(วันที่ 18 กันยายน 2567) ณ ห้องประชุม อาคารสำนักงานกลาง ชั้น 1 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) อุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จ.ปทุมธานี: ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) พร้อมด้วย ดร.สมบุญ สหสิทธิวัฒน์ รองผู้อำนวยการ สวทช. ให้การต้อนรับ Mr.Koichi Tsuyama ประธานบริษัท บริษัท อีซูซุ โกลบอล ซีวี เอ็นจิเนียริ่ง เซ็นเตอร์ จำกัดและคณะเนื่องในโอกาสมอบเงินสนับสนุนกองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของ สวทช. จำนวน 69,000,000 บาท ทั้งนี้เพื่อสนับสนุนงานด้านการวิจัย พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศไทย ให้ก้าวสู่การเป็นประเทศทันสมัยทันเทียมนานาประเทศ ทั้งนี้บริษัท อีซูซุ โกลบอล ซีวีฯ จะได้รับสิทธิประโยชน์ในการยกเว้นภาษีเพิ่มเติมตามมาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI ) อีกด้วย
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. ขอขอบคุณบริษัท อีซูซุ โกลบอล ซีวี เอ็นจิเนียริ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาทักษะ เทคโนโลยีและนวัตกรรม โดย สวทช. จะนำเงินสนับสนุนไปใช้กับพันธกิจหลักในกิจกรรมการวิจัยพัฒนาและนวัตกรรม การพัฒนาบุคลากรทางเทคนิค สนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ในประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีเพื่ออุตสาหกรรมต่อไป
ทั้งนี้คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ บริษัท อีซูซุ โกลบอล ซีวี เอ็นจิเนียริ่ง เซ็นเตอร์ จำกัด ได้เข้าเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการวิจัย: Lightweight Engineering Research Lab ของศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. โดยมี ดร.ชินะ เพ็ญชาติ ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยกระบวนการทางวัสดุและการผลิตอัตโนมัติ พร้อมด้วย คุณปิยพงศ์ เปรมวรานนท์ หัวหน้าทีมวิจัยวิศวกรรมน้ำหนักเบา ร่วมแนะนำศูนย์เอ็มเทค และบรรยายข้อมูลเกี่ยวกับการวิจัยพัฒนาการออกแบบด้านยานยนต์สมัยใหม่และความปลอดภัย ณ ห้อง MP140 อาคาร MTEC Pilot Plant
สำหรับภาคเอกชนและผู้ที่สนใจ สวทช. ขอเชิญชวนท่านร่วมมีส่วนในการสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยร่วมบริจาคเงินสนับสนุนกองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของ สวทช. และผู้บริจาคจะได้รับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันจาก BOI ทั้งนี้ สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจะเป็นไปตามการสนับสนุนเงินซึ่งคำนวณจากรายได้ 3 ปีแรก (1-5%) โดยได้ยกเว้นวงเงินภาษีเงินได้เพิ่มเติม 200%ของเงินสนับสนุน และได้รับระยะเวลายกเว้นเงินภาษีเพิ่มเติม 1-5 ปี (รวมสิทธิเดิมแล้วสูงสุดไม่เกิน 13 ปี)