ข่าววิทยาศาสตร์ล่าสุดจากวารสารเนเจอร์ ฉบับวันที่ 20 มีนาคม 2014 พืชจีเอ็ม ที่มีการดัดแปลงทางพันธุกรรม (GM) ในจำนวนหนึ่ง เริ่มถูกตรวจสอบมากขึ้นในอาหารที่มีการซื้อขาย โดยองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ที่กรุงโรม กล่าวเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ว่า เป็นการสำรวจครั้งแรก FAO รายงานว่าใน 75 ของประเทศสมาชิก โดยหน่วยงานที่กำกับดูแลระบุว่าพบว่ามีอาหาร 198 ชนิด ที่มีส่วนของพืชจีเอ็มในระดับต่ำจึงคาดคะเนไม่ได้เป็นจีเอ็ม ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นในปีก่อนหน้าการสำรวจระหว่างปี 2009 และปี 2012 อาหารที่มีส่วนผสมจากเมล็ดฝ้าย ข้าว ข้าวโพด และมะละกอ เมื่อตรวจพบว่ามาจากการขนส่ง ส่วนใหญ่ถูกทำลายหรือส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง FAO มีเป้าหมาย ตรวจจับพืชจีเอ็มด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับที่ดีขึ้น อ้างอิง : GM crops detected. (2014) Seven days : The News in brief. Nature., 507(7492), 277-278.

หน่วยงานวิจัยญี่ปุ่นขอโทษ
ข่าววิทยาศาสตร์ล่าสุดจากวารสารเนเจอร์ ฉบับวันที่ 20 มีนาคม 2014 เมื่อวันที่ 14 มีนาคม สถาบันวิจัยญี่ปุ่น RIKEN กรุงโตเกียว ที่เป็นต้นสังกัดของผู้แต่งบทความวิจัยสองคน ที่มีกรณีโต้เถียงเรื่องบทความเรื่องเซลล์ต้นกำเนิดได้กล่าวขอโทษ สำหรับความผิดพลาดในการวิจัย RIKEN ได้ประกาศผลเบื้องต้นของการตรวจสอบซึ่งเป็นการทำงานที่นำโดยนักวิทยาศาสตร์ Haruko Obokata ที่อธิบายถึงวิธีการ reprogramming เซลล์ตัวอ่อนของหนู เป็น เอกสารที่ตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เป็นเพราะการใช้ภาพซ้ำหลายภาพ อ้างอิง : Research apology.(2014) Seven days : The News in brief. Nature., 507(7492), 277-278. http://www.nature.com/news/seven-days-14-20-march-2014-1.14894– ( 24 Views)

เครือข่ายความร่วมมือการวิจัยด้านโรคติดเชื้อ
เหตุการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้ออย่างรุนแรงชี้ให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไม่ใช่ปัญหาของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นปัญหาและความท้าทายของคนทั้งโลก เครือข่ายความร่วมมือการวิจัยระดับนานาชาติเพื่อความพร้อมในการป้องกันโรคติดเชื้อ จึงกำเนิดขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2013 ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเชื่อมหน่วยงานของ (กลุ่ม) ประเทศต่าง ๆ ได้แก่ สหภาพยุโรปหรืออียู สหรัฐอเมริกา เยอรมนี แอฟริกาใต้ ออสเตรเลีย แคนาดา จีน ฝรั่งเศส สวีเดน และบราซิล ที่ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยด้านการระบาดของโรคติดเชื้อ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและความร่วมมือภายใน 48 ชั่วโมงภายหลังเกิดการระบาด นอกจากนี้ ยังเป็นเวทีประสานความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาที่เกี่ยวข้องของแต่ละภูมิภาค เพื่อการวิจัยเร่งด่วนอย่างทันท่วงทีต่อการแพร่ระบาดของโรค – ( 21 Views)

สาระวิทย์ เดือนมีนาคม 2557 (12)
เรื่องเด่น เรื่องจากปก : สวทช.โชว์ผลงานวิจัยเด่นในงานประชุมวิชาการ ประจำปี 2557 หน้าต่างข่าว วิทย์-เทคโนฯ โลก : เมนูอาหารเช้า 7 ชนิด ที่ควรหลีกเลี่ยง ระเบียงข่าว วิทย์-เทคโนฯ ไทย : หญิงไทยคนแรกที่ได้เดินทางท่องอวกาศ แพทย์ศิริราชผ่าตัดใส่หัวใจเทียมสำเร็จรายแรกของไทย ความเชื่อกับวิทยาศาสตร์ : ต้นไม้คายน้ำเป็น “แม่คะนิ้ง!” – ( 28 Views)

เหตุใดบางคนจึงจำความฝันได้ดี
เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง เหตุใดบางคนจึงจำความฝันได้ดี สิ่งที่ทำให้ความฝันยังคงเป็นปริศนาสำหรับนักวิทยาศาสตร์คือ คนบางคนจำความฝันได้ดี ขณะที่บางคนจำความฝันไม่ค่อยได้ ล่าสุดทีมวิจัยจากศูนย์วิจัยประสาทวิทยาลียง ประเทศฝรั่งเศส ได้ทำการสังเกตการณ์จนพบว่า ผู้ที่จำความฝันได้ดีจะมีการตื่นตัวในขณะที่หลับบ่อยครั้ง ซึ่งมากกว่าผู้ที่จำความฝันไม่ค่อยได้หลายเท่านัก นอกจากนี้ สมองของผู้ที่จำความฝันได้ดียังมีปฏิกิริยาต่อเสียงกระตุ้นในขณะที่หลับและช่วงที่ตื่นมากกว่าอีกด้วย ซึ่งปฏิกิริยาที่มากกว่าปกตินี้ทำให้เกิดการตื่นตัวในช่วงกลางคืนอยู่นั่นเอง และอาจจะช่วยทำให้จดจำความฝันในช่วงกลางคืนได้ด้วย – ( 27 Views)

นักวิทยาศาสตร์พบความคล้ายกันของสมองมนุษย์และสุนัข
เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง นักวิทยาศาสตร์พบความคล้ายกันของสมองมนุษย์และสุนัข การดูเจ้าตูบจอมซนพยายามทำสิ่งที่มนุษย์ทำนั้นเป็นนับว่าเป็นเรื่องขำขันและมอบรอยยิ้มให้เราเสมอ ไม่ว่ามันจะขับรถหรือพยายามจะนั่งเก้าอี้ก็ตาม แต่ที่จริงแล้วได้มีงานวิจัยชิ้นใหม่ที่แสดงให้เห็นว่าที่จริงแล้วสุนัขนั้นเหมือนกับมนุษย์นั่นแหล่ะ อย่างน้อยๆ ก็ในเรื่องประมวลผลเสียงและอารมณ์ ซึ่งการค้นพบดังกล่าวยังมาพร้อมกับภาพสแกนสมองสำหรับการพิสูจน์ยืนยันอีกต่างหาก – ( 20 Views)

ความเจ็บปวด ลบได้ด้วยแสง
เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง ความเจ็บปวด…ลบได้ด้วย “แสง”? ความเจ็บปวดนั้นนับว่าเป็นปัญหาใหญ่และยากที่แก้ แน่นอนว่าเราสามารถที่จะเพิ่มปริมาณของตัวยามอร์ฟีนเพื่อระงับความเจ็บปวดในระยะเวลาสั้นๆ ได้ แต่นักวิทยาศาสตร์นั้นก็ยังประสบปัญหาในการที่จะจัดการกับปัญหาจากอาการเจ็บปวดเรื้อรังเป็นระยะเวลานานอยู่ดี อย่างไรก็ตาม งานวิจัยชิ้นใหม่จากแลป Bio-X ที่ทันสมัยของมหาวิทยาลัย Stanford นั้นเหมือนจะเป็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์สำหรับการแก้ปัญหาที่ยุ่งยากนี้แล้ว – ( 30 Views)

การพิมพ์ส่งข้อความทำให้คุณเดินคล้ายกับหุ่นยนต์
เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง การพิมพ์ส่งข้อความทำให้คุณเดินคล้ายกับหุ่นยนต์ มันเป็นเรื่องปกติที่การส่งข้อความสามารถทำให้คุณหลุดออกจากเส้นทางได้และทำให้เราเดินคล้ายกับหุ่นยนต์ ซึ่งเพิ่มโอกาสที่คุณจะล้มได้ นักวิจัยชาวออสเตรเลียกล่าวไว้ และนักกายภาพบำบัด Dr Siobhan Schabrun จากมหาวิทยาลัยเวสเทิร์นซิดนีย์ และลูกทีมวิจัยของเขาได้รายงานการค้นพบครั้งนี้ในวารสารทางวิชาการระดับนานาชาติ PLOS ONE “มนุษย์จะมีแนวโน้มที่จะชะลอความเร็วลงและหลุดออกจากการเดินที่เป็นเส้นตรงเมื่อพวกเขากำลังทำการส่งข้อความ” Schabrun กล่าว และเธอก็บอกอีกด้วยว่า เมื่อเราทำการส่งข้อความขณะเดิน ศรีษะของเราจะมีการเคลื่อนไหวที่มากกว่าดังนั้นเราจะทำการมุ่งให้ความสนใจไปยังโทรศัพท์ และนั่นทำให้เราเดินลักษณะคล้ายกับหุ่นยนต์ – ( 15 Views)

ผู้ชายอายุมาก โอกาสมีบุตรที่มีความผิดปกติก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย
เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง เมื่อผู้ชายอายุมากขึ้นโอกาสมีบุตรที่มีความผิดปกติก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย เราทุกคนรู้ดีว่าเมื่อผู้ชายอายุมากขึ้น ตัวอสุจิของเขาก็แก่ตัวลงไปพร้อมๆ กัน ซึ่งจะส่งผลให้ประสิทธิภาพนั้นค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ แต่งานวิจัยได้ชี้ให้เห็นว่าจริงๆ แล้วตัวอสุจินั้นอาจจะเกิดการกลายพันธุ์เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะส่งผลให้คุณผู้ชายต้องกลายเป็นพ่อของบุตรที่มีความผิดปกติทางพันธุกรรมได้ – ( 15 Views)

การอ่านจากหนังสือแตกต่างจากการอ่านบนหน้าจออย่างไร
การอ่านจากหนังสือแตกต่างจากการอ่านบนหน้าจออย่างไรนั้น เราควรทำความเข้าใจก่อนว่า สมองมนุษย์ตีความภาษาเขียนอย่างไร แม้ว่าจะใช้ตัวอักษรและคำแทนเสียงพูดและความคิดของมนุษย์ แต่สมองยังตีความตัวอักษรและคำให้เป็นวัตถุทางกายภาพ แมรีแอน วูล์ฟ (Maryanne Wolf) นักวิทยาศาสตร์การเรียนรู้แห่งมหาวิทยาลัยทัฟส์ ได้อธิบายไว้ในหนังสือ Proust and the Squid เมื่อปี พ.ศ. 2544 ว่า มนุษย์ไม่ได้เกิดมาพร้อมกับวงจรสมองเฉพาะสำหรับการอ่าน เพราะมนุษย์เพิ่งประดิษฐ์การเขียนในช่วงประวัติศาสตร์ยุคใหม่ เมื่อประมาณ 4000 ปีก่อนคริสตกาลนี้เอง ดังนั้น เด็กๆ จะพัฒนาสมองเพื่อรองรับการอ่านขึ้นมาจากระบบประสาทที่ใช้กับความสามารถอื่นๆ เช่น จากการพูดจา การประสานงานอวัยวะ และการมองเห็น สมองส่วนที่พัฒนาขึ้นมานี้ จึงมีความเชี่ยวชาญในการรับรู้วัตถุ เมื่อหัดอ่านหัดเขียน มนุษย์เรียนรู้จดจำลักษณะตัวอักษรจากเส้นตรง เส้นโค้ง และช่องว่าง ซึ่งเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ต้องใช้ทั้งสายตาและมือสัมผัส นอกจากสมองคนจะตีความตัวอักษรเป็นเหมือนวัตถุ สมองยังรับรู้ข้อความที่ครบถ้วนเหมือนเป็นภาพวาด ขณะที่อ่านหนังสือ จินตนาการภาพเหตุการณ์ขึ้นในใจ ถึงแม้กระบวนการสร้างภาพจะไม่ชัดเจนนัก ทั้งนี้จากประวัติและการศึกษาที่ผ่านมา คนมักจดจำลำดับเนื้อหาสาระที่ปรากฏขึ้นตามตำแหน่งของเนื้อหาจากในหนังสือ ซึ่งจะคล้ายกับเวลาเดินป่า ตอนที่จำได้ว่าต้องผ่านบ้านสีแดงก่อนจะเริ่มปีนเขา – ( 11 Views)