หน้าแรก คลังความรู้ คลังความรู้ นานาสาระน่ารู้ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร
ปัญญาประดิษฐ์ (AI) คืออะไร
1 ก.ย. 2567
0
นานาสาระน่ารู้

ปัญญาประดิษฐ์ (AI) หมายถึง ศาสตร์ที่รวบรวมองค์ความรู้ในหลายสาขาวิชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ มาพัฒนาให้เครื่องจักรหรือระบบคอมพิวเตอร์มีความชาญฉลาด สามารถคิด คำนวณ วิเคราะห์ เรียนรู้ และตัดสินใจโดยใช้เหตุผลได้เสมือนสมองของมนุษย์ และสามารถเรียนรู้ พัฒนา และปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อเพิ่มศักยภาพของปัญญาประดิษฐ์เองได้

ประเภทของ AI

  1. ANI (Narrow AI):
    • AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะทาง เช่น การจดจำเสียง (Voice Recognition) การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการเล่นเกมโกะ AI ประเภทนี้พบได้ในชีวิตประจำวัน เช่น ผู้ช่วยส่วนตัวดิจิทัล (Siri, Alexa) และระบบแนะนำสินค้าของเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไลน์
  2. AGI (General AI):
    • AI ที่สามารถทำงานได้หลากหลายคล้ายมนุษย์  โดยสามารถนำมาใช้งานหลากหลาย เช่น การสร้างภาพ การประมวลผล การสร้างเสียงดนตรี
  3. ASI (Superintelligent AI):
    • แนวคิดที่ AI จะมีความฉลาดที่เหนือกว่ามนุษย์ในทุกด้าน แต่ยังคงเป็นเพียงทฤษฎีและอยู๋ระหว่างการพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรม

ขั้นตอนหลักในการทำงานของ AI มีดังนี้:

  1. การเก็บรวบรวมข้อมูล (Data Collection):
    • AI ต้องการข้อมูลจำนวนมากในการฝึกฝน เช่น ข้อมูลภาพ เสียง ข้อความ หรือข้อมูลดิบอื่น ๆ ข้อมูลเหล่านี้จะถูกใช้เป็นตัวอย่างเพื่อให้ระบบเรียนรู้และพัฒนาตนเอง
  2. การประมวลผลข้อมูล (Data Processing):
    • ข้อมูลที่ได้รับจะถูกประมวลผลและแปลงให้อยู่ในรูปแบบที่เหมาะสมสำหรับการวิเคราะห์ AI จะทำการค้นหาแบบแผนและความสัมพันธ์ในข้อมูลเหล่านี้
  3. การเรียนรู้ (Learning):
    • AI จะใช้ อัลกอริทึมการเรียนรู้ เพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับปรุงตนเอง ตัวอย่างเช่น การเรียนรู้แบบจำแนกประเภท (Classification) หรือการเรียนรู้แบบจับกลุ่ม (Clustering)
  4. การทำนายหรือการตัดสินใจ (Prediction/Decision Making):
    •  AI สามารถทำการทำนายหรือการตัดสินใจได้ เมื่อระบบได้เรียนรู้แล้ว เช่น การทำนายแนวโน้มของตลาดหุ้นหรือการแนะนำสินค้าตามพฤติกรรมการซื้อของผู้ใช้
  5. การปรับปรุงตนเอง (Self-Improvement):
    • AI  ที่ทำการปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่องโดยการเรียนรู้จากข้อมูลใหม่ๆ ที่ได้รับเข้ามา ซึ่งทำให้มันมีความแม่นยำและสามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ใหม่ ๆ ได้ดีขึ้น

ตัวอย่างของการประยุกต์ใช้ AI เช่น:

  • ผู้ช่วยส่วนตัวดิจิทัล: เช่น Siri, Google Assistant ที่สามารถช่วยตอบคำถาม จัดการปฏิทิน หรือควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้าน
  • การวิเคราะห์ข้อมูล: AI ถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ในธุรกิจเพื่อช่วยในการตัดสินใจและสร้างกลยุทธ์
  • การรักษาทางการแพทย์: AI ช่วยในการวินิจฉัยโรคและการพัฒนายาใหม่ ๆ ที่มีความแม่นยำสูง
  • การพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ: ที่ใช้ AI ในการนำทางและตัดสินใจในสภาพแวดล้อมจริง

ดังนั้นการเข้าใจพื้นฐานและการทำงานของ AI จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราปรับตัวและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีนี้ได้อย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การพัฒนา AI ยังมาพร้อมกับความท้าทายทั้งด้านเทคโนโลยีและจริยธรรมที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

1 ก.ย. 2567
0
แชร์หน้านี้: