ก.วิทย์ โดย สวทช. เปิดตัว “บัญชีนวัตกรรมไทย” สร้างโอกาส
ผู้ประกอบการไทย เข้าถึงตลาดภาครัฐ ยกระดับสู่สากล
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง โดยกรมบัญชีกลาง เปิดตัว ‘บัญชีนวัตกรรมไทย’ เข้าถึงตลาดภาครัฐ สร้างโอกาสผู้ประกอบการไทย หนึ่งในกลไกภาครัฐที่หนุนให้ผลงานวิจัยจากความรู้ของคนไทย มีโอกาสนำไปใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและยกระดับสู่สากล โดยอาศัยกลไกการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐเป็นตัวนำ ชึ่งเป็นมาตรการเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขายผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่เป็นผลงานนวัตกรรมให้กับภาครัฐได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น พร้อมทั้งสนับสนุนผลงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของไทยให้สามารถผลิตสู่เชิงพาณิชย์อย่างมีคุณภาพและมาตรฐานในระดับที่เชื่อถือได้ ตลอดจนทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ ล่าสุดประกาศขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยแล้ว 26 ผลงาน เตรียมจ่อขึ้นบัญชีอีกหลายสิบผลงานเร็วๆ นี้ โดยสามารถขึ้นทะเบียนนวัตกรรมไทยได้สูงสุดเป็นเวลา 8 ปี
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “ผลงานวิจัยขึ้นหิ้งที่ยังไม่ได้นำมาใช้ประโยชน์ ขาดกลไกเชื่อมโยงระหว่างผลงานวิจัยและนวัตกรรมกับการแปลงผลงานไปสู่เชิงพาณิชย์ รวมทั้งขาดการสร้างตลาดภาครัฐเพื่อรองรับนวัตกรรมที่พัฒนาโดยภาคเอกชน คณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ (คพน.) ซึ่งมีท่านนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา เพื่อให้มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมของประเทศที่สามารถแข่งขันกับนานาประเทศได้ รวมทั้งต้องมีการกำกับดูแลการวิจัยพัฒนา และการสร้างนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสรรค์สังคมไทย รวมทั้งสร้างความยั่งยืน มั่นคง และมั่งคั่งให้แก่ประเทศในระยะยาว จึงเป็นที่มาของนโยบาย ‘บัญชีนวัตกรรมไทย’ ซึ่งเป็นมาตรการที่ใช้การจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐเป็นเครื่องมือทางนโยบายในการสนับสนุน และส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการนำผลงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมไทย มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ และส่งเสริมผลงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของไทยให้สามารถผลิตสู่เชิงพาณิชย์ อย่างมีมาตรฐานในระดับที่เชื่อถือได้ ตลอดจนทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ โดย สวทช. เป็นหน่วยตรวจสอบคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์และบริการที่ขอขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่เชื่อถือได้ และมอบหมายสำนักงบประมาณเป็นหน่วยตรวจสอบราคาของผลิตภัณฑ์และบริการที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเรียบร้อยแล้ว หากได้มาตรฐานและเป็นไปตามข้อกำหนดแล้วจึงประกาศรายการผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นๆ ขึ้นใน “บัญชีนวัตกรรมไทย”
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า “มาตรการการขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมผู้ ประกอบการไทย ในการนำผลงานวิจัย พัฒนาและนวัตกรรมไทย มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ และส่งเสริมผลงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของไทยให้สามารถผลิตสู่เชิงพาณิชย์อย่างมีมาตรฐาน ในระดับที่เชื่อถือได้ ตลอดจนทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมให้เกิดการใช้การจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานภาครัฐเป็นเครื่องมือทางนโยบายในการส่งเสริมการวิจัย พัฒนา และนวัตกรรมของประเทศ
หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย สามารถดำเนินการได้โดยเริ่มจากเตรียมแบบคำขอขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยและเอกสารประกอบต่างๆ ให้ครบถ้วน จากนั้นส่งมายัง สวทช. ซึ่ง สวทช. โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย และคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผลงานนวัตกรรมที่ขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย จะพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติผลงานนวัตกรรมไทยตามหลักเกณฑ์ 4 ข้อ ได้แก่ 1) เป็นนวัตกรรมที่เป็นผลมาจากงานวิจัยและพัฒนาของคนไทยอย่างมีนัยสำคัญ 2) เป็นนิติบุคคลไทยที่มีผู้ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 51 หรือองค์กรภาครัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการผลิตและจำหน่าย 3) ผ่านการรับรองมาตรฐานบังคับ 4) มีผลการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เมื่อคณะกรรมการฯ มีมติรับรอง สวทช. จะนำส่งรายละเอียดผลงานที่ผ่านการพิจารณาแล้วให้สำนักงบประมาณ ดำเนินการตรวจสอบราคาผลิตภัณฑ์และบริการ และจัดทำประกาศบัญชีนวัตกรรมไทย ซึ่งขณะนี้มีผลงานนวัตกรรมที่ยื่นแบบคำขอฯ มายัง สวทช. แล้วทั้งสิ้น 87 ผลงาน และที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการฯ แล้วจำนวนทั้งสิ้น 34 ผลงาน โดย ณ วันนี้ (28 มี.ค. 59) สำนักงบประมาณได้ประกาศขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยเรียบร้อยแล้ว จำนวน 26 ผลงาน”
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีนวัตกรรมไทย สามารถดูได้ที่ http://www.innovation.go.th/