หน้าแรก เดินหน้าแล้ว ‘Medical AI Data Platform’ แพลตฟอร์มกลางของประเทศไทยเพื่อการผลิต AI วินิจฉัยโรค

เดินหน้าแล้ว ‘Medical AI Data Platform’ แพลตฟอร์มกลางของประเทศไทยเพื่อการผลิต AI วินิจฉัยโรค

27 ม.ค. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์
บทความ
ผลงานวิจัยเด่น

เดินหน้าแล้ว ‘Medical AI Data Platform’ แพลตฟอร์มกลางของประเทศไทยเพื่อการผลิต AI วินิจฉัยโรค

 

ปัจจุบันเริ่มมีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้เป็นผู้ช่วยบุคลากรทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะการวินิจฉัยรอยโรคจากภาพถ่ายทางการแพทย์ เพราะ AI มีศักยภาพในการประมวลผลเพื่อวิเคราะห์ข้อมูลภาพหรือ visual computing ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระงานด้านการคัดกรองโรคเบื้องต้นได้เป็นอย่างดี

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับกรมการแพทย์ และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ก่อตั้ง Medical AI Consortium หรือ ภาคีเครือข่ายปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ อันประกอบด้วยหน่วยงานและบุคลากรด้านการแพทย์และการวิจัย เช่น กรมการแพทย์ โรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัยชั้นนำในประเทศไทย เพื่อดำเนินการรวบรวมและจัดทำฐานข้อมูลภาพถ่ายทางการแพทย์คุณภาพสูงของประเทศไทย เพื่อสนับสนุนการทำวิจัยและผลิตระบบบริการ AI คัดกรองโรค สำหรับแบ่งเบาภาระงานให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ นำไปสู่การเพิ่มโอกาสให้ประชาชนไทยได้เข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ในการดำเนินงานภาคีเครือข่ายฯ (2566-2569) ได้รับทุนสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.)

 

Medical AI Data Platform เทคโนโลยีสนับสนุนขับเคลื่อนงาน
ภาพ ดร.ศวิต กาสุริยะ รองผู้อำนวยการ เนคเทค สวทช.
ดร.ศวิต กาสุริยะ รองผู้อำนวยการ เนคเทค สวทช.

 

ดร.ศวิต กาสุริยะ รองผู้อำนวยการ เนคเทค สวทช. อธิบายว่า บทบาทการดำเนินงานหลักของเนคเทค สวทช. ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้ง Medical AI Consortium คือ การพัฒนา Medical AI Data Platform แพลตฟอร์มกลางที่รวบรวมเทคโนโลยีสำหรับสนับสนุนการดำเนินงานของภาคีเครือข่ายฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ภายในแพลตฟอร์มประกอบด้วย 3 เทคโนโลยีหลัก หนึ่งคือเทคโนโลยีสำหรับจัดเก็บและเผยแพร่ภาพถ่ายทางการแพทย์จากทั่วประเทศ สองคือเทคโนโลยีกำกับข้อมูลภาพถ่ายให้อยู่ในรูปแบบพร้อมใช้ผลิตโมเดล AI และสามคือเทคโนโลยีสำหรับผลิตโมเดล AI ในรูปแบบใช้งานง่าย เพื่อลดการพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ลดเวลา และค่าใช้จ่ายในการผลิต

 

ภาพอินโฟกราฟิกนำเสนอกลไกการทำงานของ Medical AI Data Platform ซึ่งจะมีอธิบายทั้งหมดในเนื้อหาส่วนต่อไป

 

“ในส่วนแรก เทคโนโลยีหลักที่เนคเทคพัฒนาต่อยอดจากเทคโนโลยีเดิมให้เหมาะสมกับการจัดเก็บภาพถ่ายทางการแพทย์มากยิ่งขึ้น คือ Open-D เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลที่มีฟังก์ชันกำหนดระดับการเผยแพร่ข้อมูลสู่สาธารณะ (open data) หรือแบ่งปันเฉพาะกลุ่ม (shared data) สำหรับใช้จัดเก็บและแบ่งปันภาพถ่ายเพื่อประโยชน์ด้านการวิจัยร่วมกัน ส่วนที่สอง เทคโนโลยีสำหรับกำกับข้อมูล (annotation) ภาพถ่าย เพื่อใช้ในการเทรนโมเดล AI (AI training) เทคโนโลยีหลักที่นำมาให้บริการคือ RadiiView (เรดีวิว) ที่รองรับไฟล์ภาพได้หลากหลายประเภท ทั้งภาพถ่ายทั่วไป ฟิล์มเอกซ์เรย์ และภาพสแกน 3 มิติ โดยมีฟังก์ชันสำหรับการกำกับข้อมูลภาพ (image annotation) ที่ช่วยเตรียมข้อมูล เพื่อนำไปใช้ในการผลิตโมเดล AI (AI model development) ต่อไป

“ส่วนสุดท้าย เทคโนโลยีสำหรับอำนวยความสะดวกด้านการผลิตโมเดล AI คือ NomadML (โนแมดเอ็มแอล) เว็บแอปพลิเคชันสำหรับผลิตโมเดล AI โดยไม่ต้องเขียนโค้ด เพียงนำภาพที่ผ่านการกำกับข้อมูลภาพเรียบร้อยแล้วเข้าสู่ระบบ แล้วเลือกฟังก์ชันการเทรนโมเดล AI ที่มีให้เลือกทั้งแบบกำหนดพารามิเตอร์เองหรือระบบกำหนดให้โดยอัตโนมัติ เพียงเท่านี้ก็จะได้โมเดล AI ช่วยคัดกรองโรคมาใช้งานแล้ว โดยแพทย์หรือผู้พัฒนาสามารถนำโมเดล AI ไปใช้งานได้ผ่าน National Medical AI Service Platform ที่เนคเทค สวทช. เป็นผู้พัฒนา ซึ่งจะเปิดให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศในอนาคตโดยกรมการแพทย์”

ทุกเทคโนโลยีที่นำมาให้บริการใน Medical AI Data Platform ผ่านการออกแบบและพัฒนาต่อยอดร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์หรือกลุ่มเป้าหมายหลักที่จะเป็นผู้ใช้งานระบบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว รวมทั้งยังออกแบบแพลตฟอร์มให้ปรับเสริมเพิ่มฟังก์ชันสำหรับรองรับความต้องการที่อาจมีมากขึ้นในอนาคตได้ ทั้งนี้รูปแบบการให้บริการ Medical AI Data Platform จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ คณะกรรมการบริหารแพลตฟอร์มข้อมูลเปิดเพื่อการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์ ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมและดูแลความปลอดภัยของข้อมูล โดยอยู่ภายใต้การกำกับของกรมการแพทย์

 

Medical AI Consortium เดินหน้าความร่วมมือระดับชาติ

ดร.ศวิต อธิบายว่า ปัจจุบันเนคเทค สวทช. พัฒนา Medical AI Data Platform เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยในปี 2567 ภาคีเครือข่ายฯ ได้รับความร่วมมือในการนำภาพถ่ายทางการแพทย์เข้าสู่ระบบมากกว่า 1 ล้านภาพ และตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนภาพให้ได้มากถึง 3 ล้านภาพภายในเฟสแรกของการดำเนินงาน (2566-2569) ในปี 2568 นี้นอกจากจะเป็นช่วงประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัย สถานพยาบาลต่าง ๆ บริษัทซอฟต์แวร์ รวมทั้งผู้พัฒนาจากทั่วประเทศไทยเข้าร่วมภาคีเครือข่ายฯ และใช้งานแพลตฟอร์มกลางของประเทศร่วมกันแล้ว ยังเป็นช่วงที่ภาคีเครือข่ายฯ เริ่มดำเนินงานกำกับข้อมูลภาพถ่ายทางการแพทย์ที่ได้รับการสนับสนุนด้วย

 

ภาพแพทย์ใช้ AI ในการช่วยคัดกรองโรค

 

“ผู้ดำเนินงานหลักด้านการกำกับข้อมูลภาพในช่วงเริ่มต้นจะเป็นบุคลากรจากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งศาสตร์ทางการแพทย์และการกำกับข้อมูลภาพสำหรับใช้เทรนโมเดล AI เพื่อให้ได้ต้นแบบการกำกับข้อมูลที่ได้มาตรฐาน ก่อนที่กรมการแพทย์จะขยายผลในการจัดสรรบุคลากรมาร่วมดำเนินงานกำกับข้อมูลที่จะมีจำนวนภาพเพิ่มเติมอีกหลายเท่าตัวในอนาคต ส่วนขั้นตอนการผลิตโมเดล AI เพื่อคัดกรองโรค สมาชิกภาคีเครือข่ายฯ และบุคคลทั่วไปจากภายนอก จะเริ่มดำเนินงานหลังจากภาพคุณภาพสูงที่ผ่านการกำกับข้อมูลเรียบร้อยแล้วมีจำนวนมากเพียงพอ โดยจำนวนภาพขั้นต่ำสำหรับเทรนโมเดล AI เพื่อคัดกรองแต่ละรอยโรคคือ 10,000 ภาพ ซึ่งระดับความแม่นยำจะขึ้นอยู่กับจำนวนภาพถ่ายคุณภาพสูงที่ผ่านการกำกับข้อมูลอย่างถูกต้อง รวมทั้งการมีส่วนร่วมของแพทย์ นักวิจัย นักพัฒนา และผู้ใช้งานที่นำ AI ไปใช้งานจริงในการตรวจสอบความถูกต้องของผลลัพธ์ เพื่อให้นำข้อมูลที่ได้กลับมาใช้ปรับปรุงโมเดล AI ให้มีความแม่นยำและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นในอนาคต

“แม้ในเฟสแรกหรือภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2569 ทางภาคีเครือข่ายฯ อาจยังขาดความพร้อมที่จะผลิตโมเดล AI คุณภาพสูงเพื่อให้บริการแก่สาธารณะ เนื่องจากยังมีจำนวนภาพถ่ายทางการแพทย์คุณภาพสูงที่ผ่านการกำกับข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้วไม่มากพอ และการพัฒนาโมเดล AI ให้มีความแม่นยำสูงในระดับที่เหมาะกับการเปิดให้บริการจำเป็นต้องอาศัยเวลาในการวิจัยและพัฒนา อย่างไรก็ตามภาคีเครือข่ายฯ มีแผนที่จะนำระบบบริการ AI ที่เนคเทค สวทช. และพันธมิตรพัฒนาจนพร้อมใช้งานแล้วและให้บริการแก่สาธารณะได้ มาเปิดให้บุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศไทยได้เข้าใช้งานก่อนภายในการทำงานเฟสแรกนี้หรือภายในปี 2569 ผ่านทาง National Medical AI Service Platform

 

ภาพคุณหมอและคนไข้ยิ้มแย้ม แสดงถึงการที่คนไข้ได้เข้าถึงระบบบริการด้านสุขภาพที่มีประสิทธิภาพ และคุณหมอได้ทำงานอย่างมีความสุข

 

การจัดการกับข้อมูลปริมาณมหาศาลที่ไหลเข้าสู่ระบบในช่วงเริ่มต้น อาจต้องใช้ทั้งเวลา แรงกาย และแรงใจในการทำงานสูง แต่หากการดำเนินงานแล้วเสร็จไปถึงขั้นตอนที่พร้อมให้บริการ เมื่อนั้นจะเป็นช่วงของการออกดอกออกผลที่บุคลากรทางการแพทย์จากทั่วประเทศจะมีเทคโนโลยี AI ของไทยไว้ช่วยแบ่งเบาภาระ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และลดเวลาในการดูแลผู้ป่วย

ดร.ศวิต อธิบายทิ้งท้ายถึงความคาดหวังของคณะผู้ก่อตั้ง Medical AI Consortium จากทั้ง 3 หน่วยงานว่าประกอบด้วย 3 เรื่องหลัก เรื่องแรกคือคาดหวังให้เกิดระบบฐานข้อมูลทางการแพทย์ที่ได้มาตรฐาน และเข้าถึงได้ เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการวิจัยในการเพิ่มศักยภาพอุตสาหกรรมการแพทย์ไทย เรื่องที่สองคือการนำระบบ AI ที่พัฒนาไปใช้ยกระดับการให้บริการสาธารณสุขไทย เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาที่มีประสิทธิภาพ เรื่องที่สามที่สำคัญไม่แพ้กันคือการเพิ่มความสามารถในการพึ่งพาตนเองให้แก่ประเทศไทย ลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมการแพทย์และเศรษฐกิจของประเทศไทยในภาพรวม

โรงพยาบาล สถานพยาบาล หรือหน่วยงานวิจัยทางการแพทย์ที่สนใจเข้าร่วม Medical AI Consortium หรือสนใจสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Medical AI Data Platform ติดต่อสอบถามได้ที่ MedicalAI@dms.mail.go.th


ผู้สนับสนุนหลักในการขับเคลื่อน Medical AI Consortium
  • นายแพทย์ภัทรวินฑ์ อัตตะสาระ ผู้อำนวยการสำนักดิจิทัลการแพทย์ กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข สนับสนุนข้อมูลทางการแพทย์ การกำหนดโจทย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์เพื่อนำไปสู่การขยายผลการให้บริการ
  • ศาสตราจารย์ นายแพทย์ปิยะมิตร ศรีธรา อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล ผลักดันและสนับสนุน แนวคิด Medical Sharing Data เพื่อแบ่งปันทรัพยากรและพัฒนางานวิจัยสำหรับสร้างนวัตกรรมด้านปัญญาประดิษฐ์ทางการแพทย์
  • รองศาสตราจารย์ นายแพทย์สิทธิ์ พงษ์กิจการุณ หัวหน้าภาควิชารังสีวิทยา คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล สนับสนุนข้อมูลทางการแพทย์และการกำกับข้อมูลภาพ

 


เรียบเรียงโดย ภัทรา สัปปินันทน์ ฝ่ายสร้างสรรค์สื่อและผลิตภัณฑ์ สวทช.
อาร์ตเวิร์กโดย ภัทรา สัปปินันทน์
ภาพประกอบโดย ภัทรา สัปปินันทน์ และ Shutterstock

แชร์หน้านี้: