NFT คือ สินทรัพย์ดิจิทัล ย่อมาจาก Non-Fungible Token ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว ถูกบันทึกผู้ผลิตและเจ้าของผ่าน Smart Contract ที่ทำให้เกิดการระบุเจ้าของ (ทั้งแบบเปิดเผยและไม่เปิดเผยตัวตน) มีความนิยมและมีมูลค่าการตลาดสูงมากในช่วงปี 2020 – 2021 ปัจจุบันตั้งแต่ปี 2022 จนถึง 2023 มูลค่าการตลาดมีความผันผวน แต่ยังคงมีโอกาสในเชิงธุรกิจจากนักลงทุนทุกภาคส่วน สำหรับบทความนี้ขอแนะนำส่วนเริ่มของกระแส NFT และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้อ่านทราบว่า อะไรคือ NFT และทำไมจึงเกิดกระแสในโลกปัจจุบัน
กระแสจากเทคโนโลยีและการประมูล
NFT เป็นกระแสเมื่อมีการใช้งาน Block Chain และการซื้อขายเหรียญหรือ Token ของ Crypto Currency ในระยะแรก จนพัฒนามาเป็นการสร้าง Token ของ NFT ที่มุ่งเน้นให้ผู้ซื้อขายสามารถระบุตัวตนของผู้ครอบครอง Token ไว้ใน Block Chain ได้ สามารถแลกเปลี่ยน Token กันได้ พร้อมทั้งมีการระบุผู้ครอบครองในรายต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนพร้อมราคาซื้อขายใน Block chain ดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยส่วนที่ทำให้เกิดกระแสสำคัญของ NFT ว่ากันว่าเกิดจากการซื้อขายประมูลภาพ Collage Digital ของ Mike Winkelmann
โดยภาพดังกล่าวเป็นไฟล์ดิจิทัลขนาดใหญ่ ที่ถูกร้อยเรียงการฝึกหัดวาดภาพดิจิทัลวันละ 1 ภาพของคุณ Mike เป็นจำนวนทั้งสิ้น 5 พันวัน (กว่า 13 ปี) ซึ่งเป็นศิลปินและนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เขาทำให้ทุกคนเห็นว่าภาพทุกภาพมีพัฒนาการ มีความตั้งใจ สามารถทำการประมูลผ่านระบบ Block chain แลtขายได้เป็นจำนวนเงินกว่า 1,900 ล้านบาท โดยการซื้อขายทำได้ทั่วโลกและจ่ายเงินเป็นเงินสกุล ETH ซึ่งเป็นเหรียญใน Crypto Currency ที่สามารถโอนจ่ายได้อย่างรวดเร็วและเสียค่าธรรมเนียมน้อยนิด ทำให้เกิดมิติการเปรียบเทียบในส่วนของ ราคา ธุรกรรม ความสะดวก และ Story ที่ซึ้งกินใจ นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่ทำให้เกิดกระแส NFT ควบคู่กับ Crypto Currency ซึ่งเป็นที่เชื่อถือในช่วงเวลาที่ผ่านมา
ในตอนหน้า ผู้เขียนจะพาคุณไปรู้จักกับ NFT ให้ชัดขึ้นในมุมเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องและกระบวนการที่สำคัญสำหรับการเป็น NFT Creator หรือผู้สร้าง / ผู้ขาย สินทรัพย์ดิจิทัลต่อไป
หมายเหตุ : บทความนี้ไม่ใช่การชี้นำการลงทุน เป็นเพียงการนำเสนอมุมมองทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้น และบทวิเคราะห์ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านเท่านั้น