นักวิจัยจาก Kumamoto University ในประเทศญี่ปุ่นพัฒนาสารประกอบใหม่ซึ่งเป็นตัวหลักในการทำลายเอชไอวี เมื่อสารประกอบดังกล่าวถูกนำเข้าในเซลล์ติดเชื้อ การปล่อยไวรัสออกจากเซลล์จะถูกยับยั้งดังนั้นเก็บไวรัสไว้ในเซลล์ ต่อมาเซลล์ตายอย่างธรรมชาติผ่านกระบวนการ apoptosis เป็นความหวังว่าวิธีการนี้จะนำไปสู่การหายจากเอดส์อย่างสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้
เมื่อไม่นานมานี้ การใช้ยาหลายตัวในการรักษาสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนเอชไอวีในร่างกายได้เมื่อได้รับอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามวิธีนี้ไม่สามารถกำจัดอนุภาคไวรัสที่หลบซ่อนอยู่ (อนุภาคไวรัสที่ไม่เพิ่มจำนวนซึ่งอยู่อย่างสงบในเซลล์ของร่างกาย) ในทันทีเมื่อการให้ยาหยุดลง ไวรัสจะเพิ่มขึ้นอีกครั้งในร่างกาย การกำจัดแหล่งที่สะสมไวรัสปัจจุบันเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดในงานวิจัยเอดส์
วิธีการ kick และ kill ซึ่งถูกพัฒนาเมื่อหลายปีก่อนเป็นกลวิธีสำหรับฆ่าเซลล์ที่เป็นแหล่งสะสมไวรัส วิธีการนี้ใช้ยาซึ่งมีเป้าหมายเป็นเซลล์ที่เป็นแหล่งสะสมไวรัสและกระตุ้นไวรัสซึ่งต่อมาทำให้ระบบภูมิคุ้มกันค้นพบเซลล์เหล่านี้โดยใช้ไวรัสที่ถูกกระตุ้นเป็นตัวบอกตำแหน่ง ถึงแม้วิธีนี้ได้รับการทดสอบทางคลินิก ยังคงมีปัญหาคือไม่สามารถยับยั้งฤทธิ์ของไวรัสได้ดีหลังจากการกระตุ้นสำเร็จ
นักวิจัยของ Kumamoto University พัฒนาวิธีการใหม่ซึ่งเรียกว่า Lock-in และ apoptosis เริ่มต้นด้วยสังเคราะห์สารประกอบ L-HIPPO ซึ่งจับแน่นกับโปรตีนของเอชไอวี Pr55Gag และยับยั้งการแตกตัวออกของไวรัส เมื่อL-HIPPO ถูกใส่ไปในเซลล์ติดเชื้อไวรัสโดยอาศัยตัวพาชื่อ alpha-CDE ทำให้ไวรัสถูกจำกัดให้อยู่ภายในเซลล์และเซลล์จะตายโดยกระบวนการ apoptosis ตามธรรมชาติ
รองศาสตราจารย์ Mikako Fujita จาก Kumamoto University หนึ่งของผู้นำในการศึกษานี้ กล่าวว่า อย่างโชคไม่ดี วิธีนี้ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้สำหรับคนที่ติดเชื้อเอชไอวี อย่างแรกพวกเราต้องปรับปรุงยาซึ่งกระตุ้นไวรัสและรวมเข้ากับ L-HIPPO เพื่อมุ่งเป้าไปที่แหล่งเก็บสะสมไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่จะเป็นก้าวสำคัญไปยังการหายอย่างสมบูรณ์จากเอชไอวี พวกเราเชื่อว่างานวิจัยของพวกเราจะช่วยกำจัดเอดส์ได้อย่างสมบูรณ์
ที่มา: Kumamoto University (2017, October 2). New approach for AIDS: Lock HIV in reservoir cells, to die through apoptosis. ScienceDaily. Retrieved October 19, 2017, from https://www.sciencedaily.com/releases/2017/10/171002093415.htm