magnify
magnify

Open Knowledge for all 

formats

การทบทวนหลังทำงาน หรือหลังปฏิบัติ หรือหลังกิจกรรม (After Action Review-AAR)

เป็นการทบทวนหรือเป็นกระบวนการเพื่อวิเคราะห์ว่าเกิดเหตุอะไร สาเหตุของการเกิด และจะสามารถดำเนินการให้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร โดยเอาบทเรียนจากความสำเร็จและความล้มเหลวของการทำงานที่ผ่านมา เพื่อนำมาซึ่งการพัฒนาหรือการปรับปรุงการทำงาน การทำ AAR เป็นรูปแบบของกลุ่มทำงานที่สะท้อน ความมีส่วนร่วมในการทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น อะไรคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง สาเหตุของการเกิดและสิ่งที่ได้เรียนรู้คืออะไร

การทำ AAR เริ่มใช้เป็นครั้งแรกโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา เพื่อสะท้อนถึงการทำงานโดยการจำแนกถึงจุดแข็ง จุดอ่อน และสิ่งที่ต้องปรับปรุง

การทำ AAR มักจะใช้ 4 คำถาม คือ

  1. สิ่งที่คาดว่าจะได้จากการทำงาน คืออะไร
  2. สิ่งที่เกิดขึ้นจริงคืออะไร
  3. สิ่งที่แตกต่างและทำไมจึงแตกต่าง
  4. สิ่งที่ต้องแก้ไข คืออะไร และจะปรับปรุงได้อย่างไร  อ่านต่อ

– ( 147 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

วิธีประหยัดพลังงานน้ำมัน ช่วยโลก เหลือเงินในกระเป๋า

ใครที่เคยมียานพาหนะเรามารู้จักวิธีประหยัดพลังงานน้ำมัน แล้วยังเหลือเงินในกระเป๋าไว้ได้อีก โดยวิธีดังนี้

  1. วางแผนการเดินทางทุกครั้ง เพื่อจะได้ไม่หลงทางขับวนไป-มา
  2. ควรสตาร์ตเครื่องยนต์ไว้สักครู่ก่อนออกรถ
  3. ขับรถด้วยความเร็วคงที่ไม่ควรขับเร็วเกินความจำเป็น
  4. ในกรณีที่รถติดนานกว่า 2 นาที ขึ้นไป ควรดับเครื่องยนต์ก่อนแล้วค่อยสตาร์ตใหม่
  5. ไม่เปิดเครื่องปรับอากาศในรถเย็นเกินไป ควรเปิดให้มีอุณหภูมิพอเหมาะ
  6. หากต้องเดินทางไปในสถานที่ใกล้ ๆ ควรใช้วิธีเดินหรือปั่นจักรยานแทนการขับรถ
  7. ไม่ติดตั้งอุปกรณ์แต่งรถเกินความจำเป็น เพราะอุปกรณ์บางอย่างทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องบอกทาง ฯลฯ
  8. นำรถเข้าอู่เป็นประจำเพื่อตรวจเช็กสภาพและการทำงานต่าง ๆ ของรถให้อยู่ในสภาพดีพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

แหล่งที่มา : “การ์ตูนประหยัดพลังงาน : วิธีประหยัดพลังงานน้ำมัน ช่วยโลก เหลือเงินในกระเป๋า”. วารสารนโยบายพลังงาน. (98). (ตุลาคม – ธันวาคม 2555).– ( 24 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

Outernet เครือข่าย Wi-Fi ฟรีจากอวกาศ

ทีมนักวิจัยของสหรัฐอเมริกาได้เปิดตัวโครงการ Outernet เครือข่าย Wi-Fi ที่ปล่อยสัญญาณจากนอกโลก  ให้ทุกคนบนโลกสามารถใช้งานได้ฟรีไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ซึ่งโครงการนี้จะเป็นการปล่อยดาวเทียมไปบนอวกาศเป็นจำนวนมากเพื่อรับสัญญาณจากสถานีบนโลก แล้วส่งกระจายไปยังทั่วทุกมุมโลกให้ทุกคนได้ใช้งาน หรือเปรียบเสมือน BitTorrent ที่ส่งข้อมูลมาจากอวกาศนั่นเอง


สำหรับในช่วงเริ่มต้นนั้น Outernet จะมีเนื้อหาข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เป็นประโยชน์กับคนทั่วไป เช่น อัพเดทข่าวสารต่างๆ รอบโลก, Wikipedia, สื่อบันเทิงต่างๆ, ข้อมูลด้านการศึกษา ฯลฯ สำหรับให้ผู้ที่เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ตสามารถรับข้อมูลข่าวสารผ่านทาง Outernet แทนได้ และในอนาคตจะมีการพัฒนาให้สามารถปล่อยสัญญาณอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ให้ทุกคนบนโลกสามารถใช้ได้ฟรีอีกด้วย โดยในขณะนี้ Outernet กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา และจะเปิดให้บริการจริงในช่วงเดือนมิ.ย.ปี 2015

ทั้งนี้ เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของ Outernet ก็คือ เพื่อให้ทุกคนบนโลกที่เข้าไม่ถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งจากสถิติปัจจุบันมีประชาการเพียง 60% เท่านั้นที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้เหมือนกับคนทั่วไป และปัจจุบันอุปกรณ์ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ต Wi-Fi ได้นั้นก็ค่อนข้างมีราคาถูกลงเรื่อยๆ แต่ในหลายๆ พื้นที่ยังคงมีปัญหาการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตอยู่ รวมทั้งประชากรบางส่วนที่มีปัญหาเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายของบริการอินเทอร์เน็ต แต่ด้วย Outernet นี้ทุกคนจะสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น

แหล่งที่มา :
วิทยาศาสตร์-เทคโนโลยี : มะกันเจ๋งปล่อย Wi-Fi จากอวกาศใช้ฟรีทั่วโลก. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้ที่ : http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=22338&t=news. (วันที่ค้นข้อมูล 11 กุมภาพันธ์ 2557).

– ( 73 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

คีย์บอร์ดที่บางเฉียบเท่ากระดาษ

Novalia ผู้ที่เคยคิดค้นโปสเตอร์กระดาษที่พิมพ์รูปกลองลงไป แต่สามารถตีให้เกิดเสียงจริงๆ ได้ ล่าสุดเขาก็มาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ประกาศให้คนรู้ว่าตอนนี้กำลังซุ่มพัฒนาคีย์บอร์ดที่พิมพ์ลงไปบนกระดาษแต่สามารถใช้งานได้จริง  คาดจะวางขายภายในปีนี้ (2557)

คีย์บอร์ดกระดาษของ Novalia นั้นจะเป็นกระดาษสองแผ่นมาแปะซ้อนทับกัน โดยด้านบนจะพิมพ์รูปคีย์บอร์ดแบบ QWERTY ขนาดเท่าของจริงเอาไว้ ส่วนด้านล่างจะใช้ matrix เชื่อมต่อกับแผ่นโลหะที่ติดแผงวงจรเข้าไป  โดยกระแสไฟฟ้าจะเชื่อมต่อกันควบวงจรด้วยหมึกนำไฟฟ้าชนิดพิเศษ ซึ่งรูปด้านบนนั้นคุณจะเปลี่ยนเป็นรูปอุปกรณ์อื่นๆ ที่คุณออกแบบเองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคีย์บอร์ดอย่างเดียว อาจจะเป็นแทรคแพดหรืออุปกรณ์สั่งงานด้วยการสัมผัสชนิดอื่นๆ

ในกระบวนการผลิตของ Novalia กระดาษทั้งสองด้านจะถูกพิมพ์พร้อมๆ กัน จึงทำให้กระบวนการพิมพ์รวดเร็วขึ้นมาก ด้วยอัตราความยาว 100 เมตรต่อหนึ่งนาที ซึ่งเทียบแล้วก็เร็วกว่าการผลิตแผงวงจรไฟฟ้าที่ใช้กันอยู่หลายเท่าตัว แถมต้นทุนการผลิตก็ต่างกันด้วย

เมื่อพิมพ์กระดาษเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จะนำมาติดชิพของ Nordic Semiconductor เข้าไป เจ้าชิพตัวนี้จะทำหน้าที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตด้วยบลูทูธ และประมวลผลตัวอักษรที่คุณกดลงไป  ส่วนพลังงานก็ใช้แค่ถ่านใส่นาฬิกาเท่านั้น เนื่องจากเทคโนโลยีที่ใช้นั้นเป็น capacitive จึงสามารถนำคีย์บอร์ดกระดาษนี้ไปติดกับวัสดุอย่างอื่นที่นำไฟฟ้าได้ เช่น แก้วหรือกระจก นอกจากนี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมากมาย

แหล่งที่มา : คีย์บอร์ดที่บางเฉียบเท่ากระดาษ. (2557). ครอบครัวข่าวสามออนไลน์. สืบค้นข้อมูลเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2557 จาก http://www.krobkruakao.com/ข่าวเทคโนโลยี/87966/คีย์บอร์ดที่บางเฉียบเท่ากระดาษ.html– ( 15 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

เทรนด์แปลกในเกาหลี : ทานอาหารผ่าน Youtube สร้างรายได้

ที่เกาหลีใต้ มีเทรนด์ใหม่ นิยมการดูคนอื่นทานอาหาร ผ่าน Youtube หรือ Webcast เป็นสิ่งที่แปลกประหลาดและเป็นเทรนด์ใหม่มากๆ

ปาร์ค ซู ยอน สาววัย 34 ปี ใช้ชื่อ The Diva ถ่ายทอดคลิปการทานอาหารของตัวเอง พร้อมพูดคุยกับเหล่าผู้ชม จากนั้นผู้ใช้จะส่งบอลลูนหาเธอ ซึ่งสามารถแปลงบอลลูนเหล่านั้นให้เป็นเงินจริงๆ ได้ เรียกเทรนด์นี้ว่า Gastronomic Voyeurism ซึ่งหมายถึง คุณจะไม่มีวันกินข้าวคนเดียว

ปาร์ค ซู ยอน ใช้เวลาทานอาหารวันละ 3 ชั่วโมงทุกวันหน้าเว็บแคมของเธอ สร้างรายได้มากถึง 9,000 เหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน หรือ ประมาณ 2 แสน 9 หมื่นบาทต่อเดือนโดยหนึ่งในแฟนเพจของ The Diva บอกว่า เพราะชาวเน็ตไม่สามารถทานอาหารจำนวนมากได้ และชาวเน็ต ต้องการมีเพื่อน เลยต้องดูเธอทานอาหารเหมือนกับพวกเขาได้ทานอาหารกับเธอ และยังช่วยแก้เหงาคนที่อยู่คนเดียวได้

การทานอาหารคนเดียวนั้นเป็นพฤติกรรมที่พบได้มากขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากประชากรส่วนใหญ่แยกบ้านมาอาศัยคนเดียว และคาดว่าใน 15 ปี 1 ใน 3 ของประชากร จะอาศัยคนเดียว ซึ่งคาดว่า เทรนด์การทานอาหารผ่านเว็บแคมนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

แหล่งที่มา : เทรนด์แปลกในเกาหลี : ทานอาหารผ่าน Youtube สร้างรายได้. (2557). วอยซ์ทีวี. สืบค้นข้อมูลเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2557  จาก http://shows.voicetv.co.th/voice-market/96278.html– ( 12 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

ผักชนิดแรกที่คนเราปลูก

ผักชนิดไหนเป็นผักชนิดแรกที่คนเราปลูก ยังเป็นข้อถกเถียง

เริ่มจากหลักฐานที่เกาะนิวกินีตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย คือผักจำพวกเผือกและมันเทศ คาดว่าปลูกกันเมื่อราว 6,500-7000 ปีก่อน เวลาไล่เลี่ยกันในทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ประมาณ 6,000 ปีก่อน คนพื้นเมืองแถบนี้ก็รู้จักปลูกพริก แต่ก็คาดว่ารู้จักกินพริกมาตั้งแต่ 9,500 ปีก่อนแล้ว

ผักเก่าแก่อีกชนิดหนึ่งคือ หัวหอม คาดว่าคนกินหัวหอมตั้งแต่ราว 7,000 ปีก่อน และในสมัยอียิปต์โบราณ ราว 4,000 ปีก่อนจึงมีหลักฐานว่ามีการปลูกหัวหอมและทาสที่ก่อสร้างพีระมิดก็กินหัวหอม จากที่พบหัวหอมในหลุมฝังศพของกษัตริย์ปละภาพวาดบนผนัง แสดงว่าชาวอียิปต์โบราณให้ความสำคัญกับหัวหอมมาก นอกจากหัวหอมแล้ว ชาวอียิปต์โบราณยังปลูกแรดิช (radish) ผักตระกูลกะหล่ำที่ไว้กินหัวด้วย

แหล่งที่มา :  ” โลกใบใหญ่: ผักชนิดแรก”  สารคดี.28( 325) :66 (มีนาคม 2555)– ( 30 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

สหรัฐฯ ผลิตพลาสติกจากมลภาวะในอากาศ

บริษัท นิวไลท์ จากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา พบวิธีการนำมลภาวะในอากาศมารีไซเคิลเป็นเม็ดพลาสติก หลังจากใช้เวลาทดลองนับ 10 ปี เม็ดพลาสติกที่มีชื่อว่า AirCarbon โดยใช้เทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้น โดยสกัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และมีเทน จากมลภาวะในอากาศและเปลี่ยนให้เป็นของเหลว ก่อนจะจัดเรียงโครงสร้างโมเลกุลใหม่ให้เป็นเม็ดพลาสติก

ความคิดนี้ได้มาจากการที่ มาร์ค เฮอร์มา หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท และผู้บริหารในปัจจุบัน อ่านบทความหนังสือพิมพ์ เมื่อปี 2003  เรื่องปัญหามลพิษทางอากาศจากก๊าซคาร์บอน ซึ่งบทความแนะนำให้มีการเก็บภาษีคาร์บอน หรือหาทางดูดลงไปฝังไว้ใต้ดิน ทำให้เกิดความคิดว่า น่าจะนำมลพิษเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ จึงศึกษาวิธีการจับคาร์บอนจากอากาศ เพื่อนำมาทำเม็ดพลาสติก โดยใช้เวลาทดลองทำ 10 ปีจนสำเร็จ

ขณะนี้ บริษัทใช้ AirCarbon ผลิตสินค้าได้หลายอย่าง เช่น เก้าอี้ แผ่นพลาสติก และเคสโทรศัพท์มือถือ   ซึ่งผู้บริหารของบริษัทฯ หวังว่าในอนาคตผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ  จะสามารถเป็นทางเลือกแทนพลาสติกที่ปัจจุบันทำจากน้ำมัน

แหล่งที่มา : สหรัฐฯ ผลิตพลาสติกจากมลภาวะในอากาศ. (2557). ครอบครัวข่าวสามออนไลน์. สืบค้นข้อมูลเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2557, จาก http://www.krobkruakao.com/ข่าวต่างประเทศ/87708/สหรัฐฯ-ผลิตพลาสติกจากมลภาวะในอากาศ.html

 – ( 28 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

โรค‘เซลฟี่’โจ๋ไทยเสพติด โพสต์รูปแลกกดไลค์ แฉขาดความมั่นใจ

ถ่ายรูปตัวเองโพสต์แลกกดไลค์ แสดงความคิดเห็น จิตแพทย์ระบุควรทำแค่บางโอกาส มากไปเป็นสัญญาณเตือนถึงการขาดความมั่นใจในตัวเอง อาจส่งผลถึงอนาคตกลายเป็นคนโลเล ชอบจับผิดคนอื่น ขี้อิจฉา

วานนี้ (9ก.พ.) พญ.พรรณพิมล วิปุลากร รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้คนทั่วโลกนิยมใช้สื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น ข้อมูลจากสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) สำรวจการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ในปี 2556 พบว่า ทั่วโลกมีผู้ใช้งานเฟซบุ๊กกว่า 1 พันล้านคนต่อเดือน ใช้งานอินสตาแกรมมากกว่า 1 ร้อยล้านคนต่อเดือน ส่วนในประเทศไทยพบว่ามีประชาชน ใช้เฟซบุ๊กถึง 19 ล้านคน ใช้อินสตาแกรม ถึง 8 แสนคนต่อวัน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉลี่ยแล้วเพิ่มขึ้นเดือนละ 10 ล้านคน

พญ.พรรณพิมล กล่าวต่อว่า เรื่องที่น่าห่วงขณะนี้ พบว่าประชาชนทั้งชายและหญิง โดยเฉพาะวัยรุ่นนักเรียน นักศึกษา นิยมพฤติกรรมที่เรียกว่า เซลฟี่ (selfie) กันมาก คือถ่ายรูปตัวเองในอิริยาบถต่าง ๆ แล้วนำไปเผยแพร่บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม ไม่ว่าจะทำอะไร ไปที่ไหน หรือกินอะไร เพื่อให้เพื่อนในสังคมออนไลน์ทั้งที่รู้จักจริง และรู้จักในสังคมออนไลน์ได้รับรู้มากดไลค์ (Like) ถูกใจในรูปภาพ พฤติกรรมเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อปัญหาสุขภาพจิตในอนาคตได้โดยเฉพาะเรื่องความเชื่อมั่นหรือความมั่นใจในตนเอง ซึ่งจะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และส่งผลต่ออนาคต การงาน และการพัฒนาประเทศอย่างคาดไม่ถึง Read more…– ( 14 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

มก.-ศิลปากร เจ๋ง ผลิตสารตรวจสอบคราบเลือดเพื่องานนิติวิทยาศาสตร์ถูกกว่านำเข้า

ในคดีฆาตกรรมที่ผู้ต้องหาได้พยายามปกปิดซ่อนเร้นหลักฐาน โดยเฉพาะคราบเลือดในสถานที่เกิดเหตุ การตรวจสอบคราบเลือดด้วยตาเปล่าจึงอาจไม่สามารถมองเห็นได้เลย  ซึ่งเลือดเป็นชีววัตถุพยานที่สำคัญที่สุดในการใช้เป็นหลักฐานในการเชื่อมโยงผู้เสียหาย ผู้ต้องสงสัย และสถานที่เกิดเหตุเข้าไว้ในเหตุการณ์เดียวกัน การตรวจสอบคราบเลือดจึงต้องใช้เทคนิคทางเคมีเข้าช่วยในการสืบสวนสอบสวน Read more…– ( 22 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments 
formats

พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย โดย สวทช. (สัปดาห์ที่ 2)

ติดตามรับชมรายการ “พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย โดย สวทช.” ประจำวันที่ 10, 12 และ 14 กุมภาพันธ์นี้ เวลาประมาณ 20.15 น. (หลังข่าวภาคค่ำ) ทางโมเดริ์น ไนน์ ทีวี (ช่อง 9 อสมท.)

  • วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 นำเสนอเรื่อง ดาวเทียมขนาดจิ๋ว
    สวทช. ได้มีโครงการให้เยาวชนได้พัฒนาดาวเทียมขนาดจิ๋วที่บรรจุลงในกระป๋องน้ำอัดลม ที่เรียกกันว่า CanSat โดยมีคุณสมบัติที่เสมือนดาวเทียมจริงๆ สามารถบันทึกข้อมูลจากที่สูง ส่งสัญญาณกลับมายังภาคพื้นดิน และสามารถควบคุมตัวเองได้ด้วยระบบอัตโนมัติ
  • วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2557 นำเสนอเรื่อง จุลินทรีย์ขจัดคราบน้ำมัน
    การใช้สารเคมีกำจัดคราบน้ำมัน อาจจะเกิดการตกค้างและมีผลกระทบและเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศน์ได้ นักวิจัยไบโอเทคโดย สวทช. ได้คิดค้นวิธีการที่ปลอดภัยกว่า นั่นคือการใช้จุลินทรีย์ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติมาย่อยสลายคราบน้ำมัน
  • วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2557 นำเสนอเรื่อง ปราบหนอนกระทู้หอมโดยไม่ใช้สารเคมีหนอนกระทู้หอมเป็นศัตรูพืชที่ทำลายพืชเศรษฐกิจของไทย ทางเลือกใหม่ของการกำจัดศัตรูพืชด้วย “ชีวินทรีย์กำจัดศัตรูพืช” ที่นักวิจัยไบโอเทค สวทช. ร่วมกับกรมวิชาการเกษตรร่วมกันวิจัยและพัฒนาขึ้น เพื่อทดแทนการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำลายสิ่งแวดล้อม

และอย่าลืมร่วมสนุกกับรายการและติดตามกิจกรรมของ สวทช. ได้ที่ www.facebook.com/NSTDATHAILAND

ติดตามชมรายการ พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ย้อนหลังได้ที่นี่
พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน เครื่องสกัดน้ำมันปาล์มขนาดเล็กสำหรับชุมชน
พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน การทดลองในสภาวะไร้แรงโน้มถ่วง
พลังวิทย์ คิดเพื่อคนไทย ตอน โครงการวิจัยที่ขั้วโลกใต้– ( 63 Views)

 
 Share on Facebook Share on Twitter Share on Reddit Share on LinkedIn
No Comments  comments