magnify
magnify

Open Knowledge for all 

formats

การล้มละลายบริษัทผลิตแผ่นโซล่าห์

Published on March 30, 2013 by in S&T Stories

ข่าววิทยาศาสตร์ล่าสุดจากวารสารเนเจอร์  ฉบับวันที่ 28 มีนาคม  2556
ข่าวหมวดธุรกิจ -  เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2013 บริษัทสาขาของบริษัทจีนยักษ์ใหญ่ผู้ผลิต solar photovoltaic panels ที่ใหญ่ที่สุดของโลก  ประกาศ ว่า หลังจากผิดสัญญาเงินกู้ในการคืนเงินจำนวน 541 ล้านเหรียญสหรัฐ  ธนาคารของจีน 8 แห่งได้ทำการฟ้องร้องต่อศาล ออกคำสั่งให้ บริษัท  Suntech  ล้มละลาย
บริษัท  Suntech Power Holdings ก่อตั้งที่ Wuxi ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อปี 2001 เป็นบริษัทผู้นำในทางการตลาดของแผ่นโซล่าห์ตลอดมา   จนกระทั่งมีการแข่งขันที่ดุเดือด ในปี 2008 ที่ทำให้ราคาลดลงมาก

อ้างอิง :  Solar bankruptcy.  (2013). Seven days : The News in  brief. Nature., 495 (7442), 414 – 415.
http://www.nature.com/news/seven-days-22-28-march-2013-1.12670– ( 169 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

งบประมาณแคนาดา

Published on March 30, 2013 by in S&T Stories

ข่าววิทยาศาสตร์ล่าสุดจากวารสารเนเจอร์  ฉบับวันที่ 28 มีนาคม  2556
ข่าวหมวดงบประมาณ -   งบประมาณปี 2013 ของแคนาดา ที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2013 ได้รับการชื่นชมยินดีในกลุ่มนักวิทยาศาสตร์สายวิทยาศาสตร์ประยุกต์ แต่ว่ามีการวิจารณ์จากนักวิทยาศาสตร์กลุ่มวิทยาศาสตร์พื้นฐาน  งบประมาณมีจำนวน 383 ล้านแคนาดา  สำหรับโครงสร้างด้านวิจัย  พันธมิตรวิจัยจากมหาวิทยาลัย รวมถึงภาคอุตสาหกรรมจะสนับสนุนการเติบโตธุรกิจด้านนวัตกรรม
James Turk, executive director of the Canadian Association of University Teachers กรุง  Ottawa ได้กล่าวว่าจะมีรูปแบบในการใช้จ่าย สำหรับเงินงบประมาณในงานวิจัยพื้นฐาน

อ้างอิง : Canadian budget .  (2013). Seven days : The News in  brief. Nature., 495 (7442), 414 – 415.
http://www.nature.com/news/seven-days-22-28-march-2013-1.12670– ( 49 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

สมองสีฟ้า

สิ่งมหัศจรรย์สิ่งหนึ่งบนโลกนี้และผมเชื่อว่า สิ่งนี้มหัศจรรย์กว่าปิระมิด สวนลอยบาบิโลน หรือแม้กระทั่งกำแพงเมืองจีน

สิ่งนั้นคือร่างกายและสมองของมนุษย์คนเรานี่แหละครับ

ด้วยโครงสร้างการทำงานที่ซับซ้อนประกอบด้วยหน่วยย่อยต่าง ๆ มากมาย ทำงานร่วมกันจนกลายเป็นระบบของร่าง กายคนที่สมบูรณ์ ทำให้มนุษย์อย่างเรา ๆ

สามารถคิด สร้างสรรค์ คำนวณ ท่องจำ เรียนรู้ เกิดอารมณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมหัศจรรย์

แม้เราจะพอเข้าใจการทำงานของสมองอยู่บ้าง ว่าสัญญาณที่วิ่งอยู่ระหว่างเซลล์ประสาท (neuron) วิ่งจากส่วนไหนไปส่วนไหนเพื่อทำงานอะไร แต่รูปแบบการวิ่งของสัญญาณเหล่านั้น มีความหมายอย่างไร และทำให้เกิดสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างไร ยังเป็นเรื่องที่ต้องศึกษากันต่อไป

ลองคิดกันง่าย ๆ ก็ได้ครับ เมื่อแสงตกกระทบวัตถุแล้วสะท้อนเข้าตาของเรา หลังจากนั้นแล้ว ภาพเหล่านั้นมีรูปแบบการวิ่งไปมาในสมองเราอย่างไร เราเข้าใจภาพนั้นได้อย่างไร จัดเก็บภาพด้วยรูปแบบอะไร เก็บด้วยความละเอียดอย่างไร เป็นตารางหรือไม่ มีสีที่ระดับความละเอียดเท่าไร ค้นหาและดึงความหมายของภาพนั้นมาใช้ได้อย่างไร หรือถ้าผมขอให้นึกถึงหมายเลขโทรศัพท์หนึ่งเบอร์ คุณจะนึกถึงอะไรเป็นอย่างแรก นึกถึงหมายเลขโทรศัพท์เลย หรือว่า ต้องนึกถึงเจ้าของก่อน แล้วจึงใช้ชื่อเจ้าของในการค้นหาหมายเลขโทรศัพท์นั้นออกมา

แน่นอนครับว่า สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในย่อหน้าด้านบนนี้ เกิดขึ้นเร็วมาก เร็วจนเราไม่รู้ว่า มันมาได้อย่างไร แต่ที่รู้ ๆ คือ สมองทำงานตอบสนองความต้องการแบบนั้นของเราได้อย่างดี โดยเราแทบไม่ต้องสั่งการอะไรเลย

เพื่อพยายามทำความเข้าใจกระบวน การทำงานของสมอง มนุษย์ได้สร้างแบบจำลองของสมองขึ้นหลากหลายรูปแบบ เพื่อหาคำตอบว่า รูปแบบการเชื่อมต่อกันของเซลล์ประสาท จะสามารถทำให้เกิดความคิด ความจำ หรือการเรียนรู้ได้อย่างไร

โครงการใหญ่โครงการหนึ่งที่เกิดขึ้นในปี ค.ศ. 2005 ด้วยความร่วมมือของไอบีเอ็มและ COLE POLYTECHNIQUE FDRALE DE LAUSANNE (EPFL) มีชื่อว่า โครงการบลูเบรน หรือ สมองสีฟ้า (Blue Brain Project) มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างแบบจำลองสมองลงบนเครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ โดยนำความรู้ทางด้านประสาทวิทยาศาสตร์ (Neuroscience) เข้ามาช่วยกำหนดรูปแบบของเซลล์สมองและการเชื่อมต่อระหว่างเซลล์ประสาทเหล่า นี้ เพื่อเลียนแบบการทำงานของสมองมนุษย์ให้เหมือนจริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งจะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ต่อวงการประสาทวิทยาศาสตร์ในที่สุด

สิ่งที่โครงการบลูเบรนประสบความสำเร็จไปแล้ว คือ การสร้างคอร์ติคัลคอลัมน์ของหนู ซึ่งคอร์ติคัลคอลัมน์นี้ ถือเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสมอง มันเป็นกลุ่มของเซลล์ประสาทจำนวนประมาณ 10,000 เซลล์ในหนูและ 100,000 เซลล์ในมนุษย์ จัดตัวเป็นกลุ่มในแนวตั้ง และเมื่อคอร์ติคัลคอลัมน์เหล่านี้ทำงานร่วมกัน จะกลายเป็นสมองของเราได้ในที่สุด โดยบลูเบรนตั้งความหวังไว้ว่า จะสามารถจำลองการทำงานของสมองมนุษย์ได้ในอีกสิบปีข้างหน้า

ปัจจุบันโครงการบลูเบรนใช้ซีพียู 16,384 คอร์ และใช้แรม 16 เทระไบต์ และเป็นหนึ่งในสองของโครงการ FET Flagship ของอียู ที่เพิ่งประกาศไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยจะได้รับเงินทุนสนับสนุนมูลค่าหนึ่งพันล้านยูโรเป็นระยะเวลาสิบปี เพื่อทำความฝันของการจำลองสมองมนุษย์ให้เป็นจริงได้ในที่สุด.

รายการอ้างอิง :

สุกรี สินธุภิญโญ. สมองสีฟ้า. เดลินิวส์ (1001). วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2556.– ( 36 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต

กูเกิลเปิดตัวบริการแปลภาษาในรูปแบบออฟไลน์ มากถึง 55 ภาษา ดาวน์โหลดมาใช้ได้บนสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กูเกิล เปิดตัวแพ็คเกจบริการแปลภาษาในรูปแบบออฟไลน์ สำหรับผู้ที่ประสบปัญหาเวลาอยู่ในต่างประเทศ และต้องการทราบภาษาท้องถิ่นที่จะบอกว่า “ฉันหลงทาง” หรือ “ฉันเเพ้ถั่วนะ”  ในอุปกรณ์พกพาอาจจะมีบริการแปลภาษา  เช่น เครื่องมือกูเกิลแปลภาษา ซึ่งต้องเชื่อมต่อกับสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าหากไม่สามารถต่ออินเทอร์เน็ตได้  จะทำอย่างไร

ดังนั้นกูเกิลจึงได้เปิดตัวแพคเกจของภาษาในแบบออฟไลน์ สำหรับ บริการ Google แปลภาษาบนแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 2.3 ขึ้นไป สามารถรองรับภาษาได้ถึง 55 ภาษา ตั้งเเต่ ภาษาฝรั่งเศส สเปน ไปจนถึง ภาษาจีน ภาษาไทย และ ภาษาอาหรับ  เพียงเลือกการใช้งานที่ [Offline Languages] ในแอพเมนู ก็จะเห็นภาษาต่างๆ ในแบบออฟไลน์มากมาย ไว้ให้ดาวน์โหลด ในการเปิดใช้งานการแปลภาษาแบบออฟไลน์ใดๆ ระหว่างสองภาษานั้น ให้เลือกภาษาที่ต้องการในเมนู “offline languages” ทันทีที่ดาวน์โหลดเรียบร้อย ก็สามารถใช้งานได้เลย

อย่างไรก็ตาม เวอร์ชั่นการแปลภาษาในแบบออฟไลน์นั้นยังไม่ครอบคลุมเทียบเท่าเวอร์ ชั่นออนไลน์ปกติ แต่ก็เป็นผู้ช่วยได้อย่างดีเยี่ยมในยามคับขันเมื่อกำลังเดินทางไปต่างประเทศ ที่มีสัญญาณต่ำหรือไม่มีการเชื่อมต่อข้อมูลบนมือถือเลย

รายการอ้างอิง :
กูเกิลบริการแปลภาษาไม่ง้อเน็ต. เดลินิวส์. วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2556.

– ( 51 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ (มว.)

สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ได้รับการสถาปนาขึ้นตามพระราชบัญญัติพัฒนาระบบมาตรวิทยาแห่งชาติ พุทธศักราช 2540 ให้เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีระบบบริหารงานเป็นอิสระอยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

พันธกิจสำคัญคือ การพัฒนามาตรฐานการวัดแห่งชาติให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล และถ่ายทอดความถูกต้องของการวัดไปสู่กิจกรรมการวัดต่างๆ ในประเทศ รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจด้านมาตรวิทยาแก่สังคมไทย  โดยมีวัตถุประสงค์

  1. หน่วยวัดของชาติได้รับการสถาปนาและพัฒนาให้เพียงพอตามความต้องการของผู้ใช้บริการในประเทศ และเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
  2. บุคคลากรด้านมาตรวิทยาได้รับการพัฒนา และสามารถปฏิบัติภาระหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
  3. เป็นองค์กรหลักในการประสานความร่วมมือด้านมาตรวิทยาของชาติทั้งในและต่างประเทศ
  4. ส่งเสริมความเข้มแข็งห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ ทดสอบ และสอบเทียบระดับทุติยภูมิให้มีคุณภาพตามมาตรฐานสากลและจำนวนที่พอเพียงต่อ ความต้องการของประเทศ
  5. กิจกรรมการวัดต่างๆในประเทศมีความถูกต้องเป็นที่ยอมรับของนานาชาติ
  6. กลุ่ม เป้าหมายผู้ใช้บริการมาตรวิทยาอันได้แก่ กลุ่มบุคคลผู้อยู่ในระบบงาน กลุ่มบุคคลผู้จะเข้าสู่ระบบงานในอนาคต และกลุ่มบุคคลทั่วไป มีความรู้ความเข้าใจถึงความสำคัญและประโยชน์ของระบบมาตรวิทยา เพื่อให้สังคมไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
  7. กลุ่มเป้าหมายภาคอุตสาหกรรมได้รับการสนับสนุนในการยกระดับคุณภาพและมาตรฐานให้มีศักยภาพการแข่งขันในตลาดการค้าโลกสูงขึ้น
  8. รัฐบาลสามารถใช้มาตรวิทยาเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nimt.or.th

แหล่งที่มา: สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.nimt.or.th. (วันที่ค้นข้อมูล : 29 มีนาคม 2556)– ( 54 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ข้าวเจ้าพันธุ์ใหม่ทนน้ำท่วมฉับพลัน “กข51”

Published on March 29, 2013 by in S&T Stories

กรมการข้าวได้ประกาศรับรองพันธุ์ข้าวเจ้าพันธุ์ใหม่ “กข51” ทนน้ำท่วมฉับพลันซึ่งเป็นข้าวพันธุ์แรกที่ได้จากการปรับปรุงพันธุ์โดยใช้เครื่องหมายโมเลกุลช่วยในการคัดเลือกและได้รับการรับรองพันธุ์

ข้าวเจ้าพันธุ์ใหม่ “กข51” เป็นข้าวที่ได้จากการพัฒนาพันธุ์ข้าวขาวดอกมะลิ105 ให้มีลักษณะทนน้ำท่วมฉับพลัน ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง สวทช. โดยไบโอเทคร่วมกับ สํานักวิจัยและพัฒนาข้าวกรมการข้าว โดยได้นําข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ105 ผสมพันธุ์กับข้าวสายพันธุ์ IR49830-7-1-2-2 ซึ่งมีคุณสมบัติทนน้าท่วมฉับพลัน

ข้าวเจ้าพันธุ์ใหม่ “กข51” ถือเป็นหนึ่งในความสําเร็จในโครงการ “การวิจัยและพัฒนาพันธุ์ข้าวนาน้ำฝนโดยใช้เทคโนโลยีชีวภาพ” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสวทช. โดยไบโอเทคและกรมการข้าว ที่ดําเนินการพัฒนาพันธุ์ข้าวให้มีเสถียรภาพในการให้ผลผลิตต้านทานโรคและแมลง ทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม แต่ยังคงคุณภาพใกล้เคียงกับพันธุ์เดิม ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nstda.or.th/nstda-digital-content

ที่มา : BIOTEC Newsletter. 1-15 มีนาคม 2556– ( 99 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

อาหารสามารถช่วยต่อต้านการอักเสบได้

Published on March 29, 2013 by in S&T Stories

เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง อาหารสามารถช่วยต่อต้านการอักเสบได้

การอักเสบเป็นการตอบสนองของร่างกายเมื่อได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่มีระบบการป้องกันตามธรรมชาติ อาจจะมีการเหนี่ยวนำให้เกิดการพัฒนาของโรคได้ หากมีอาการเรื้อรัง
Lauren Whitt, Ph.D. ผ้อำนวยการสถาบัน UAB Employee Wellness และเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ กล่าวว่า เป้าหมายของการเกิดกระบวนการอักเสบ เพื่อตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการตรวจพบ และทำลายสารพิษที่สร้างความเสียหายให้แก่เนื้อเยื่อ ก่อนที่จะมีการแพร่กระจายสารพิษนั้นทั่วร่างกาย การทานอาหารที่มีประโยชน์จึงเป็นวิธีการหนึ่งที่สามารถต่อสู้กับการอักเสบได้
รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าถึงได้ที่ http://www.vcharkarn.com/vnews/154918– ( 61 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ดื่มน้ำหวาน : อีกสาเหตุเสียชีวิตมากมายทั่วโลก

Published on March 29, 2013 by in S&T Stories

ดื่มน้ำหวาน : อีกสาเหตุเสียชีวิตมากมายทั่วโลก
เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง ดื่มน้ำหวาน : อีกสาเหตุเสียชีวิตมากมายทั่วโลก

เครื่องดื่มเกลือแร่ โซดา น้ำผลไม้ ที่มีส่วนผสมของน้ำตาล มีความเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิต 180,000 คนทั่วโลกในแต่ละปี จากการเปิดเผยของนักวิทยาศาสตร์เมืองมะกัน เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเป็นส่วนผสมเป็นที่นิยมบริโภคกันทั่วโลกในปริมาณสูง มีส่วนทำให้ร่างกายน้ำหนักเกิน เพิ่มความเสี่ยงที่จะพัฒนาไปสู่โรคเบาหวาน โรคทางเดินโลหิต ไปจนถึงมะเร็งบางประเภท นักวิทยาศาสตร์จึงได้ใช้ข้อมูลการศึกษาเมื่อปี 2010 มาทำการวิเคราะห์จนพบว่าผู้ที่บริโภคเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของน้ำตาลปริมาณมากๆ เป็นโรคเบาหวานจนเสียชีวิตถึง 133,000 ราย เป็นโรคทางเดินโลหิตจนเสียชีวิต 44,000 ราย และเป็นมะเร็งจนเสียชีวิต 6,000 ราย โดย 70 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ของผู้เสียชีวิตกลุ่มนี้เสียชีวิตจากการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลในปริมาณมากเกินไป ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง มากกว่าประเทศที่มีรายได้สูง รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าถึงได้ที่ http://www.vcharkarn.com/vnews/154908– ( 38 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

กลิ่นยีนของตัวอื่นมีผลต่อการเลือกคู่

Published on March 29, 2013 by in S&T Stories

เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง กลิ่นยีนของตัวอื่นมีผลต่อการเลือกคู่

นักวิทยาศาสตร์ได้ตั้งทฤษฎีว่า สัตว์และมนุษย์สามารถได้กลิ่นยีน”บางยีน”ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะทำให้เปลี่ยนความสนใจในเรื่องการเลือกคู่ได้เช่นกัน ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ายีน MHC (major histocompatibility complex) มีส่วนสำคัญต่อการเลือกคู่ดังกล่าว เพราะมีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับระบบภูมิคุ้มกัน โดยการเลือกคู่ที่มี MHC ที่แตกต่างกับตัวเองมากๆ เป็นเรื่องที่เป็นไปได้มาก เพราะจะทำให้ลูกมีโอกาสที่จะมียีนระบบภูมิคุ้มกันที่หลากหลายกว่ามาก ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับการมีภูมิคุ้มกันโรคที่มากขึ้นด้วย แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครค้นพบข้อมูลกลิ่นของยีน MHC จากของไหลที่ปล่อยออกมาจากมนุษย์หรือสัตว์เลย นักวิทยาศาสตร์จากภาควิชาภูมิคุ้มกันวิทยาและศูนย์โปรตีน จากมหาวิทยาลัยทูบินเก้น และทีมงานจากมหาวิทยาลัยซาร์แลนด์ เยอรมนี ได้ทำการทดลองเพื่อศึกษายีน MHC และผลการศึกษานี้ก็ได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการ Nature Communications แล้ว ทำให้นักวิทยาศาสตร์ต้องมาทบทวนทฤษฎี “การดมกลิ่นเลือกคู่” กันใหม่ รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าถึงได้ที่ http://www.vcharkarn.com/vnews/154909– ( 101 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

มลพิษทางจราจรนั้นเป็นสาเหตุของโรคหืดหอบจริงเหรอ

Published on March 29, 2013 by in S&T Stories

เว็บไซต์วิชาการ.คอม นำเสนอข่าววิทย์เรื่อง มลพิษทางจราจรนั้นเป็นสาเหตุของโรคหืดหอบจริงเหรอ

มลพิษที่เกิดจากจราจรนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าเป็นสาเหตุของอาการหืดหอบ แต่งานวิจัยชิ้นใหมได้แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่เด่นชัดยิ่งขึ้น ซึ่งนักวิจัยของทางยุโรปได้กล่าวว่ามลพิษที่เกิดจากจราจรนั้นอาจจะเป็นสาเหตุของอาการหืบหอบในเด็กถึง 14% และทำให้อยู่ในระดับเดียวกันกับการสูบบุหรี่มือสองด้วย

เหล่านักวิจัยได้ข้อสรุปโดยการใช้ข้อมูลจากการวิจัยโรคระบาดที่มีอยู่ก่อน รวมถึงงานวิจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการจราจรทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ไปจนถึงจำนวนของเด็กที่อยู่ใกล้กับรูปแบบจราจรที่คล้ายคลึงกันในเมืองต่างๆ ของยุโรปถึง 10 เมือง
“สัดส่วนของผู้คนที่อาศัยอยู่ใกล้กับถนนที่มีการจราจรหนาแน่นนั้นมีจำนวนสูงมากจนน่าตกใจ” ผู้นำการวิจัย Laura Perez กล่าว “พวกเราได้ทำการประเมินอย่างเดียวกันกับรัฐลอสแอนเจลิสที่มีจำนวนคนอยู่ในละแวกนั้นน้อยกว่ามาก ซึ่งเมื่อการค้นพบนี้ได้ถูกรวมเข้ากับผลการทดลองการงานวิจัยโรคระบาดอื่นๆ เพื่อประเมินผลกระทบของสภาวะดังกล่าว เราได้พบว่าการเผชิญกับสภาพเช่นนี้นั้นอาจเป็นส่วนร่วมสำคัญต่อการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ก็เป็นได้”รายละเอียดเพิ่มเติมเข้าถึงได้ที่ http://www.vcharkarn.com/vnews/154910– ( 44 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments