NSTDA Blog : Open Knowledge

15 เรื่องแปลกแต่จริง

Published on December 8, 2012 by Valaiporn Changkid in เก็บมาเล่า เอามาฝาก

ในโลกเรานี้มีเรื่องมหัศจรรย์และเรื่องแปลกที่เราเองก็ไม่อาจคาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์หรือเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้นที่หลายคนพูดกันติดปากว่า “แปลกแต่จริง” … เว็บไซต์สนุก (sanook.com) ได้เก็บรวบรวมเรื่องราว 15 เรื่องแปลกแต่จริงไว้ให้เราได้ติดตามกัน

1. ยอดเขาที่สูงที่สุดในโลก
ส่วนใหญ่เราต้องตอบว่า “ยอดเขาเอเวอเรสต์” แต่ จริงๆ แล้วไม่ใช่ ที่ถูกต้องคือ “ยอดเขามัวนาเคีย ( Mauna Kea)” ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของหมู่เกาะฮาวาย ถ้าวัดจากตีนเขา ซึ่งอยู่ที่ระดับพื้นดินใต้ทะเลจะสูงถึง 10,200 เมตร ทั้งๆที่ยอดเขาเอเวอเรสต์สูงแค่ 8,848 เมตรนั่นเอง

2. สถานที่ใดแห้งแล้งที่สุดในโลก
ทวีป แอนตาร์กติกา ที่ขั้วโลกใต้ พื้นที่บางส่วนของทวีปนี้ ไม่มีฝนตกมาประมาณ 2 ล้านปีแล้ว พื้นที่บางส่วนของที่นี่ไม่มีหิมะ ปราศจากน้ำแข็งและไม่มีฝนตกมาเลย เรียกว่า หุบเขาแห้ง( Dry Valley )เรียกได้ว่าแห้งแล้งกว่าทะเลทรายซาฮาร่า 250 % เลยทีเดียว

3. อะไรคือสิ่งที่มีขนาดใหญ่สุดที่วาฬสีน้ำเงินจะกลืนได้
มันคือ ขนาดของ ส้มหนึ่งผล ส่วน สิ่งที่เล็กที่สุดที่วาฬจะกลืนได้ คือ ฝุ่นทรายใต้ทะเล

4. สัตว์ชนิดใดอันตรายที่สุดตั้งแต่เคยมีมา
ครึ่งหนึ่งของมนุษย์ที่เสียชีวิต ประมาณ 45,000 คน ถูกฆ่าด้วยน้ำมือของ ยุงเพศเมีย

5. โลกมีดวงจันทร์เป็นบริวารกี่ดวง
อย่างน้อย 7 ดวงซึ่งมีอยู่ดวงเดียวที่เรามองเห็น

ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น

Published on December 8, 2012 by Valaiporn Changkid in Health, เก็บมาเล่า เอามาฝาก

ปัจจุบันมีร้านเครื่องดื่มชงสดประเภทกาแฟ ชา ผุดขึ้นมากมาย …. ในนามของร้าน “กาแฟสด” ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด แต่ถ้าจะให้เปรียบเทียบกันในระดับโลกเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมสูงรองลงมาจาก “น้ำเปล่า” นั่นก็คือ “น้ำชา”

ชา เป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอมที่นุ่มนวล เมื่อดื่มแล้วทำให้ร่างกายสดชื่น ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้คนนิยมดื่มชากันอย่างแพร่หลาย สำหรับใบชาที่ได้รับความนิยมดื่มกันอยู่ในปัจจุบันแบ่งได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ ชาจีน ชาเขียว และชาฝรั่ง ซึ่งชาแต่ละชนิดนั้นมีกรรมวิธีในการผลิตที่แตกต่างกัน แต่หากจะถามว่าแล้วชาชนิดไหนมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดคำตอบคือ “ชาเขียว” นั่นเอง

ชาเขียว (green tea) ได้ชื่อว่าเป็นชาที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด ซึ่งชาเขียวนี้เป็นชาที่ไม่ผ่านกรรมวิธีการหมักทำให้ใบชานั้นไม่สูญเสียองค์ประกอบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพไปในระหว่างการหมักเหมือนกับชาฝรั่ง ใบชาเขียวที่นำมาชงดื่มกันนั้นได้มาจากการทำใบชาให้แห้งที่อุณหภูมิสูงอย่างรวดเร็ว จึงทำให้ใบชานั้นแห้งแต่ยังคงความมีสีเขียวและมีคุณภาพที่ดีเฉกเช่นใบชาสด และเมื่อนำใบชาที่ได้นี้มาชงกับน้ำร้อนแล้วจะได้น้ำชาสีเขียว หรือสีเหลือง หรือสีอมเขียว ไม่มีกลิ่น แต่จะมีรสชาติฝาดกว่าชาจีนนิดหน่อย

ชาเขียวนั้นมี 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ ชาเขียวแบบญี่ปุ่น และชาเขียวแบบจีน ซึ่งแตกต่างกันตรงที่ชาเขียวแบบจีนจะมีการคั่วด้วยกระทะร้อน แต่ชาเขียวแบบญี่ปุ่นไม่ต้องคั่ว ใบชาเขียวมีสารอาหารพวกโปรตีน น้ำตาลเล็กน้อย และมีวิตามินอีสูง แต่อย่างไรก็ดีมีรายงานว่าวิตามินเอและวิตามินอีที่มีอยู่ในใบชาจะสูญเสียไปเกือบหมดถ้าใช้ระยะเวลาในการชงนานจนเกินไป ส่วนปริมาณของแคลเซียม เหล็ก และวิตามินซีจะสูญเสียไปประมาณ ครึ่งหนึ่ง แต่มีรายงานจากประเทศญี่ปุ่นว่า ถ้าเราสามารถรับประทานใบชาเขียวแห้ง 6 กรัมต่อวัน จะทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอี และวิตามินเอถึงร้อยละ 50 และ 20 ของปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ตามลำดับ ในประเทศญี่ปุ่นจึงมีการผลิตชาเขียว ในรูปผงสำหรับบริโภคขึ้น ซึ่งสามารถเติมลงในอาหารหลายชนิด ตั้งแต่อาหารญี่ปุ่นจนถึงสเต็ก แฮมเบอร์เกอร์ สปาเกตตี้ และสลัด

วันนี้จะขอนำทุกท่านไปรู้จักกับประเภทของชาเขียวญี่ปุ่นว่าที่เราดื่มกันอยู่นั้น หรือได้เห็นชื่อชาเขียวในร้านอาหารญี่ปุ่นั้นเป็นชาประเภทใดกันบ้าง

มดน้ำผึ้งแสนสวย

Published on December 8, 2012 by Valaiporn Changkid in เก็บมาเล่า เอามาฝาก

ถ้าพูดถึง “มด” ทุกคนจะต้องนึกถึงพิษสงอันร้ายกาจของมันอย่างแน่นอน เพราะถ้าใครได้โดนมันกัดขึ้นมารับรองเลยว่าจะต้องมีอาการเจ็บๆ คันๆ ไปตามๆ กัน แต่ถึงอย่างไรก็ตามมดก็ยังบ่งบอกถึงความขยันและความสามัคคีได้เหมือนกัน เพราะถึงมันจะตัวเล็กนิดเดียวแต่มันก็สามารถทำรังได้ใหญ่กว่าตัวมันซะอีก

มดเป็นสัตว์ในวงศ์ Formicidae มดมีจำนวนชนิดมากกว่า 12,000 ชนิด มดมีการสร้างรังเป็นอาณาจักรขนาดใหญ่ บางรังมีจำนวนประชากรมากถึงล้านตัว มีการแบ่งวรรณะกันทำหน้าที่คือ วรรณะมดงาน ซึ่งมดงานจะเป็นมดเพศเมียแต่เป็นหมัน มดพวกนี้จะทำหน้าที่หาอาหาร สร้างและซ่อมแซมรัง ปกป้องรังจากศัตรู ดูแลตัวอ่อน และงานอื่นๆ ทั่วไป วรรณะสืบพันธุ์ จะเป็นมดเพศผู้ และราชินีมดจะเป็นเพศเมีย มีหน้าที่สืบพันธุ์

ในบรรดามดที่มีจำนวนมากกว่า 12,000 ชนิด แต่มีมดที่เรารู้จักกันดีและเห็นอยู่ทั่วไปจะมีอยู่ประมาณ 3 ชนิดคือ

มดคันไฟ เป็นมดที่สร้างความเจ็บปวดให้กับเราได้ มดคันไฟจะใช้เหล็กในต่อย จึงทำให้ผู้ถูกต่อยรู้สึกเจ็บแสบคล้ายถูกไฟลวกจึงเรียกมดคันไฟ หลังจากถูกต่อยจะมีอาการบวมแดงขยายกว้างขึ้น และจุดที่ถูกต่อยจะใสคล้ายถูกไฟลวกและจะมีอาการคัน มากเมื่อเกาผิวหนังจะบวมแดงแผ่กว้างขึ้น
มดดำ เป็นมดที่ไม่มีพิษสงอะไรมากนักแต่จะสร้างความรำคาญให้กับเราซะเป็นส่วนใหญ่
มดแดง ส่วนใหญ่เราจะเห็นมดแดงทำรังบนอยู่ต้นไม้ใหญ่ มดแดงเมื่อถูกรบกวนเมื่อไหร่มันจะทำอันตรายโดยการกัดซึ่งผู้ที่ถูกกัดจะรู้สึกเจ็บปวดมาก ต่อมาจะเกิดอาการบวมคัน

เครื่องสแกนรอยยิ้ม

Published on December 7, 2012 by Valaiporn Changkid in เทคนิคการทำงาน, เทคโนโลยี

เครื่องสแกนรอยยิ้ม แค่เห็นชื่อเครื่องมือหลายคนคงจะพอเดาออกว่าเป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ผลิตขึ้นในประเทศใด… หากใครคิดว่าประดิษฐ์คิดค้นขึ้นในประเทศญี่ปุ่น ก็ปรบมือดังๆ ให้กับตัวเองได้เลย ถูกต้องแล้วค่ะเครื่องสแกนนี้เป็นเครื่องที่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมาในประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง

ด้วยวัฒนธรรมการทำงานของประชากรในประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่เปลี่ยนงานบ่อยเหมือนกับบ้านเรา นักศึกษาในประเทศญี่ปุ่นเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานกับบริษัทใดแล้วก็จะอยู่กันยาวไปเป็นสิบๆ ปีทีเดียว ดังนั้นจึงไม่แปลกที่บริษัทในประเทศญี่ปุ่นจะพยายามฝึกคุณภาพของพนักงานให้เข้มข้นมากที่สุด และหนึ่งในหลักสูตรที่พนักงานทั้งหนุ่มและสาว โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่บริการต้องเข้ารับการอบรมเป็นลำดับต้นๆ คือ “การฝึกยิ้มหวาน” ให้ดูเป็นมิตรและจริงใจกับกับลูกค้ามากที่สุด โดยทำการฝึกยิ้มกับเครื่องสแกนรอยยิ้ม โดยเครื่องมือนี้ได้โหลดข้อมูลรอยยิ้มของคนชาวญี่ปุ่นในทุกๆ สาขาอาชีพเอาไว้มากกว่าล้านคน เมื่อพนักงานฉีกยิ้มผ่านเครื่องสแกนรอยยิ้มก็จะทำการประมวลผลและให้คะแนนตั้งแต่ 1% ไปจนถึง 100% หากใครทำการยิ้มผ่านเครื่องสแกนยิ้มแล้วได้รับคะแนนเต็มร้อยก็ยิ้มแก้มปริกันไป แต่ถ้าหากได้คะแนนน้อยก็ไม่ต้องโศกา เพราะเจ้าเครื่องสแกนยิ้มแสนฉลาดนี้จะทำการแนะนำว่ารอยยิ้มของพนักงานที่ได้คะแนนน้อยนั้นมีข้อควรปรับปรุงอย่างไร และเมื่อลองปรับปรุงตามคำแนะนำที่ได้แล้ว ลองมาทำการยิ้มผ่านเครื่องสแกนยิ้มอีกครั้งรับรองคะแนนพรุ่งปรี๊ดไปแตะ 100% กันทีเดียว

เครื่องสแกนยิ้มนี้ได้ถูกนำไปใช้ในธุรกิจให้บริการต่างๆ อาทิ โรงแรม โรงพยาบาล สถานีรถไฟ ฯลฯ ล่าสุดรถไฟฟ้าสายเคอิฮิน ได้ติดตั้งเครื่องสแกนยิ้มตามสถานีรถไฟกว่า 15 แห่งในโตเกียว โดย บริษัทเคฮิน เอ็กซ์เพรส เรลเวย์ ได้ติดตั้งเครื่องเพื่อตรวจสอบว่าพนักงานได้ให้บริการแก่ผู้โดยสารด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาหรือไม่ เพื่อให้พนักงานดูมีชีวิตชีวาและไม่เคร่งเครียด และในโรงพยาบาลทั่วไปก็จะมีเครื่องสแกนยิ้มนี้ให้บริการเพื่อให้คนธรรมดาเช็กคะแนนยิ้มหวานของตัวเองกันได้ จนกลายเป็นธรรมเนียมสำหรับนักศึกษาที่กำลังหางาน ที่จะต้องแวะเวียนไปฝึกยิ้มเพื่อจะได้นำเอาใบคะแนนยิ้มสวยแนบเป็นประวัติสำหรับใช้ในการสมัครงานได้อีกด้วย

แหล่งที่มา :
ญี่ปุ่นไม่ยิ้มสยาม ต้องพึ่งเทคโนโลยีบังคับยิ้ม. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=473418. (วันที่ค้นข้อมูล 7 ธันวาคม 2555).
สแกนยิ้มก่อนทำงาน!?. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://203.151.232.193/~askmedia. (วันที่ค้นข้อมูล 7 ธันวาคม 2555)./book/webboard_reply.php?id=27687
“world watch : ฝึกยิ้มหวานก่อนทำงานในญี่ปุ่น”. SPICY. 10,427 : หน้า 46. (1-7 ธันวาคม 2555).– ( 643 Views)

Tags: smile scan, นวัตกรรม, ประเทศญี่ปุ่น, ฝึกยิ้ม, เครื่องสแกนยิ้ม

No Comments

สะพานภูมิพล ๑ และสะพานภูมิพล ๒

Published on December 7, 2012 by ratana in เก็บมาเล่า เอามาฝาก, เทคโนโลยี

สะพานภูมิพล ๑ และสะพานภูมิพล ๒ เป็นหนึ่งในโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่มุ่งคลี่คลายปัญหาการจราจรในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยเฉพาะการเอื้ออำนวยความสะดวกให้แก่การจราจรในย่านอุตสาหรรมของทั้งกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการให้คล่องตัว โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

รองรับการขนถ่ายและลำเลียงสินค้าจากท่าเรือกรุงเทพฯ (ท่าเรือคลองเตย) ไปยังโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ทางตอนใต้ของกรุงเทพฯ และจังหวัดสมุทรปราการ
เสริมโครงข่ายถนนของกรุงเทพฯ และจังหวัดสมุทรปราการ
เป็นโครงการสำหรับขนถ่ายและลำเลียงสินค้าในพื้นที่โครงการไปยังส่วนต่างๆ ของประเทศ เช่น ด้านทิศใต้ออกสู่ถนนพระรามที่ ๒ หรือทางด้านทิศตะวันออกไปสู่ถนนสุขุมวิท หรือถนนบางนา-ตราด

สะพานภูมิพล ๑ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านเหนือ เชื่อมระหว่างแขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กรุงเทพมหานคร กับตำบลทรงคนอง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

สะพานภูมิพล ๒ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านใต้ เชื่อมระหว่างตำบลทรงคนอง กับตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

สะพานภูมิพล 1 (ขวา) และสะพานภูมิพล 2 (ซ้าย)

นอกจากประโยชน์หลักในการสัญจรแล้ว สะพานภูมิพล ๑ และสะพานภูมิพล ๒ มีความงดงามทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น จนกล่าวได้ว่าเป็น สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงามที่สุด อีกแห่งหนึ่งที่คนไทยภาคภูมิใจ

ที่มาของข้อมูล: “สารพันเรื่องน่ารู้ : สะพานภูมิพล ๑ และสะพานภูมิพล ๒” จดหมายข่าวราชสำนักเลขาธิการ. ๒๖(๑) ๖๙-๗๒; ตุลาคม ๒๕๕๔ – มกราคม ๒๕๕๕– ( 183 Views)

Tags: สะพาน, สะพานภูมิพล, แม่น้ำเจ้่าพระยา

No Comments

ภัยจากน้ำหอม

Published on December 7, 2012 by wanutwira in Health, ความปลอดภัยด้านสารเคมี, เก็บมาเล่า เอามาฝาก

ค่าความนิยมในเรื่องความสวยความงามสำหรับผู้หญิง ไม่ว่ายุคสมัยไหนก็ไม่มีวันเสื่อมคลาย ไม่เฉพาะกับเรื่องการแต่งกาย แต่งหน้าทำผมเท่านั้น การใช้น้ำหอมก็เป็นอีกหนทางหนึ่งในการเติมเสน่ห์ให้กับตนเอง แต่คุณ รู้หรือไม่ว่า น้ำหอมหรือโคโลญจน์ ที่คุณใช้กันอยู่เกือบทุกวันนั้น ไม่ว่าจะราคาถูกในหลักร้อย หรือราคาแพงในหลักพัน หลักหมื่น ล้วนมีอันตรายแอบแฝงที่คุณคาดไม่ถึง

บทบาทใหม่ของการบริการข้อมูลวิจัย (Research Data) และแผนการจัดการข้อมูล (Data Management Plan)

Published on December 7, 2012 by supaporn in Librarian, ห้องสมุด

มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา (The US National Science Founsation : NSF) ได้มีข้อเสนอกำหนดให้ผู้ขอทุนวิจัยต้องเสนอแผนการจัดการข้อมูล (Data Management Plan : DMP) ซึ่งถือว่าแผนการจัดการจัดข้อมูลเป็นความรับผิดชอบของผู้ขอทุนวิจัย อ่านรายละัเอียดเพิ่มเติม– ( 116 Views)

Tags: Data Management Plan, NSF, Research Data, US National Science Founsation, การบริการข้อมูลวิจัย, การบริหารจัดการงานวิจัย, งานวิจัย, มูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติสหรัฐอเมริกา, วิจัย, แผนการจัดการข้อมูล

No Comments

หลอดไฟฟลูออเรสแซนต์

Published on December 6, 2012 by waree in เก็บมาเล่า เอามาฝาก

ช่วงฤดูหนาว เวลา 18.00 น. ก็ค่ำมืดดึกดื่นแล้ว จะกลับไปทำงาน ทำการบ้าน หรืออ่านหนังสือท่ามกลางความมืดสายตาคงเสียแน่ ต้องหันมากดสวิตช์เปิดไฟเสียก่อน หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ที่ใช้กันตามบ้านเรือนนั้น ตัวหลอดไฟผลิตขึ้นจากหลอดแก้วที่ปลอดอากาศ โดยบรรจุไอปรอทและก๊าซอาร์กอนไว้ภายในหลอดไฟเล็กน้อย และเคลือบผิวหลอดไฟด้วยสารเรืองแสงหรือผงฟอสเฟอร์ ที่ปลายหลอดทั้งสองข้างมีไส้หลอดที่ทำขึ้นจากทังสเตนหรือวุลแฟรม ส่วนขั้วหลอดนั้นผลิตจากอะลูมิเนียม หากหลอดไฟฟลูออเรสเซต์หมดอายุการใช้งาน ควรนำไปทิ้งด้วยการฝังกลบในพื้นที่ปลอดภัย เพื่อไม่ให้สารปรอทที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพแพร่กระจายไปสู่สิ่งแวดล้อม

แหล่งที่มา :
น้องโนเนะ. “เคมีรอบบ้าน : หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์”. Update. 26(285) : 105 ; มิถุนายน 2554.– ( 111 Views)

Tags: หลอดไฟฟลูออเรสเซต์

No Comments

เทียนแฟนซี สวย หอม อันตราย

Published on December 6, 2012 by wanutwira in Health, เก็บมาเล่า เอามาฝาก

ในสมัยก่อนเทียนไขส่วนใหญ่ทำมาจากวัตถุดิบตามธรรมชาติ เช่น ขี้ผึง ซึ่งปลอดภัยต่อสุขภาพของคนเรา แต่ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นเทียนที่ขายมีรูปร่างและสีต่างๆกัน เช่น เขียว เหลือง แดง ม่วง น้ำเงิน และสีอื่นๆอีก พร้อมกับรูปร่างของเทียนก็มีหลากหลายรูปแบบ และมีกลิ่นที่หลากหลาย บางครั้งเรียกเหล่านี้ว่า เทียนแฟนซี หรือเทียนพิษ ที่สำคัญคือการผลิตเทียนในปัจจุบันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก เทียนสีสวยมีกลิ่นต่างๆนั้น ซึ่งปัจจุบันมีขายทั่วประเทศรวมทั้งมีขายในต่างประเทศเช่นเดียวกัน อาจกลายเป็นตัวปล่อยสารผลิตสู่อากาศทำให้อากาศเป็นพิษได้

ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน

Published on December 6, 2012 by wanutwira in วิทยาศาสตร์, เก็บมาเล่า เอามาฝาก

ในร่างกายของเรามีฮอร์โมนตัวหนึ่งซึ่งได้รับการขนานนามว่า “ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน” เพราะฮอร์โมนชนิดนี้ส่งผลให้เกิดความรู้สึกผูกพัน อบอุ่น คลายกังวล และรู้สึกปลอดภัย เช่น ความรู้สึกรักในพ่อแม่ เป็นความรักที่มีความผูกพันกันอย่างแน่นแฟ้น ความรู้สึกที่ไม่ตื่นเต้น แต่มีความอบอุ่นลึกซึ้ง ซึ่งความรู้สึกดังกล่าวนี้ เป็นความรู้สึกที่ได้รับผลกระทบมาจาก “ฮอร์โมนออกซิโทซิน”

Open Knowledge for all

15 เรื่องแปลกแต่จริง

ประเภทของชาเขียวญี่ปุ่น

มดน้ำผึ้งแสนสวย

เครื่องสแกนรอยยิ้ม

สะพานภูมิพล ๑ และสะพานภูมิพล ๒

ภัยจากน้ำหอม

บทบาทใหม่ของการบริการข้อมูลวิจัย (Research Data) และแผนการจัดการข้อมูล (Data Management Plan)

หลอดไฟฟลูออเรสแซนต์

เทียนแฟนซี สวย หอม อันตราย

ฮอร์โมนแห่งความผูกพัน

Meta

Web Archive

Categories

CreativeCommons

TrueHit