magnify
magnify

Open Knowledge for all 

Home Articles posted by suthiwan (Page 9)
formats

ซุปจระเข้สกัด

เขียนไม่ผิดหรอกค่ะ เป็นซุปจระเข้สกัดจริงๆ  นักวิจัยจาก “โครงการผลิตภัณฑ์อาหารจากชิ้นส่วนซี่โครงและกระดูกสันหลังจระเข้ ” ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  เป็นผู้วิจัย ผลิตภัณฑ์ที่สกัดจากเนื้อติดกระดูกจระเข้  ซึ่งกระดูกจระเข้มีกรดอะมิโนปริมาณสูงถึง 17 ชนิดด้วยกัน อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนคอลลาเจนชนิดไฮดรอกซีโพรลีนและไฮดรอกซีไซลีนจำนวนมาก โดยคุณสมบัติของคอลลาเจน จะช่วยบำรุงผิวพรรณ เพิ่มความยืดหยุ่น ทำให้ผิวตึงเรียบกระชับ ชุ่มชื้น ซุปจระเข้สกัดมีอายุเก็บรักษาได้นาน 3 ปี มีกลิ่นและรสชาติไม่ต่างจากซุปสกัดทั่วๆ ไป ต้นทุนต่ำเพราะนำของที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์มาผลิต ไม่จำเป็นต้องนำเนื้อสัตว์ที่มีราคาสูงมาสกัดน้ำซุปและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น  งานวิจัยนี้อยู่ระหว่างการยื่นจดสิทธิบัตร หากไม่มีการทักท้วงสิทธิ์ อีก 2 ปีก็จะได้สิทธิบัตรในงานวิจัยชิ้นนี้ ซึ่งจะมีประโยชน์มากในเชิงพาณิชย์ สาวๆ ที่รักสวยรักงามเตรียมตัวรอกันได้เลยค่ะ   ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์. 2556. “ซุปจระเข้สกัด” คอลลาเจนสูง ดึงความงามมาพร้อมดื่ม. : ผู้จัดการออนไลน์. สืบค้นข้อมูลเมือวันที่ 14 ตุลาคม 2556  http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9500000088172– ( 81 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

รู้รอบด้านก่อนมีรถไฟความเร็วสูง : การพัฒนาเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางและความพร้อมในภูมิภาคอาเซียนสำหรับการเข้าสู่ AEC ในปี 2558

หัวข้อการบรรยายและเสวนาพิเศษ เรื่อง รู้รอบด้านก่อนมีรถไฟความเร็วสูง : การพัฒนาเทคโนโลยีระบบขนส่งทางรางและความพร้อมในภูมิภาคอาเซียนสำหรับการเข้าสู่  AEC ในปี 2558 เป็นหนึ่งในหัวข้อการบรรยายและเสวนาพิเศษ หัวข้อหนึ่ง ในงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช.  ครั้งที่ 9 (NAC 2013)  เรื่อง ความพร้อมสู่ AEC ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  (Towards AEC with Science and Technology) ในช่วงระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 3 เมษายน 2556 ณ  อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย  จังหวัดปทุมธานี  เนื้อหาการบรรยายโดยสรุป ประเด็นร้อนของภูมิภาคอาเซียนในขณะนี้ คือการเปิดเสรีของประชาคมอาเซียนในปี 2558 ซึ่งระบบรางเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงนี้ ระบบรางที่ถูกกล่าวขานกันมากในภูมิภาคอาเซียน คือรถไฟความเร็วสูง ปี 2552 ประเทศเวียดนามตกเป็นข่าวอย่างร้อนแรงในการที่จะเป็นชาติแรกที่สร้างทางรถไฟความเร็วสูง แต่ในที่สุดรัฐสภาเวียดนามก็มีมติไม่เห็นชอบกับโครงการดังกล่าว ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างแปลกสำหรับระบบการปกครองแบบพรรคการเมืองเดียวที่รัฐบาลรับรัฐสภามักจะมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหลังจากเวียดนามชะลอโครงการรถไฟความเร็วสูงไปแล้ว ก็เกิดกระแสรถไฟความเร็วสูงขึ้นในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและประเทศไทยโดยคาดหวังว่าจะมีการสร้างรถไฟทางกว้าง 1.435 เมตรจากคุณหมิงมายังเวียงจันทน์ แล้วเลยเข้าประเทศไทยที่จังหวัดหนองคาย ซึ่งหากเป็นจริงแล้วก็จะเป็นการเชื่อมทางรถไฟจากประเทศจีนเข้าในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งใช้ทางรถไฟเป็นขนาดกว้าง 1

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ตอบโจทย์นวัตกรรมชาวบ้านเพื่อการเกษตร

การเสวนาเรื่อง ตอบโจทย์นวัตกรรมชาวบ้านเพื่อการเกษตร เป็นหนึ่งในหัวข้อการเสวนาหัวข้อหนึ่ง ในงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช.  ครั้งที่ 9 (NAC 2013)  เรื่อง ความพร้อมสู่ AEC ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  (Towards AEC with Science and Technology) ในช่วงระหว่างวันที่ 31 มีนาคม – 3 เมษายน 2556 ณ  อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย  จังหวัดปทุมธานี สรุปการเสวนาได้ดังนี้ ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศไทยมีอาชีพเกษตรกรรมมากที่สุด จึงต้องอาศัยปัจจัยทางธรรมชาติมากที่สุด แต่ปัจจุบันโลกเปลี่ยนไป สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปรวมถึงเกิดปัญหาต่างๆ มากมาย จึงจำเป็นต้องมีการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดในปัจจุบัน โดยการหาวิธีการ กระบวนการ ตลอดจนแนวความคิดต่างๆ เพื่อปรับปรุงผลผลิตให้ดีขึ้น เพื่อผลต่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ในการเสวนาดังกล่าวมีการกล่าวถึงการทำเกษตรอย่างไรให้ได้ผลผลิตที่ดี ทั้งคุณภาพและปริมาณ รวมตลอดถึงผลตอบแทนที่จะได้รับทั้งทางด้านเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต ซึ่งการเสวนาครั้งนี้มีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จากผู้ที่ประสบความสำเร็จในการทำนาข้าว  การปลูกพืชและผักอินทรีย์และการทำเกษตรเพื่อการพึ่งตนเองและสิ่งแวดล้อมท้องถิ่น การทำนาโดยวิธีแกล้งข้าว เพื่อให้ผลผลิตของข้าวได้มากขึ้น ไม่ว่าข้าวนั้นจะปลูกในนาใดก็ตาม คุณศุภชัย ปิติวุฒิ ผู้ช่วยผู้จัดการขาย บริษัท สยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ในวิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม

ปาฐกถาพิเศษเรื่อง  การปรับตัวเพื่อความอยู่รอด ในวิกฤตการณ์เปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในหัวข้อการปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาวิชาการ ” Learn to Live in the World of Change” มหกรรมทีวีรักษ์โลก 360 องศา จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21-22 เมษายน 2556  ที่ อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ  บรรยายโดย  Environtmental and Disaster Prevention Expert Team วิกฤตการ การเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบัน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของภาวะโลกร้อนมีสาเหตุจากที่มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงขึ้นเรื่อยๆ  ในขณะที่โลกเราจะสมดุลเมื่อประชากรอยู่ที่ 2,000 ล้านคน หากเกิน 2,000 ล้านคนเมื่อไหร่โลกจะเริ่มขาดความสมดุลหรือเรียกว่าโลกเป๋  เมื่อสี่แสนปีที่ผ่านมาเกิดภาวะโลกอุ่น 3 ครั้ง และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์แตะที่ 300 ppm และโลกอุ่นเมื่อแสนกว่าปีที่แล้ว น้ำทะเลสูงกว่าปัจจุบัน 7 เมตร ซึ่งแถบจังหวัดภาคอีสานของประเทศไทย ก็มีร่องรอยว่าเคยเป็นทะเลมาก่อน ปัจจุบันมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อยู่ในชั้นบรรยากาศ

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

วัฒนธรรมและการเรียนรู้เพื่ออยู่ในโลกของการเปลี่ยนแปลงของประเทศภูฏาน

ปาฐกถาพิเศษ  Culture & Learning-to live in the world of change,Bhutan Model เป็นหนึ่งในหัวข้อการปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาวิชาการ ” Learn to Live in the World of Change” มหกรรมทีวีรักษ์โลก 360 องศา จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21-22 เมษายน 2556  ที่ อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ  บรรยายโดย  Mr.Kinlay Dorjee, Mayor of Thimphu, Bhutan ประเทศภูฏานเป็นประเทศเล็กๆ ตั้งอยู่ระหว่างประเทศอินเดียและจีน แนวทางการพัฒนาประเทศมุ่งเน้นความเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นการกระจายรายได้ การใช้ทรัพยากรต่างๆ  โดยเลือกใช้การพัฒนาแบบ Gross Happiness Index (GNI)หรือ ความสุขรวมภายในประเทศ โดยกษัตริย์องค์ที่ 4 (king วังชุก)แทนการมุ่งพัฒนาแบบใช้

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

สมดุลสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ

ปาฐกถาพิเศษแนวพระราชดำริ ” สมดุลสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ดิน น้ำ ลม ไฟ ” เป็นหนึ่งในหัวข้อการปาฐกถาพิเศษในงานสัมมนาวิชาการ ” Learn to Live in the World of Change” มหกรรมทีวีรักษ์โลก 360 องศา จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 21-22 เมษายน 2556  ที่ อิมแพค เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ปาฐกถานี้บรรยายโดยท่านสุวัฒน์  เทพอารักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ท่านเล่าให้ฟังว่าเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่  19 สิงหาคม 2489 หลังจากนั้นทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนทุกจังหวัดและทรงพบปัญหาทุกปัญหา  จึงทรงหาวิธีและแนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ จนเกิดเป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริแล้วกว่า 4,350 โครงการ ประกอบด้วย :- – ( 239 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ไม้ประดับช่วยลดมลพิษ

นักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซ่าได้ทดสอบความสามารถของพืชพันธุ์ต่างๆ ประมาณ 50 ชนิด พบว่าพืชบางชนิดมีความสามารถในการดูดสารพิษ และแนะนำให้ไปใช้ในอาคารที่ทำงาน และที่บ้าน เพื่อช่วยลดมลพิษ ดอกเบญจมาศ สามารถขจัดสารมลพิษได้มากกว่าร้อยละ 90 เมื่อเวลาผ่านไป 24 ชั่วโมง หมากเหลือง เป็นไม้ประดับที่แนะนำให้ปลูกภายในอาคาร หรือ บ้านเรือน เนื่องจาก มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายในอาคาร และคายความชื้นให้แก่อากาศภายในห้องได้มาก และยังมีประสิทธิภาพสูงในการดูดสารพิษจากอากาศได้ปริมาณมากเมื่อเทียบกับไม้ประดับด้วยกัน สาวน้อยประแป้ง  สามารถช่วยลดไซลีน โทลูอีน ที่เกิดจากไม้อัด เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์ สีทาห้องในอัตราสูงได้  เพราะหากสูดดมสารนี้ในระยะสั้นจะทำให้เกิดการระคายเคืองต่อตาผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ วิงเวียน หน้ามืด สามารถปลูกได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร แหล่งที่มา : นักวิทยาศาสตร์เผยไม้ประดับช่วยลดมลพิษ.thaipbs online วันที่ 5 เมษายน 2556.– ( 57 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

10 สินค้าขายดีในเทศกาลสงกรานต์ สู่สินค้าส่งอาเซียน

เทศกาลสงกรานต์ที่เพิ่งผ่านไปหมาดๆ นั้น ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนไม่น้อยเลยไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร โรงแรม และที่ขาดไม่ได้ในช่วงเทศกาลนี้ ก็คือ อุปกรณ์ต่างๆที่ใช้ในการเล่นน้ำนั่นเอง มาดูกันว่า มีอะไรบ้าง ซึ่งผู้ประกอบการลงความเห็นว่าสินค้าที่ขายดีติด 1 ใน 10 อันดับในช่วงหน้าร้อนนี้และช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ น้ำอบ ปืนฉีดน้ำ ดินสอพอง เสื้อลายดอกสีสด เสื้อกล้าม กางเกงเล รองเท้าฟองน้ำ ซองกันมือถือเปียกน้ำ แป้งร่ำ ถังน้ำขนาดเล็กหรือขัน แหล่งสินค้าที่มีผู้คนไปหาซื้อได้แก่ ตลาดโบ๊เบ๊ ซึ่งธุรกิจการค้าส่งสินค้าประเภทเสื้อผ้า รองเท้าแตะ ตลอดจนสินค้าขายส่งประเภทเบ็ดเตล็ด อาทิ ปืนฉีดน้ำ ถังน้ำขนาดเล็ก ฯลฯ กำลังเป็นสินค้าที่น่าจับตามอง สามารถพัฒนาให้เป็นสินค้าติดอันดับในอาเซียนได้ แต่ต้องมีการพัฒนาสินค้า รวมถึงนวัตกรรมที่ใช้ในการผลิตสินค้าให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง หากสินค้าดี ราคาดี มีประเภทของสินค้าให้เลือกจำนวนมาก ก็จะสามารถพัฒนาศูนย์ค้าส่งตลาดโบ๊เบ๊ให้กลายเป็นศูนย์กลางค้าส่งสินค้าในประเทศอาเซียนได้ และหากมีต้นทุนในการผลิตดี การจัดการในองค์กรดี ก็จะสามารถทำให้แข่งขันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีประเทศในแถบอาเซียนที่สามารถทำการค้า การลงทุนได้อย่างเสรี ซึ่งหากผู้ประกอบการไทย สามารถพัฒนาสินค้าได้เร็วกว่า ดีกว่า แน่นอนว่า ย่อมจะขายได้ดีกว่าและเร็วกว่าเช่นกัน อ้างอิงจาก  10  สินค้าเทศกาลสงกรานต์-น้ำอบ-ปืนฉีดน้ำ-เสื้อลายดอก-ทำเงินกระฉูด.

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

สมาคมดาราศาสตร์ไทย เผยปีหน้าไทยคนไทยมีสิทธิชมดาวหางแห่งปี ด้วยตาเปล่าถึง 2 ดวง

นายอารี สวัสดี นายกสมาคมดาราศาสตร์ไทย เปิดเผยว่า ในปี พ.ศ. 2556   จะมีปรากฎการณ์ ดาวหางที่น่าสนใจ ถึง 2 ดวง โดยนักดาราศาสตร์คาดว่าอาจจะสว่างจนสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ดวงแรกคือดาวหางแพนสตาร์ส  ที่ค้นพบเมื่อปี  2554  โดยจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 10  มีนาคม  2556  ดาวหางดวงนี้จะเริ่มสว่างจนเห็นด้วยตาเปล่าตั้งแต่ปลายเดือน มกราคม  2556  สังเกตได้ดีในซีกโลกใต้ส่วนประเทศไทย ช่วงที่สามารถเห็นดาวหางดวงนี้ได้อย่างชัดเจนที่สุดคือช่วงเวลาหัวค่ำของวันที่ 9-17 มีนาคม 2556 โดยสังเกตได้ตั้งแต่หลังดวงอาทิตย์ตกไปแล้ว 30 นาที ดวงที่สอง คือ ดาวหางไอซอน ซึ่งค้นพบเมื่อดือน กันยายน 2555 ที่ผ่านมา โดยดาวหางดวงนี้ เป็นที่สนใจของนักดาราศาสตร์ทั่วโลก เนื่องจากจัดอยู่ในกลุ่มดาวหางที่เข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด  ขณะที่ดาวหางสว่างที่สุดในช่วงเช้ามืดของวันที่  28-29  พฤศจิกายน 2556  หากไม่เกิดการแตกสลายไปเสียก่อน คาดว่าจะมีความสว่างเกือบเท่าดวงจันทร์วันเพ็ญ   และถือว่าเป็นดาวหางที่สุกสว่างที่สุดในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา สำหรับปรากฎการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์ในปี 2556 นอกจากดาวหางทั้งสองดวงแล้ว ยังมีปรากฎการณ์พายุสุริยะที่จะเกิดขึ้นในช่วงเดือน พฤษภาคม 2555 ที่มา

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

กรุงเทพมหานคร ตั้งเป้าคนกรุงอ่านหนังสือคนละ 10 เล่มต่อปี

กรุงเทพมหานคร (กทม.)ได้รับคัดเลือกจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นเมืองหนังสือโลกประจำปี 2556  นางทยา ทีปสุวรรณ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)  จึงประชุมเตรียมความพร้อมและการร่วมป็นเจ้าภาพโครงการ  “กรุงเทพมหานครเมืองหนังสือโลก ปี 2556”  โดยมีสโลแกนว่า “อ่านกันสนั่นเมือง”  ซึ่งสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นโครงการในพระบรมราชูปถัมภ์ด้วย สำหรับการจัดงานกรุงเทพฯ เมืองหนังสือโลก จะจัดให้มีขึ้นระหว่างวันที่ 20-23 เมษายน 2556  ที่รอยัลพารากอน ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ทั้งนี้ กทม. ขอความร่วมมือและสนับสนุนจากผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ธนาคาร ร้านหนังสือ และบริษัทเอกชน ให้มีการตกแต่งอาคารเพื่อ รณรงค์การเป็นเมืองหนังสือโลก ขณะนี้กทม.มีภาคเครือข่ายกว่า 100   ซึ่งกทม. ดำเนินการเพิ่มพื้นที่การอ่าน เช่น การเพิ่มห้องสมุด จัดพื้นที่หนังสือในที่สาธารณะ  การรวบรวมข้อมูลสถิติการอ่านล่าสุดของคนกรุงเทพฯ  คาดว่าจะมีการอ่านประมาณ 2-5 เล่มต่อคนต่อปี  จึงตั้งเป้าว่าปี 2556 จะมีอัตราที่เพิ่มขึ้นเป็น 10 เล่มต่อคน. นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่มีโครงการนี้ ตามที่คาดการณ์ว่าสถิติการอ่านในปีที่ผ่านมาจะมีคนอ่านหนังสือ 2-5 ต่อปีนั้นถือว่าน้อยมาก หากมีการรณรงค์การอ่านให้เพิ่มมากขึ้นก็จะเป็นประโยชน์ต่อทั้งประชาชนและประเทศด้วย  ดังนั้นเรามาร่วมด้วยช่วยกันอ่านนะคะ

Read More…

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments