magnify
magnify

Open Knowledge for all 

formats

‘ยงยุทธ’แนะสภาพัฒน์กำหนดวาระแห่งชาติ

“ยงยุทธ”แนะสภาพัฒน์มองภาพใหญ่ พัฒนาประเทศ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า กำหนดวาระแห่งชาติ ทำงานลักษณะเครือข่าย

นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้มุมมองผ่านสถาบันอนาคตไทยศึกษา ว่า สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ควรเป็นผู้ดำเนินการในการวางแผนนโยบายและกลยุทธ์ แต่ควรจะทำในลักษณะแบบเครือข่ายมากกว่าใช้วิธีสั่งจากบนลงล่าง และควรมีการประสานกับองค์กรต่างๆ ให้มากขึ้น

โดยสภาพัฒน์ฯ ควรมองภาพใหญ่ เช่น เลิกทำแผนฯ ห้าปี แล้วมาทำแผนอนาคตประเทศไทยระยะสิบปีขึ้นไป แบบมองไปข้างหน้า (foresight) เพื่อให้ได้แผนบ่งชี้ (indicative plan) ตามสาขาและเน้นเรื่องที่เป็นวาระของชาติ ประมาณไม่เกิน 10 เรื่อง โดยทำร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่างๆ และสถาบันอนาคตไทยศึกษาก็ควรจะเป็นส่วนสำคัญในเรื่องนี้

รายการอ้างอิง :

กรุงเทพธุรกิจออนไลน์. ‘ยงยุทธ’แนะสภาพัฒน์กำหนดวาระแห่งชาติ. กรุงเทพธุรกิจ (ธุรกิจ). วันที่ 15 มกราคม 2556.– ( 79 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

5 ทิศทางของเทคโนโลยีในอนาคตที่ไม่ควรพลาดสำหรับปี 2013

IEEE Computer Society ซึ่งเป็นกลุ่มความร่วมมือด้าน IT และคอมพิวเตอร์ระดับโลก ได้คาดการณ์ถึงทิศทางของโลกคอมพิวเตอร์ใน
อนาคตไว้ โดยมีทิศทาง 5 ด้านดังนี้

1.Internet of Things (IoT) จะมีความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น
Internet of Things (IoT) คือ เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตที่เชื่อมอุปกรณ์และเครื่องมือต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ รถยนต์ ตู้เย็น โทรทัศน์
และอื่นๆ เข้าไว้ด้วยกัน โดยเครื่องมือต่าง ๆ จะสามารถเชื่อมโยงและสื่อสารกันได้โดยผ่านระบบอินเตอร์เน็ต จากการคาดการณ์ ในปี
ค.ศ.2020 สิ่งต่าง ๆ กว่าแสนล้านชิ้นจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ด้วยระบบ IoT ผู้บริโภคทั่วไปจะเริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยีที่ทำให้พวกเขา
สามารถควบคุมสิ่งของต่าง ๆ ทั้งจากในบ้าน และสำนักงานหรือจากที่ไหนก็ได้ เช่น การควบคุมอุณหภูมิภายในบ้าน การเปิดปิดไฟ ไปจนถึง
การสั่งให้เครื่องทำกาแฟ เริ่มต้นกาแฟ

2.การใช้ภาพและเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้มนุษย์รับมือกับความท้าทายของยุค Big Data
ยุคของข้อมูลข่าวสารในปัจจุบัน มนุษย์สามารถสร้างและเก็บรวบรวมข้อมูลได้จำนวนมหาศาล และสามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายวงการ
เช่น วงการธุรกิจ การแพทย์ ความปลอดภัยของชาติ และการจัดการหายนะต่าง ๆ ซึ่งล้วนแต่เป็นประโยชน์ต่อมนุษยชาติ แต่ปัญหาต่อไปคือ
ข้อมูลเหล่านั้นมีจำนวนมากขึ้น ๆ และล้าสมัยเร็วขึ้น หน่วยงานรัฐบาลและบริษัทใหญ่ ๆ กำลังให้ความสำคัญกับการวิจัยเพื่อหาวิธีการับมือกับ
ปัญหาดังกล่าว เทคโนโลยีการวิเคราะห์ Big Data และการทำข้อมูลให้เป็นภาพเป็นวิธีการหนึ่งที่มีประสิทธิภาพที่ไม่เพียงแต่ช่วยในการนำเสนอข้อมูลจำนวนมาก ๆ ให้สามารถเข้าใจได้ง่ายแล้ว

3.Hybrid Clouds และ Personal Clouds
เทคโนโลยี Cloud computing จะเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยองค์กรและบริษัทต่าง ๆ จะใช้ Hybrid clouds หรือเทคโนโลยี cloud ที่ผสมผสานระหว่าง Public cloud กับ private cloud ส่วนผู้บริโภคก็จะใช้ personal clouds การจัดการและมาตรฐานของระบบ Cloud จะมีการพัฒนามากขึ้น และยังเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องเพื่อวัตถุประสงค์การลดการใช้พลังงาน

4.สงครามการควบคุมตรวจสอบบนระบบอินเตอร์เน็ตจะเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้น
อินเตอร์เน็ตจะกลายเป็นสนามรบของการควบคุมทางเทคนิค สังคมและการเมือง โดยในปี 2013 สงครามนี้จะคงดำเนินต่อไปโดยมีสองขั้ว
ระหว่างการควบคุมตรวจสอบบนโลกอินเตอร์เน็ตกับการพัฒนาเพื่อเสรีภาพและความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ โดยปีนี้ความเคลื่อนไหว
เพื่อการควบคุมตรวจสอบที่เห็นได้ชัดเจนคือ ความพยายามเริ่มใช้กฎหมาย Online Piracy Act (SOPA) และ Protect IP Act (PIPA)
แต่ก็ไม่สำเร็จผลเนื่องจากเว็บไซต์ Wikipedia, Reddit และเว็บไซต์อื่น ๆ ที่เน้นการแบ่งปันข้อมูลออกมาคัดค้าน แต่ความขัดแย้งนี้จะคุขึ้น
มาอีกครั้งในปี 2013 เนื่องจากสหภาพ International Telecommunication Union ของ United Nation (UN) กำลังพิจารณาคำขอ
ในการเพิ่มการควบคุมบนอินเตอร์เน็ตที่ยื่นโดยประเทศรัสเซีย สาธารณะรัฐประชาชนจีน ประเทศทาจิกิสถาน และประเทศอุซเบกิสถาน โดยประเทศเหล่านี้ได้ยื่นขอเสนอแก่ UN General Assembly ให้พิจารณากฎ “International Code of Conduct for Information Security” ซึ่งเป็นกฏเกณฑ์ระหว่างประเทศในการจัดการความปลอดภัยทางข้อมูลเพื่อให้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ มีการวางมาตรฐานและกฏเกณฑ์ควบคุมพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลข่าวสารและ Cyberspace ซึ่งเป็นที่กังวลอยู่ในหลาย ๆ ประเทศ ข้อเสนอบางข้อ ขอให้ยกเลิกการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นความลับอีกด้วย

5.นักวิจัยและบริษัทต่าง ๆ จะพยายามพัฒนาเครื่องมือและวิธีการที่จะเพิ่มอำนาจให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์ที่มีหลายหน่วยประมวลผล
(Mulitcore computing)
ระบบประมวลผลในยุคปัจจุบันจะทำงานไปพร้อม ๆ กันหลาย ๆ ระบบ ดังนั้นการเรียนรู้และเตรียมความพร้อมที่จะใช้งานเทคโนโลยี
ที่มีหลายหน่วยประมวลผลจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยในปัจจุบันเครื่องจักรต่าง ๆ กำลังถูกพัฒนาให้มีหน่วยประมวลผลมากขึ้น ซึ่ง
อาจจะมีมากถึง 10,000 หน่วย ด้วยความใหม่และความซับซ้อนของเทคโนโลยีที่มีหลายหน่วยประมวลผลทำให้นักพัฒนาและ
สถาปนิกคอมพิวเตอร์ต้องเร่งศึกษา ในปี 2013 นักวิจัยจะมุ่งเน้นในการพัฒนา Share memory หรือเทคนิคการสื่อสารข้อมูลใน
กระบวนการที่มีหลาย ๆ ระบบเข้ามาใช้หน่วยความจำเดียวกันให้อยู่ในชั้นของแผ่นไมโครชิป ซึ่งจะช่วยเพิ่มอำนาจในการทำงานให้แก่
ทั้งผู้บริโภคทั่วไปและองค์กรต่าง ๆ

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.nstda.or.th/nstda-doc-archives/doc_download/1153—-12556

 – ( 42 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

“โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ”

“โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ” ระหว่าง สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) และบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น ร้านอิ่มสะดวกของคนไทย โดยมีนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ นางสุวิภา วรรณสาธพ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ดร.พรชัย รุจิประภา ประธานกรรมการนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  บมจ.ซีพี ออลล์ ร่วมลงนาม  พร้อมทั้งแนะนำการประกวด”สุดยอดนวัตกรรม 7Innovation Awards (เซเว่นอินโนเวชั่น อวอร์ดส์)” ในวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2556 เวลา 10.00-11.30 น. ณ ห้อง Meeting Room 2 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์……

แหล่งที่มา :

“โครงการความร่วมมือขับเคลื่อนนวัตกรรมสำหรับประเทศ”. พิมพ์ไทย (ลมพัด-ลมเพ). ฉบับวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2556.– ( 105 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

นักวิจัยจุฬาฯพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อฟัน ช่วยผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่

นักวิจัยจุฬาฯ พัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อฟันและชีววัสดุ ตั้งเป้ารักษา    ผู้ป่วยปากแหว่งเพดานโหว่ เบื้องต้นทดสอบระดับแผลเล็กได้ผลน่าพอใจ แต่ยังต้องพัฒนาต่อไป หากเป็นไปตามเป้าน่าจะนำไปใช้จริงได้อนาคต

ศ.ทพ.ดร.ประสิทธิ์ ภวสันต์ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ คณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาฯ เปิดเผยถึงวิจัยเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อฟันเพื่องานวิศวกรรมเนื้อเยื่อ กระดูกและเนื้อเยื่อปริทันต์ว่า คณะวิจัยได้ศึกษาเกี่ยวกับการเพาะเลี้ยงเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อฟันมา ประมาณ 10 ปีแล้ว และเมื่อ 5 ปีก่อนสามารถพัฒนางานวิจัยได้อย่างก้าวกระโดด โดยได้รับการสนับสนุนจากโครงการพัฒนาวิชาการภายใต้โครงการจุฬาฯ 100 ปี และทุนสนับสนุนวิจัยเรื่องนี้ต่ออีก ๕ ปี จากทุนนักวิจัยแกนนำประจำปี 2555 ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) Read more…– ( 110 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

คลังข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องยา

คลังข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องยา ที่ให้คุณค้นหาข้อมูลยาแต่ละชนิด ทั้งยาตามกลุ่มโรค ยาสมุนไพร วิธีการเก็บรักษาขยาแต่ละชนิด รวมทั้งผลข้างเคียงที่เกิดจากการใช้ยาแต่ละชนิด รายละเอียดเพิ่มเติม รายละเอียดเพิ่มเติม

แหล่งที่มา : คลังข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องยา. E-Commerce (Web Guide). ฉบับวันที่ 01 – 31 มกราคม พ.ศ. 2556.

 – ( 32 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

Google เปิด Innovation Thailand

กูเกิล ประเทศไทย ร่วมมือกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เปิดโครงการ Innovation Thailand หวังขับเคลื่อนนวัตกรรมในไทยเพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ด้วยการแจกรางวัล Innovation Thailand Idol ให้กับ 7 หน่วยงานที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อชุมชนและสังคมได้ อย่างฉลาด  รายละเอียดเพิ่มเติม

รายการอ้างอิง :

Google เปิด Innovation Thailand. E-Commerce (Business News) ฉบับวันที่ 01 – 31 มกราคม พ.ศ. 2556.– ( 87 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

งบลงทุนของอียูด้านวิจัยและนวัตกรรม

บทความจาก วารสารข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจากบรัสเซลล์ สำนักงานที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประจำสถานเอกอัครราชฑูตไทย ณ กรุงบรัสเซลล์ เบลเยี่ยม

อียูลงทุน 8,100 ล้านยูโรสำหรับงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจและสร้างงาน
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2555 คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศอนุมัติงบประมาณจำนวน 8,100 ล้านยูโรจากงบประมาณรวม 10,800 ล้านยูโรที่ประเทศสมาชิกอียูตั้งไว้เพื่องานวิจัยและนวัตกรรม ของปี ค.ศ.2013 โดยจะประกาศเรียกรับข้อเสนอโครงการวิจัยใต้กรอบแผนงานฉบับที่ 7 เป็นครั้งสุดท้ายและใหญ่กว่าที่เคยเรียกร้องรับข้อเสนอโครงการตามกรอบแผนงานฉบับที่ 7  ที่เคยมีมา เพื่อสนับสนุนโครงการและแนวความคิดที่จะส่งเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของยุโรปและการรับมือกับปัญหาต่างๆ เช่น สุขภาพของมนุษย์ การป้องกันสิ่งแวดล้อม
และการหาวิธีการรับมือกับสิ่งท้าทายที่กำลังเพิ่มขึ้นในเขตเมืองรวมทั้งการจัดการขยะ

Read more…– ( 75 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ค่าแรง 300 บาทเร่งรัฐบาลเยียวยาให้ถูกจุด

นโยบายปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันของรัฐบาล ซึ่งมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังประกาศให้มีผลบังคับใช้กับ 7 จังหวัดนำร่องทั้ง กทม. ปริมณฑล และภูเก็ต ในระยะแรกไปเมื่อวันที่ 1 เม.ย.2555…กำลังตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า จะสร้างผลกระทบให้กับการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศมากกว่าความอยู่ดีกินดี และความสามารถในการจับจ่ายใช้สอยของบรรดาผู้ใช้แรงงาน

Read more…– ( 143 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

เลือกสินค้า’นาโน’อย่างฉลาด

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่า นาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology) เข้ามามีบทบาทกับสินค้าอุปโภคบริโภค มากขึ้น เนื่องด้วยนวัตกรรมของนาโนเทคโลยี นั้นได้เข้ามาช่วยเพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆ ให้กับวัสดุและผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย ทั้งเสื้อนาโน ที่มีสมบัติกันน้ำ หรือยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ สีนาโน ที่มีสมบัติสะท้อนน้ำทำความสะอาดตัวเองได้ ซึ่งนอกจากสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์แล้ว “นาโนเทคโนโลยี” ยังดึงดูดความสนใจผู้บริโภคได้มากทีเดียว Read more…– ( 4299 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

งบวิจัยมหา’ลัย

การจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกของไทเมอร์ ไฮเออร์ เอดูเคชั่น (Timer Higher Education) ประกาศผลว่า มหาวิทยาลัยไทยหลายแห่งหลุดโผ เป็นที่วิจารณ์ว่าเป็นเพราะงบมหาวิทยาลัยวิจัยถูกตัดไปนั้น ทางสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติหรือ วช. ซึ่งรับผิดชอบในการกำกับดูแลงานวิจัยของประเทศก็มิได้นิ่งนอนใจ

การศึกษางบประมาณเพื่อการวิจัยของประเทศในช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาว่า งบประมาณเพื่อการวิจัยตั้งแต่ปีงบประมาณ 2553-2556 อยู่ในระดับประมาณ 0.2% ของผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (จีดีพี) ซึ่งจัดว่าน้อย อย่างไรก็ตามการจัดสรรงบวิจัยตั้งแต่เริ่มแผนมาจนถึงปัจจุบันงบวิจัยไม่ เพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่น้อยลง ตัวเลขที่รัฐจัดสรรงบประมาณแผ่นดินเพื่อการวิจัยจะอยู่ประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี

Read more…– ( 104 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments