magnify
magnify

Open Knowledge for all 

formats

นักวิทย์แดนปลาดิบใช้คอมพิวเตอร์คิดหาวิธีกินแฮมเบอร์เกอร์ไม่ให้หกได้สำเร็จ!

ข่าวนี้เป็นข่าวงานวิจัยที่แปลกประหลาดงานหนึ่ง ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจริงๆแล้ว เรื่องนี้อาจเป็นปัญหาของใครหลายๆคน ในการกินแฮมเบอร์เกอร์ ที่ทุกครั้งที่เรากัดมัน ส่วนประกอบของมันจะทะลักออกมาทางด้านหลังเป็นประจำ ปัญหานี้จะหมดไปเมื่อคุณทำตามคำแนะนำของการวิจัยนี้

burger

Read more…– ( 33 Views)

 
Tags: ,
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

แปลง Floppy Drive ให้กลายเป็นเครื่องดนตรี

Drive A… หรือ Floppy A หลายคนคงจะฉงนกันว่า มันคืออะไร หรือว่าแผ่น Floppy Disk เด็กรุ่นใหม่อาจจะไม่รู้จักกันเสียแล้ว กล่าวคือ แผ่นดิสก์แบบอ่อน หรือ ฟลอปปีดิสก์ (อังกฤษ: floppy disk) หรือที่นิยมเรียกว่า แผ่นดิสก์ หรือ ดิสเกตต์ (diskette) หรือ แผ่นบันทึก (ศัพท์บัญญัติ) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูล ที่อาศัยหลักการเหนี่ยวนำของสนามแม่เหล็ก โดยทั่วไปมีลักษณะบางกลมและบรรจุอยู่ในแผ่นพลาสติกสี่เหลี่ยม คอมพิวเตอร์สามารถอ่านและเขียนข้อมูลลงบนฟลอปปีดิสก์ ผ่านทางฟลอปปีดิสก์ไดร์ฟ (floppy disk drive)

ในสมัยปัจจุบันไม่ค่อยเห็นมีการใช้งานกันแล้ว หรือไม่ใช้งานกันแล้ว เหมือนกับว่าจะดูว่าเป็นอุปกรณ์ที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปแล้ว เหตุที่ไม่ค่อยได้รับความนิยมก็เพราะว่าแผ่น floppy disk มีความจุที่น้อยเสียเหลือเกิน ความจุสูงสุดคือ 2.88 MB เท่านั้น (เพลง mp3 สักเพลยัง save ไม่ได้เลย) และคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ก็มักจะไม่ค่อยมีให้เห็น แต่ถ้าคนไหนยังคงหลงไหลความเป็นมาเป็นไป หรือพัฒนาการของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์เชื่อได้ว่าอาจจะยังมีตัว Floopy Drive เก็บไว้ เมื่อเก็บไว้แล้วก็ยังมีคนนำ Floppy Drive มาดัดแปลงให้เป็นเครื่องดนตรีได้… ฟังแล้วก็เพราะเชียว

เสียงดนตรีที่ว่านี้เกิดจากเสียงอ่านของ Floppy Drive หลายๆตัวซึ่งเกิดจากการหมุนของมอเตอร์ , จานหมุนถาดและหัวอ่านแผ่น ที่ขยับรัวๆเป็นจังหวะจนกลายเป็นเพลงได้ค่ะ ซึ่งการควบคุม Floppy Drive หลายๆตัวให้เป็นเพลงนั้นก็ต้องมีโปรแกรมพิเศษที่เขียนขึ้นมาเพื่อสั่งการ Floppy Drive ให้ขยับเป็นเพลงได้นั่นเอง ไปชมและฟังกันดีกว่าว่าเสียงดนตรีจาก Floopy Drive ทำงานกันยังไงแล้วเสียงที่ได้นั้นจะไพเราะเสนาะหูเพียงใด เพลงที่ได้รับฟังกันนี้เป็นเพลงประกอบเกม final Fantasy VIII

แหล่งที่มา:
เปลี่ยน Floppy Drive เก่าให้กลายเป็นเครื่องดนตรี!. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.arip.co.th/floppy-drive-can-sing-a-song/. (วันที่ค้นข้อมูล 13 กุมภาพันธ์ 2557).
ฟลอปปีดิสก์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://th.wikipedia.org/wiki/ฟลอปปีดิสก์. (วันที่ค้นข้อมูล 13 กุมภาพันธ์ 2557).– ( 66 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

การใช้พลังงานหดตัวสะท้อนภาวะเศรษฐกิจ

สำนักข่าวไทย นำเสนอข่าวเศรษฐกิจ
สำนักข่าวไทย 12 ก.พ.2557 -ความต้องการใช้พลังงานเป็นส่วนหนึ่งในการชี้วัดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยพบว่าภาค
พลังงานเดือน ม.ค. หดตัวเกินคาด

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและชมภาพข่าวได้ที่เว็บไซต์ สำนักข่าวไทย อสมท. -
http://www.mcot.net/site/content?id=52fb68b1be0470ec7d8b4589#.Uvwe6LSDjGg– ( 18 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

Google glass เริ่มใช้จริงในสายการบิน เวอร์จิ้น แอตแลนติก

Google Glass แว่นตาอัจฉริยะ เริ่มใช้จริงแล้ว โดยสายการบิน“เวอร์จิ้น แอตแลนติก”ประเดิมใช้แว่นตาอัจฉริยะ “กูเกิล กลาส”เริ่มทดลองที่สนามบินฮีโธรว์กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษในช่วงทดลองเป็นระยะเวลา 6 สัปดาห์

สายการบิน “เวอร์จิ้น แอตแลนติก” ทดลองการใช้งานของแว่นตาอัจฉริยะ “กูเกิล กลาส”

ทั้งนี้ แว่นตาดังกล่าวสามารถทำให้พนักงานสนามบินพิสูจน์ตัวตนของผู้โดยสารที่เดินทางมาถึงสนามบิน โดยข้อมูลที่ปรากฏบนแว่นตา จะทำให้พนักงานสามารถอัพเดตข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินล่าสุดให้แก่ผู้โดยสาร รวมทั้งบอกสภาพอากาศ และเหตุการณ์ หรือเทศกาลต่างๆ เกี่ยวกับจุดหมายปลายทางของผู้โดยสารได้ โดยเมื่อแว่นตาได้เริ่มกระบวนการพิสูจน์ตัวตน กูเกิล กลาส จะสามารถเริ่มกระบวนการเช็กอินผู้โดยสารได้อัตโนมัติ และให้บริการนักท่องเที่ยวต่างๆ รวมทั้งการแปลภาษาตามสัญชาติผู้โดยสาร เกี่ยวกับข้อมูลการเดินทางได้

อย่างไรก็ตาม ทางกลับกัน ผู้โดยสารที่ใช้แว่นตาอัจฉริยะนี้ สามารถมองเห็นแผนที่เดินทางเสมือนจริงของสนามบิน รวมทั้งห้องน้ำสนามบิน รวมทั้งยังสามารถประเมินราคาค่าโดยสารแท็กซี่ เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินที่หมายปลายทาง จากการแสดงข้อมูลของ “กูเกิล กลาส” ผ่านจอเลนส์แว่นตา

แหล่งที่มา : “เวอร์จิ้น แอตแลนติก”ประเดิมใช้แว่น“กูเกิล กลาส”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=22509&t=news. (วันที่ค้นข้อมูล 13 กุมภาพันธ์ 2557).– ( 15 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

สวทช.ฝึกอบรมอาชีพเลี้ยงไส้เดือนดิน-ปลูกผักไฮโดรแบบอินทรีย์

สำนักข่าวไทย นำเสนอข่าวสังคม
สวทช.11 ก.พ. 2557  – สวทช. เปิดอบรมฝึกอาชีพการเลี้ยงไส้เดือนดินและปลูกผักอินทรีย์ โดยรูปแบบนวัตกรรมใหม่ ได้ผลผลิต
เพิ่มมากขึ้น

สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดยฝ่ายชุมชนและผู้ด้อยโอกาส ร่วมกับมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และ
มูลนิธิโครงการหลวง จัดฝึกอบรมอาชีพหลักสูตรการเลี้ยงไส้เดือนดิน ระหว่างวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา 09.00-16.00 น.
ณ ห้องออดิทอเรียม บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย รังสิต จ.ปทุมธานี
Read more…– ( 45 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

นักวิจัยญี่ปุ่นเปิดตัวเซนเซอร์เตือนให้เปลี่ยนผ้าอ้อมของทารก

สำนักข่าวไทย นำเสนอข่าวเทคโนโลยี

โตเกียว 10 ก.พ. 2014 -นักวิจัยชาวญี่ปุ่นเปิดตัวอุปกรณ์ส่งสัญญาณหรือเซนเซอร์ย่อยสลายได้แบบใช้แล้วทิ้งที่สามารถฝังใน
ผ้าอ้อมสำเร็จรูปของทารกและจะส่งสัญญาณแบบไร้สายให้ผู้ดูแลเด็กทราบว่าถึงเวลาเปลี่ยนผ้าอ้อมแล้ว

นักวิจัยผู้พัฒนาเซนเซอร์ดังกล่าวระบุว่า วงจรแบบผสมผสานที่สามารถยืดหยุ่นได้ซึ่งสามารถพิมพ์ลงบนแผ่นฟิล์มพลาสติกจะ
ส่งข้อมูลและรับพลังงานแบบไร้สาย และอาจเสียค่าใช้จ่ายในการผลิตเพียงไม่กี่เยนหรือไม่กี่สตางค์

ทีมนักวิจัยซึ่งนำโดยนายทาคายาสุ ซากุราอิ และนายทากาโอะ โซเมยะ ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยโตเกียวเป็นผู้พัฒนาระบบ
เซนเซอร์ดังกล่าวซึ่งใช้วัสดุย่อยสลายได้ซึ่งสามารถพิมพ์ลงบนแผ่นพลาสติกด้วยเทคโนโลยีเครื่องพิมพ์แบบฉีดหมึก และนอก
เหนือจากการใช้ในผ้าอ้อมสำเร็จรูปของทารกแล้ว เซนเซอร์ดังกล่าวยังสามารถนำไปใช้กับผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับผู้ใหญ่ซึ่ง
เป็นสินค้าขายดีในญี่ปุ่นซึ่งมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
Read more…– ( 8 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน จุลินทรีย์ขจัดคราบน้ำมัน

การรั่วไหลของน้ำมันดิบในท้องทะเลเป็นสิ่งที่ก่อความเสียให้กับสิ่งมีชีวิตและสภาพแวดล้อมทั้งในท้องทะเลและชายฝั่ง มีวิธีการแก้ไขคือการใช้สารเคมีเพื่อขจัดคราบน้ำมันเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไป แต่สารเคมีที่ใช้ก็อาจเกิดการตกค้างและถูกทิ้งไว้ให้เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศน์ได้ วิธีการที่ปลอดภัยกว่าคือการใช้จุลินทรีย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติมาใช้ในการย่อยสลายคราบน้ำมัน

นักวิจัยจาก สวทช. ได้ค้นพบจุลินทรีย์ของไทยที่สามารถย่อยสลายคราบน้ำมันให้หมดไปได้ โดยจุลินทรีย์จะกินคราบน้ำมันเข้าไปแล้วปล่อยออกมาเป็นน้ำและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เมื่อได้นำจุลินทรีย์ตัวนี้ไปทดลองในพื้นที่ที่มีการเกิดน้ำมันรั่วจริง พบว่าสามารถสลายคราบน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ทำอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

จุลินทรีย์ขจัดคราบน้ำมันเป็นส่วนหนึ่งของงานอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากความหลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย โดยนักวิจัยจากไบโอเทค และได้ทำการถ่ายทอดให้กับบริษัทเอกชนนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ขจัดคราบน้ำมันที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม

ติดตามรายการ พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ย้อนหลังได้ที่ http://nstdachannel.tv/– ( 18 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

รู้จักกับ “ฝนเยือกแข็ง” (Freezing Rain)

หากอากาศเหนือพื้นดินหนาวเย็นต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส แต่เป็นช่วงแคบๆ ก็จะทำให้เม็ดฝน (ของเหลว) ที่ตกลงมาโดนแช่เย็นจนมีอุณหภูมิต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส แต่ไม่กลายเป็นน้ำแข็ง ลักษณะเช่นนี้เป็นสภาวะที่ไม่สมดุลของน้ำที่เรียกว่า “ของเหลวเย็นยิ่งยวด (supercooled liquid)” แต่เมื่อใดก็ตามที่หยดน้ำเย็นยิ่งยวดนี้สัมผัสกับผิวของแข็ง มันจะกลายเป็นน้ำแข็งทันที


Freezing rain เป็นฝนซึ่งตกลงมาในรูปของเหลว แต่จะเกิดการแข็งตัวเมื่อกระทบพื้นดิน โดยฝนในลักษณะนี้เกิดขึ้นได้เมื่ออากาศเย็นเจอกับอากาศที่ร้อน จนกลายเป็นหยดน้ำที่มีความเย็นแต่ไม่กลายเป็นเกล็ดน้ำแข็งเมื่อมันตกลงมาในพื้นที่ที่มีอากาศเย็นและไปสัมผัสกับผิวของแข็งมันก็จะเกาะตัวกลายเป็นน้ำแข็งทันที อย่างเช่น ฝนที่ตกลงมาบนใบไม้ก็จะกลายเป็นแผ่นน้ำแข็งบางๆ เคลือบผิวใบไม้ไว้ หรือ ฝนที่ตกลงมายังพื้นถนน หรือ รันเวย์เครื่องบิน ก็จะภูกแผ่นน้ำแข็งเคลือบไว้ หากมีความหนามากก็จะยิ่งทวีความลื่นและอาจจะก่อให้เกินอันตรายได้

แหล่งที่มา :
บัญชา ธนบุญสมบัติ. “ฝนเยือกแข็ง (freezing rain)”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.gotoknow.org/posts/235153. (วันที่ค้นข้อมูล 12 กุมภาพันธ์ 2557).
Nikki Rawipan. “ภาพ Freezing rain จาก Iowa city รัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : https://www.facebook.com/samrujlok?fref=ts. (วันที่ค้นข้อมูล 12 กุมภาพันธ์ 2557).– ( 22 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ปลอกแขนมองข้างสำหรับนักปั่นจักรยาน

ในยุคนี้ที่กระแสการรับสุขภาพและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมาพร้อมๆ กัน จึงเกิดเหล่าบรรดาเดอะแก๊งค์ “จักรยาน” ขึ้นมากันอย่างมากมาย จุดประสงค์ของการร่วมวง “ปั่น” นี้ก็เพื่อที่จะให้ร่างกายนั้นแข็งแรงเพราะการปั่นจักรยานนั้นถือเป็นการออกกำลังกายได้เป็นอย่างดี และนอกเหนือจากการออกกำลังกายแล้วการได้มาพบปะกันยิ่งทำให้มีการแลกเปลี่ยประสบการณ์การ “ปั่น” ไปในดินแดนต่างๆ กันอย่างสนุกสนาน พร้อมกับเป็นการเที่ยวชมเมืองในแบบอนุรักษ์ธรรมชาติไปด้วย เนื่องจากการปั่นจักรยานไปในสถานที่ต่างๆ นั้น ไม่ก่อให้เกิดมลพิษแต่อย่างใด

การปั่นจักรยานในปัจจุบันนั้นขยายวงกว้างมากขึ้น จากแต่เดิมนั้นมักจะปั่นจักรยานกันเป็นกิจกรรมยามว่างเท่านั้น แต่ในปัจจุบันนี้มีการใช้จักรยานเป็นพาหนะประจำวันในการเดินทางไปทำงานกันมากขึ้น และถนนหนทางของบ้านเมืองเรานี้ก็ยังไม่ค่อยจะปลอดภัยเท่าไหร่นัก นั่นหมายถึงความเสี่ยงที่อาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ใช้จักรยานก็เป็นได้ เนื่องจาก “จักรยาน” ไม่มีกระจกมองหลังเหมือนกันยานพาหนะทั่วๆ ไป ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้จึงทำให้นักประดิษฐ์เกิดไอเดียสร้างสรรค์ประดิษฐ์คิดค้น อุปกรณ์เสริมขึ้นมาในรูปแบบปลอกแขนกระจกมองหลังสำหรับคนขี่จักรยานในชื่อว่า “แรวิซ (Rearviz)”


แรวิซ เป็นปลอกแขนแบบพิเศษที่มีแผ่นกระจกทรงนูนติดไว้บนตัวอุปกรณ์ โดยเลนส์ดังกล่าวนี้จะช่วยให้ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นในมุมกว้างทำให้เห็นรถที่ขับตามมาข้างหลัง โดยที่ไม่ต้องเสียสมาธิในการเหลียวกลับไปดูซึ่งหากเหลียวกลับไปดูรถด้านหลังอาจจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ขี่จักรยานก็เป็นได้ วัสดุที่ใช้ในการทำปลอกแขนมองหลังนี้เป็นวัสดุชนิดที่กั้นน้ำได้ด้วย รับรองได้ว่าขี่ไปแล้วเกิดมีเหงื่อออกก็จะไม่เลื่อนหลุดไปไหนและที่สำคัญก็จะไม่พังง่ายๆ ด้วย อุปกรณ์เสริมชนิดนี้ต้องอดใจรอกันอีกนิดเพราะตอนนี้ทีมผู้ผลิตยังไม่ได้ผลิตออกมาเพื่อวางจำหน่าย แต่หากมีวางจำหน่ายแล้วคิดว่าน่าจะช่วยให้ผู้ใช้จักรยานปลอดภัยขึ้นมาไม่มากก็น้อย แต่เหนือสิ่งอื่นใดทุกคนก็ต้องรักษา กฎ กติกา มารยาท ในการใช้รถใช้ถนน เพื่อความปลอดภัยของตัวเองและผู้ร่วมทาง

แหล่งที่มา :
“Rearviz”กระจกมองหลังสำหรับนักปั่น. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=19549&t=news. (วันที่ค้นข้อมูล 12 กุมภาพันธ์ 2557).

– ( 252 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

หูฟังที่ไม่ได้เอาไว้ฟังเพลง

หูฟังทางเลือกสำหรับคนต้องการสมาธิ เสียบเข้าไปช่วยตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ทันที

หูฟังที่เราใช้ฟังเพลงอยู่ทุกวันนั้น ก็สร้างปัญหาเล็กๆให้ โดยไม่รู้ตัว ย้อนกลับไปช่วงที่ไอพอดรุ่งเรือง การสวมหูฟังแบบ in-ear  สีขาวเอาไว้ตลอดเวลาเป็นต้นเหตุให้เกิดการปล้นตามท้องถนนในกรุงลอนดอนมากขึ้น เพราะเหล่าโจรสังเกตเห็นได้ง่ายว่าพกไอพอดที่มีราคาและคนใส่มักจะฟังเพลงจนไม่ใส่ใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว  ในเมืองไทยเองก็เคยมีเหตุการณ์น่าสลดที่น้องนักศึกษาถูกรถไฟชนเนื่องจากใส่หูฟัง

Read more…– ( 88 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments