magnify
magnify

Open Knowledge for all 

formats

ประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวัน

ใครที่เคยคิดอยากจะช่วยประหยัดพลังงาน เราก็ต้องเริ่มจากการใช้ในชีวิตประจำวันกันก่อน มีขั้นตอนง่าย ๆ คือ

  1. เมื่อชาร์จโทรศัพท์มือถือเสร็จ ถอดสายชาร์จออกจากเต้าเสียบทันที เพราะจะกินไฟโดยเปล่าประโยชน์
  2. การลดใช้กระดาษทิชชู เปลี่ยนมาใช้ผ้าเช็ดหน้า ใช้ผ้าเช็ดมือ ใช้ผ้าขี้ริ้ว เช็ดคราบ
  3. เสื้อผ้าน้อยชิ้นควรซักเองด้วยมือ ส่วนเครื่องซักผ้าใช้เมื่อมีปริมาณผ้ามากพอเหมาะกับเครื่อง
  4. การขับรถยนต์ เกียร์ถอยกินน้ำมันมากที่สุด ควรค่อย ๆ ถอยไม่ต้องรีบ เพราะเกียร์ถอยใช้อัตราทดและแรงฉุดมากกว่าทุกเกียร์

ช่วยกันยืดเวลาให้โลกของเราสดใส ไม่ร้อน ด้วยนะคะ

แหล่งที่มา : “การ์ตูนประหยัดพลังงาน : ประหยัดพลังงานในชีวิตประจำวัน”. วารสารนโยบายพลังงาน. (96) : 70. (เมษายน – มิถุนายน 2555).– ( 25 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

“DelFly”หุ่นยนต์บินได้แบบกระพือปีกลำแรกของโลก

นักวิทยาศาสตร์เนเธอร์แลนด์ เปิดตัว DelFly Explorer หุ่นยนต์บินได้แบบกระพือปีกตัวแรกของโลก

วันนี้ (2ก.พ.57) DelFly Explorer  เครื่องบินไร้คนขับสีขาว น้ำหนักเบา  อากาศยานขนาดเล็ก หรือ MAV ที่มีระบบการมองเห็นแบบสเตอริโอ ทำให้สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวาง และบินหลบหลีก เพื่อไม่ให้ชนเข้ากับวัตถุดังกล่าวได้

โดรน DelFly ได้รับการยกย่องให้เป็นหุ่นยนต์กระพือปีก และบินนำทางได้ด้วยตัวเองลำแรกของโลก โดย กุยโด เดอ ครูน นักวิทยาศาสตร์ชาวเนเธอร์แลนด์ ผู้ร่วมประดิษฐ์นวัตกรรมชิ้นนี้ เปิดเผยว่า หัวใจของการออกแบบ DelFly คือ การติดตั้งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไว้บนตัวของมัน

บนเครื่อง DelFly ผู้ดีไซน์ติดตั้งกล้อง 2 ตัว พร้อมด้วยโปรเซสเซอร์ขนาดเล็ก เพื่อช่วยให้มันสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมโดยรอบ และบินได้โดยไม่ต้องใช้มนุษย์คอยควบคุม โดยโปรเซสเซอร์จะทำหน้าที่ประมวลภาพจากกล้องทั้งสองตัวแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถระบุพิกัดของสิ่งกีดขวางได้อย่างแม่นยำ

สำหรับลักษณะการบินของ DelFly ได้รับแรงบันดาลใจจากผึ้ง โดยเซ็นเซอร์ต่างๆที่ติดตั้งไว้บนเครื่อง ทำให้หุ่นยนต์กระพือปีกได้ที่มีน้ำหนักเพียง 20 กรัมลำนี้ สามารถบินขึ้น และรักษาระดับการบินได้เองนานถึง 9 นาที และหากในอนาคต มีการพัฒนาแบตเตอรี่ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น ระยะเวลาในการบินต่อเนื่องของมันก็จะสามารถทำได้นานยิ่งขึ้นด้วย Read more…– ( 37 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

หุ่นยนต์ติดกล้องนำชมพิพิธภัณฑ์

หลังจากพิพิธภัณฑ์ปิดแล้ว หากคุณยังติดใจอยากที่จะชื่นชมผลงานศิลปะให้ชุ่มฉ่ำใจต่อจะทำยังไงดี Tate Britain พิพิธภัณฑ์ในอังกฤษตอบสนองความต้องการนี้ได้ด้วยการใช้หุ่นยนต์นำชมพิพิธภัณฑ์หลังหมดเวลาเปิดให้บริการ

Tate Britain พิพิธภัณฑ์ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จะเริ่มนำกองทัพหุ่นยนต์ติดกล้องเพื่อถ่ายทอดสดแบบ Live Stream ผ่านอินเตอร์เน็ต มาใช้ในพิพิธภัณฑ์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนที่อยากชมงานศิลปะในรูปแบบที่ตื่นตาตื่นใจ จากหุ่นยนต์ติดกล้องพาเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ในยามค่ำคืน โดยกล้องที่ติดอยู่ที่ตัวหุ่นยนต์นี้จะทำการถ่ายทอดสดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต โดยคุณจะเห็นภาพในแบบเดียวกันกับที่หุ่นยนต์เห็น และยังสามารถบังคับหุ่นยนต์เหล่านี้ได้จากระยะไกล สามารถหยุดภาพเพื่อดูรายละเอียดของงานศิลป์ได้นานตามความสะดวก

โปรเจกต์นี้มีชื่อว่า “After Dark” ที่มีจุดกำเนิดมาจากรางวัล IK Prize ที่ทางพิพิธภัณฑ์จัดการแข่งขันขึ้นเพื่อให้คนเสนอแนวคิดและวิธีการชมงานศิลปะให้สนุกยิ่งขึ้นกว่าเดิม เจ้าของไอเดียนี้ก็คือทีม The Workers ซึ่งสามารถเอาชนะอีก 3 ไอเดียที่ส่งเข้ามาแข่งได้คือ

  • การนำผลงานศิลปะมาเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์
  • การมองศิลปะในพิพิธภัณฑ์ผ่านมุมมองของเด็กๆ
  • การนำงานศิลปะยุคคลาสสิคของอังกฤษใส่ลงไปในเซิร์ฟเวอร์ของเกม Minecraft

ทีม The Workers นอกจากได้รับรางวัลชนะเลิศไปแล้ว ยังได้เงินทุนสำหรับพัฒนาโปรเจกต์นี้ให้เป็นจริงขึ้นมา และคาดการณ์กันว่าโปรเจกต์นี้จะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้

แหล่งที่มา :
พิพิธภัณฑ์ผู้ดีใช้หุ่นยนต์ติดกล้องชมผลงานศิลปะ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=22260&t=news. (วันที่ค้นข้อมูล 10 กุมภาพันธ์ 2557).– ( 27 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

“นักเทคโนโลยีดีเด่น” และ รางวัล “นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่” ประจำปี พ.ศ. 2557

ตามที่มูลนิธิส่งเสริมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับ สวทช. ได้จัดให้มี “โครงการรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่นและนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่” ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543 เพื่อมุ่งเชิดชูเกียรตินักเทคโนโลยีไทยที่มีผลงานดีเด่น ไม่ว่าจะเป็นนักเทคโนโลยีในภาครัฐหรือภาคเอกชน เสริมสร้างแรงจูงใจให้นักวิชาการและนักเทคโนโลยีที่มีความสามารถสูงได้ร่วม กันพัฒนาเทคโนโลยีของไทยให้มีศักยภาพที่สามารถแข่งขันในเชิงอุตสาหกรรมและ เชิงพาณิชย์ระดับโลกได้ ซึ่งผู้ที่ได้รับการพิจารณารับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่นจะได้รับพระราชทาน รางวัลจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันเทคโนโลยีของไทย

การได้มาซึ่งผู้ที่สมควรได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่น จะต้องมาจากการเสนอชื่อเท่านั้น ส่วนผู้สมควรได้รับรางวัลนักเทคโนโลยีรุ่นใหม่ อาจมาจากการเสนอชื่อหรือสมัครด้วยตนเอง

คณะกรรมการรางวัลนักเทคโนโลยีดีเด่นจึงใคร่ขอเรียนเชิญเสนอรายชื่อ บุคคล/กลุ่มบุคคล ที่มีคุณสมบัติเหมาะสม (อาจเสนอได้มากกว่า 1 รายชื่อ) เพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเป็นผู้สมควรได้รับรางวัล “นักเทคโนโลยีดีเด่น” และ รางวัล “นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่” ประจำปี พ.ศ. 2557

สามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.promotion-scitec.or.th หรือสอบถามติดต่อ
คุณอรรถวิทย์/คุณเกศินี/คุณวิชชุดา โทร. 0-2470-7433 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์–25 เมษายน 2557
+++++++++++++++++++++++
ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร
โทร. 71725-71731

รายการอ้างอิง : ฝ่ายประชาสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร.(2557). “นักเทคโนโลยีดีเด่น” และ รางวัล “นักเทคโนโลยีรุ่นใหม่” ประจำปี พ.ศ. 2557. สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ. วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2557.– ( 9 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ใส่ใจชีวิตด้วยคัมภีร์วิถีช้า

ในแต่ละวัน ในแต่ละสัปดาห์… ผ่านพ้นเดือนเคลื่อนเป็นปี ด้วยสภาพแวดล้อมเดิมๆ ที่เราต้องเร่งรีบเพื่อแข่งขันกับเวลา ทุกสิ่งอย่างมีแต่ความเร่งรีบจนสุขภาพแทบจะย่ำแย่ สุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ลองใช้ชีวิตในวิถี Slow Living หรือ Slow Life กันบ้างดีกว่าเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายสมอง พักผ่อนจิตใจ ทำจิตใจให้สงบวิธีการทำไม่ใช่เรื่องยาก ลองทำตามกันดู

  1. ตื่นเร็วขึ้น ฝึกหายใจช้าๆ : เพิ่มเวลาด้วยการตื่นเช้า จะทำให้มีเวลามีสติจดจ่ออยู่กับสิ่งที่กำลังทำมากยิ่งขึ้น
  2. หามุมสงบ : ปรับชีวิตให้ 1 วันปลอดจากกระแสสังคมต่างๆ หาที่สงบเงียบเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
  3. หยุดทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน : ผลดีอาจจะมีน้อยมากหากทำงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน นอกจากจะไม่ได้งานแล้วเชื่อหรือไม่ว่าจะยิ่งทำให้ตัวเรานั้นวุ่นวายขึ้นอีกด้วย
  4. ใช้เวลาพักกลางวันอย่างคุ้มค่า : เดินยืดเส้นยืดสายนอกพื้นที่ทำงานบ้าง ใช้สายตากวาดไปรอบๆ หรือมองหาสีเขียวๆ เพื่อพักสายตาบ้าง
  5. ออกกำลังกายแบบช้าๆ : เริ่มฝึกจากการเดินช้าๆ เล่นโยคะ เพราะการออกกำลังกายนั้นจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเครียดมาตลอดสัปดาห์ได้เป็นอย่างดี
  6. เดินเพื่อสุขภาพ : นอกจากได้ออกกำลังกายแล้ว ยังได้รื่นรมย์และเสพอากาศและบรรยากาศรอบๆ ตัวอันแสนจะสดชื่นได้อีกด้วย

แหล่งที่มา :
ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : www.facebook.com/thaihealthcenter. (วันที่ค้นข้อมูล 10 กุมภาพันธ์ 2557).– ( 55 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

6 ฮีโร่ ผู้ดูแลหัวใจคุณ

Published on February 10, 2014 by in Health

องค์การอนามัยโลกจัดให้โรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นโรคเฝ้าระวัง ในปี พ.ศ. 2554 คนเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด ปีละ 17 ล้านคน และคาดว่าในปี พ.ศ.  2573 จะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 22 ล้านคนทั่วโลก

สำหรับประเทศไทยจากสถิติล่าสุดพบว่า คนไทยเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือดชั่วโมงละ 2 คน จึงควรดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง โดยฮีโร่ 6 ตัว ผู้ดูแลหัวใจคุณ ได้แก่ น้ำมันปลา กระเทียม ชาเขียว วิตามินบีคอมเพล็กซ์ เลซิติน โคเอนไซม์คิวเท็น

ติดตามข้อมูลโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้ที่  http://m.youtube.com/watch?v=thB1t5Jxuck&desktop_uri=%2Fwatch%3Fv%3DthB1t5Jxuc  โดย แอมเวย์ เพียง 10 นาที เป็น info graphic ที่ดีมากๆ

รายการอ้างอิง:

nutrilitethai. (เข้าถึงเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2557). 6 ฮีโร่ ผู้ดูแลหัวใจคุณ Info Graphic. [Video file].  Video posted to http://m.youtube.com/watch?v=thB1t5Jxuck&desktop_uri=%2Fwatch%3Fv%3DthB1t5Jxuc

 – ( 111 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

งานวิจัยสารตรวจสอบคราบเลือดในงานนิติวิทยาศาสตร์

รศ. ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ ผศ. ดร. วยา พุทธวงศ์ ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้ร่วมพัฒนาการวิธีสังเคราะห์สารวาวแสงสำหรับตรวจสอบคราบเลือดชื่อ ลูมินอล (luminol) เป็นผลสำเร็จ ซึ่งสารวาวแสงชนิดนี้ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น งานวิจัยนี้ได้พัฒนาเตรียมขึ้นใช้เองในประเทศ และยังได้พัฒนาอนุพันธุ์ของสารวาวแสงเพื่อหาสารตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิมแต่ต้นทุนการสังเคราะห์ถูกลง

นอกจากนี้ ยังได้ร่วมกันพัฒนาสูตรการเตรียมสารละลายลูมินอล (luminol) เพื่อให้การวาวแสงในที่มืด มีระยะเวลาที่นานขึ้นเพื่อให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้มีระยะเวลาในการเก็บบันทึกภาพ หรือค้นหาคราบเลือดในปริมาณที่น้อยได้ง่ายขึ้น ในการทดลองยังสามารถใช้สารละลายดังกล่าวแยกประเภทคราบเลือดของมนุษย์และสัตว์ได้ชัดเจน

โดยผลจากการสเปรย์ลงบนคราบเลือดมนุษย์สารมีการวาวแสงสีอมม่วงเกิดขึ้นทันทีหลังจากสารทำปฏิกิริยากับเลือดประมาณ 2.30 นาที ส่วนการทดสอบกับเลือดสุนัขการวาวแสงไม่สว่างมาก แต่วาวแสงนานประมาณ 3.40 นาที และเลือดแมวปรากฎว่ามีการวาวแสงน้อยระยะเวลาแค่ 50 วินาที

งานวิจัยนี้มีนิสิตที่ร่วมทำวิทยานิพนธ์ในโครงการ 2 คนคือ น.ส. อาริษา ศรีดวงใจ และ นายอัครพนธ์ เอี้ยวรัตนวดี ผู้สนใจรายละเอียด โปรดติดต่อหลักสูตรนิติวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ หรือภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร

แหล่งที่มา :
“มก.-ศิลปากร เจ๋งผลิตสารตรวจสอบคราบเลือด”. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/innovation/20140210/562023/มก.-ศิลปากร-เจ๋งผลิตสารตรวจสอบคราบเลือด.html. (วันที่ค้นข้อมูล 10 กุมภาพันธ์ 2557).– ( 18 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ผู้บริหารเอ็มเทค ลงนามความร่วมมือโครงการ “การขยายผลส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ขององค์กรในภาคอุตสาหกรรม”

รศ. ดร.วีระศักดิ์ อุดมกิจเดชา ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ(เอ็มเทค)(สวทช.) ร่วมลงนามความร่วมมือโครงการ “การขยายผลการส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคอุตสาหกรรม” เมื่อเร็วๆนี้ ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี โดยร่วมกับ สถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และองค์กรนำร่องภาคอุตสาหกรรม จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการโครงการ “การขยายผลการส่งเสริมการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคอุตสาหกรรม” เพื่อขยายผลให้มีการจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคอุตสาหกรรม และวิเคราะห์แหล่งการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ ขององค์กร (Hot Spot) และหาแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกขององค์กรภาคอุตสาหกรรม อีกทั้งจัดให้มีการทวนสอบและรับรองผลการคำนวณปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ขององค์การภาคอุตสาหกรรมที่เข้าร่วมโครงการและสร้างความเข้มแข็งให้แก่ระบบ ทวนสอบ โดยมีโรงงานอุตสาหกรรมเข้าร่วมเป็นองค์กรนำร่อง 35 แห่ง ซึ่งโครงการนี้เป็นการขยายผลการดำเนินงานจากโครงการส่งเสริมการจัดทำคาร์บอน ฟุตพริ้นท์ขององค์กรในภาคอุตสาหกรรม ในปี 2556 ที่ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ร่วมกับ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ(เอ็มเทค)(สวทช.) ได้ดำเนินโครงการร่วมกัน โดยมีองค์กรนำร่องภาคอุตสาหกรรมที่ร่วมดำเนินโครงการและได้รับการรับรองผล การประเมินค่าคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรจาก อบก. จำนวนทั้งสิ้น 26 แห่ง Read more…

– ( 21 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ระวัง! แวมไพร์แห่งพงไพร

คุณรู้หรือไม่ว่า สัตว์ที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากที่สุดเวลาเดินป่าคือตัวอะไร ไม่ใช่เสือ ช้างป่า หรือหมาใน แต่สัตว์ที่ว่ากลับมีขนาดเล็กนิดเดียว ลำตัวเป็นปลล้องนิ่ม ๆ ยืดหดได้ รูปทรงเรียวยาว มีเมือกเหนียวหุ้มลำตัวไว้ไม่ให้แห้ง และเคลื่อนไหวโดยการกระดืบช้า ๆ ที่สำคัญมันดูดเลือกเป็นอาหาร จนหลายคนขนานนามว่า “แว้ไพร์แห่งพงไพร” สัตว์ที่เอ่ยถึงนี้ เรารู้จักกันในชื่อ “ทาก” ความจริงแล้วทากไม่ได้น่ากัวหรือมีอันตราย รวมทั้งไม่ใช่พาะหนะนำดรคอย่างที่คนส่วนใหญ่คิด แต่ทากกลับเป็นตัวชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า เพราะมันอาศัยในป่าทึบที่มีความชื่นสูงและดำรงชีวิตด้วยการดูดเลือดสัตว์อื่นเป็นอาหาร ฉะนั้นที่ไหนมีทาก ที่นั่นย่อมมีป่าสมบูรณ์และสัตว์ป่าชุกชุม ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติกำลังได้รับความนิยมนักท่องเที่ยวที่เลือกมาศึกษาความงามของธรรมชาติในช่วงหน้าฝนที่ปาเขียวชอุ่มและงดงามมากที่สุด จึงหลีกเลี่ยงการเผชิญกับทาก “จอมดูดเลือด” ได้ยากทางจะชูหัวทำหน้าที่คล้ายเรดาร์เพื่อจับหาความร้อนจากตัวเหยื่อหรือแรงสั่นสะเทือนขณะเหยื่อเคลื่อนไหว เมื่อล็อกเป้าหมายได้แน่นอนแล้ว ทากจะคืบตรงไปเกาะติดตัวเหยื่ออย่างรวดเร็วเพื่อการผิวหนังส่วนที่บางที่สุด เช่น  ข้อพับ ชอกนิ้ว แล้วฝังเขี้ยวหรือขากรรไกรทั้งสามแฉก ซึ่งมีฟันซี่เล็ก ๆ ถี่ ๆ จากนั้นก็ปล่อยสาร “ฮีรูดีน” ซึ่งทำให้เลือดไม่แข็งตัว แล้วจึงเจาะดูดเลือดเหยื่อก่อนเดินทาง นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมตัวให้พร้อม โดยแต่งกายให้รัดกุม ใส่ถุงกันทากที่ทำจากผ้าฝ้ายดิบเนื้อแน่นจนทากไม่อาจแทรกตัวผ่านมาถึงตัวเราได้ โดยสวมทับถุงเท้าสูงขึ้นมาถึงเข่า แล้วสวมรองเท้าหุ้มส้นอีกทีเท่านี้ก็เดินเที่ยวป่าได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องพะวักพะวน ว่าจะถูกเจ้าแวมไพร์จิ๋วแบ่งเลือดไปใช้แต่หากเราป้องกันอย่างดีแล้วยังถูกเจ้าทากกัด ก็อย่าเพิ่งกระชากตัวทากออกทันที เพราะจะทำให้เกิดบาดแผลใหญ่และเลือดไหลไม่หยุดขอแนะนำให้ค่อย ๆ ดึงตัวมันออก แล้วใช้กระดาษทิชชูปิดปากแผลไว้เยื่อกระดาษจะชับเลือดและช่วยให้เลือดแข็งตัวหยุดไหล ส่วนคนที่เดินป่าจนชำนาญ เขาจะหยิบฉวยใบสาบเสือที่มีฤทธิ์ห้ามเลือดได้มาขยี้แล้วโปะบนปากแผล แต่สำหรับคนที่ใจบุญสุด ๆ ผสมกับใจแข็งสุด ๆ จะปล่อยให้เจ้าทากดูดเลือดไปก่อนก็ได้ เพราะพอมันอิ่ม มันจะเก็บเขี้ยวและทิ้งตัวหลุดจากผิวหนัะงเราไปเอง

แม้คนทั่วไปจะรู้สึกกลัวทาก แต่แท้จริงแล้วพวกมันมีประโยชน์อย่างยิ่ง เพราะสารสังเคราะห์ ซึ่งเลียนแบบสารฮีรูดีนในตัวทากนั้นใช้เป็นตัวยาในครีมนวดลดอาการฟกช้ำและยารักษาอาการเลือดอุดตันตามอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายคน ฉะนั้นเวลาเข้าป่าถ้าเจอทากกระดืบเข้ามาใกล้ ก็อย่าเผลอใช้ไฟจี้หรือเอายาหม่องป้ายที่ตัวมัน เพราะจะทำให้สัตว์ร่วมโลกตัวเล็ก ๆ มากประโยชน์ชนิดนี้ต้องตายอย่างไร้คุณค่า

แหล่งที่มา : พรเพ็ญ วงศ์ศุภชัยนิมิต. (2555). “ซอกแซก : ระวัง! แวมไพร์แห่งพงไพร”. สารคดี, 28(331) : 136 ; กันยายน  2555.– ( 12 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

เปิดตัวหญิงไทยคนแรกตะลุย’อวกาศ’

เปิดตัวหญิงไทยคน แรก เตรียมท่องอวกาศกับโครงการ “แอ๊กซ์ อพอลโล่”ต้องผ่านภารกิจโหด ก่อนได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 23 คน จากผู้สมัคร 107 คนทั่วโลก

ภาควิชาโทรคมนาคม คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) แถลงข่าวเปิดตัวผู้หญิงไทยคนแรกที่มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวอวกาศ (THAILAND’S FRIST SPACE TRAVELLER) กับโครงการ “แอ๊กซ์ อพอลโล่” ซึ่งเธอเป็น 1 ใน 23 คน จากผู้สมัคร 107 คนทั่วโลก ที่ได้รับคัดเลือกท่องอวกาศในช่วงปี 2558

ผู้หญิงไทยคนแรกที่จะได้เดินทางท่องอวกาศ คือ น.ส.พิรดา เตซะวิจิตร์ ศิษย์เก่าคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าคุณทหารลาดกระบัง ปัจจุบันทำงานเป็นวิศวกรดาวเทียม สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ(GISTDA) ทำหน้าที่ติดต่อสื่อสารกับดาวเทียมไทยโซต หรือดาวเทียม THEOS ซึ่งเป็นดาวเทียมสำรวจทรัพยากรธรรมชาติของประเทศไทย โดยดูทั้งภาคพื้นดินและบนดาวเทียม สำหรับใช้เป็นข้อมูลสำคัญในการวางแผนบริหารประเทศในอนาคต Read more…– ( 14 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments