที่วางไว้ แต่ถ้าคุณยอมให้รางวัลกับตัวเอง ที่ได้ปฏิบัติตัวดีด้วยการกินเลี้ยงฉลองมื้อใหญ่ และอาหารที่จัดเลี้ยงฉลองนั้นให้เป็นมื้อพิเศษ ซึ่งทำให้คุณอยากบริโภคอีกหลาย ๆ ครั้ง เพราะอาจทำให้น้ำหนักเพิ่มกลับมาได้อีก เทคนิคแก้ไขนั้นมีอยู่ว่า “สำหรับผู้ที่ต้องการให้รางวัลกับตัวเอง ลองมองหาวิธีอื่นใหม่ ๆ เช่น ดาวน์โหลดเพลงใหม่ ชวนคนรู้ใจไปฟิตเนส หรือเข้ารับบริการนวด แทนการมองหาเมนูเด็ด..ก็จะดีไม่น้อย” ซูซาน กล่าว 3.  กินเพราะคิดว่าควรกิน สำหรับผู้ที่ยังยึดติดกับแนวคิดเดิม ๆ เช่น “ฉันควรกินอาหารจานนี้” หรือ “ไม่อยากขัดศรัทธาอาหารที่แม่เป็นคนปรุงให้” แนะนำให้เปลี่ยนแนวคิดนี้ เพราะอาจทำให้คุณเผลอรับประทานอาหารจนหมดจานโดยไม่รู้ตัว ส่วนเทคนิคแก้ไข

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

10 สัญญาณที่บอกว่าคุณกินอาหารไม่เหมาะสม

ปัจจุบันนี้พฤติกรรมการบริโภคนั้นเป็นกลไกสำคัญที่ส่งผลต่อสุขภาพกายของเราอย่างยิ่ง และสัญญาณอะไรบ้างที่บ่งบอกว่า สิ่งที่รับประทานเข้าไปนั้นไม่ถูกสุขลักษณะเพื่อเป็นเครื่องบ่งชี้ให้ได้รู้ว่า ถึงเวลาแล้วที่เราต้องหันมาลดการบริโภคอาหารเหล่านั้น และดูแลสุขภาพอย่างจริงจังเสียที – ( 156 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

เมล็ดมะตาด บำรุงเส้นผม

ช่วง ต.ค.-พ.ย.เป็นเวลาสุกของผลไม้พื้นบ้าน ที่ชื่อ “มะตาด” ซึ่งคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก ขณะที่คนโบราณหรือคนท้องถิ่น ใช้ประโยชน์มากมายจากพืชนี้ * ผศ.ดร.ไชยยง รุจจนเวท หัวหน้าสาขาวิชาพรีคลินิค สำนักวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง chaiyong@mfu.ac.th แต่ไหนแต่ไรมา คนไทยมีวัฒนธรรมการกินที่ผูกพันธ์กับฤดูกาล ด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศเป็นตัวกำหนดการผลิดอกออกผลของพืชผัก หน้าร้อนจึงเป็นเวลาของ มะม่วง ทุเรียน มังคุด เงาะ หน้าฝนเราก็กิน ผักกูด เห็ดและหน่อไม้ ในหน้าหนาวก็มีข้าวใหม่และผักสดนานาชนิด – ( 704 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

เทคนิคพิชิต “มอด” หนุนเกษตรกรผลิตกาแฟอินทรีย์ยั่งยืน

ปัญหามอดกาแฟในไร่กาแฟอราบิก้า กำลังจะหมดไป เมื่อวิทยาศาสตร์เข้าไปถึง วัฒนธรรมการดื่มกาแฟที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรในภาคเหนือขยับขยายพื้นที่ปลูกเมล็ดกาแฟพันธุ์ดี ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด โดยเฉพาะกาแฟอราบิก้า ที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรเป็นจำนวนมาก จนกระทั่งเกิดการระบาดของ “มอดกาแฟ” แมลงศัตรูพืชตัวฉกาจ ที่เข้าเจาะทะลายเมล็ดกาแฟ สร้างความเสียหายให้กับผลผลิต จากการแพร่กระจายของเชื้อราและแบคทีเรีย – ( 544 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

กลิ่นสีขาว (Olfactory white)

ระบบสัมผัสของมนุษย์นั้นมี ตา หู จมูก ลิ้น กาย ที่เราเรียกกันว่าสัมผัสทั้งห้า ซึ่งปัจจุบันไม่ว่าการมองเห็น หรือการได้ยิน ล้วนแล้วแต่มีจุดๆ หนึ่งที่เราไม่สามารถระบุได้ว่า เป็นแสงสีอะไร หรือเป็นเสียงอะไร ซึ่งทางนักวิทยาศาสตร์จะเรียกสิ่งนั้นว่า white ยกตัวอย่างเช่น ในเรื่องของการมองเห็น สายตาคนเราสามารถมองเห็นสีต่างๆ ได้มากมาย แต่ทำไมเราถึงมองเห็นแสงเป็นสีขาว ไม่ใช่ว่าแสงนั้นเป็นสีขาว แต่เป็นเพราะว่าในแสงนั้นมีสีอยู่มาก (7 สี) แต่สีเหล่านั้นมีความเข้มข้นเท่ากัน ทำให้สมองไม่สามารถประมวลผลได้ว่าเป็นสีอะไร นักวิทยาศาสตร์จึงเรียกสีนี้ว่า “white light” เช่นเดียวกับการได้ยินเสียง เมื่อเราได้ยินเสียงต่างๆ มากๆ หลายๆ เสียง หลายๆ ความถี่ ในเวลาเดียวกัน ด้วยความดังที่เท่าๆ กัน สมองจะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นเสียงอะไร เราก็จะได้ยินเป็นเสียงอื้ออึง ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เรียกเสียงนี้ว่า “white noise” จากการที่มี white light และ white noise แล้ว นักวิทยาศาสตร์จึงสันนิษฐานว่า ในแง่ของการได้กลิ่นก็น่าจะมี olfactory white

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

กระจกอัจฉริยะ

อาคารและบ้านยุคใหม่ที่มีประจกรับแสง อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมภายใน อนาคตปัญหาเหล่านั้นจะหมดไปเมื่อมีกระจกอัจฉริยะเข้ามาแทนที่ ตึกสมัยใหม่ในปัจจุบันเต็มไปด้วยผนังตึกที่ทำด้วยวัสดุกระจกซึ่งเป็นการออกแบบเพื่อให้อาคารดูทันสมัย ดูไม่อึดอัด มองเห็นทัศนียภาพภายนอก และสะดวกรวดเร็วในการก่อสร้าง ดังนั้นเราจะเห็นห้องโถงโรงแรม หรือตึกสำนักงานมีผนังโปร่งแสง แต่บางครั้งเราจะประสบปัญหาเมื่อแสงจากภายนอกส่องเข้ามาภายในในบางช่วงเวลาของแต่ละวัน – ( 955 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments