นักวิจัย เอ็มเทค สวทช. สร้างนวัตกรรม
“กระดูกและข้อโลหะต้นแขนเทียมส่วนบน”
เพื่อผู้ป่วยมะเร็งกระดูก
นับเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่นักวิจัยจากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) ร่วมกับ หน่วยเนื้องอกกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่ออ่อน กลุ่มศูนย์การแพทย์เฉพาะทางด้านออร์โธปิดิกส์ โรงพยาบาลเลิดสิน คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท คอสโม เมดิเทค จำกัด ได้ร่วมมือกันวิจัยและพัฒนา “กระดูกและข้อโลหะต้นแขนเทียมส่วนบน” จนเป็นผลสำเร็จ ช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งกระดูกให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า ผลงานชิ้นนี้ทีมวิจัยได้ร่วมกันระดมสมองจากกลุ่มศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ อนุสาขาเนื้องอกกระดูกและเนื้อเยื่ออ่อน ราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย จำนวน 35-40 คน เพื่อร่วมกันพัฒนาต้นแบบกระดูกต้นแขนเทียมส่วนบนสำหรับผู้ป่วยมะเร็งกระดูกในประเทศไทยและประสบความสำเร็จผ่านการทดสอบการใช้งานทางคลินิกในผู้ป่วยมะเร็งกระดูกจำนวน 10 ราย ใน 3 โรงพยาบาลชั้นนำของประเทศ ภายใต้การควบคุมของคณะกรรมการจริยธรรมวิจัยในมนุษย์ของทั้ง 3 แห่ง มาเป็นระยะเวลาหนึ่ง และมีผลการรักษาเป็นที่น่าพอใจ ไม่มีโรคแทรกซ้อนแต่ประการใด
สวทช. ในฐานะองค์กรวิจัยและพัฒนาที่ขับเคลื่อนประเทศด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม มีเป้าหมายในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมการแพทย์และสุขภาพของไทยให้เข้มแข็ง ด้วยนวัตกรรมของไทย เพื่อเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ประเทศที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ประชาชนคนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ได้รับบริการทางการแพทย์ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานสากล ในราคาที่เหมาะสม ทั้งนี้ความสำเร็จในการพัฒนากระดูกและข้อโลหะต้นแขนส่วนบนนี้ เป็นตัวอย่างที่ดีของการพัฒนานวัตกรรมด้วยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งจากกลุ่มศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ นักวิจัย และผู้ผลิต ร่วมกันผลิตผลงานวิจัยให้เป็นสินค้านวัตกรรมที่นำไปสู่การใช้งานอย่างแท้จริง เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมการแพทย์ไทย
ดร.กวิน การุณรัตนกุล นักวิจัยห้องปฏิบัติการอุปกรณ์การแพทย์ หน่วยวิจัยวิศวกรรมชีวการแพทย์ ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (เอ็มเทค) สวทช. ซึ่งอยู่ในทีมวิจัย กล่าวว่า นวัตกรรม “กระดูกและข้อโลหะต้นแขนเทียมส่วนบน” เหมาะกับคนไข้กลุ่มปฐมภูมิ ที่พบว่าเป็นมะเร็งกระดูกแขนเหนือข้อศอก ซึ่งจะพบมากในกลุ่มเด็กและเยาวชน หากตรวจพบแล้วสามารถรักษาก่อนที่จะลามไปยังส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ จะใช้วิธีการเปลี่ยนเอา“กระดูกและข้อโลหะต้นแขนส่วนบน” ไปใส่แทนกระดูกแขนที่เป็นมะเร็ง ซึ่งต้องตัดกระดูกส่วนที่เป็นมะเร็งออก วิธีการนี้จะช่วยให้คนไข้อยู่ได้นานขึ้น ลดการเสียชีวิต และสามารถกลับมาเรียนจนจบได้ มีอาชีพการงานที่ดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในสังคม
อย่างไรก็ตามตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เอ็มเทค สวทช. และ รพ. เลิดสิน ร่วมกันออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าวขึ้นมา และต้องการผู้ผลิตตามสเปกที่ต้องการ โดย บริษัท คอสโม เมดิเทค จำกัด ให้ความสนใจในการผลิตอุปกรณ์ดังกล่าว และร่วมมือในการผลิตตามที่ทีมวิจัยต้องการ ใช้เวลาประมาณ 1 ปีเศษ จึงสามารถขึ้นรูปต้นแบบอุปกรณ์ “กระดูกและข้อโลหะต้นแขนเทียมส่วนบน” ได้ และสามารถผลิตออกมาใช้กับผู้ป่วยมะเร็งกระดูกต้นแขนส่วนบนได้ในที่สุด
สำหรับกระดูกเทียมท่อนแขนส่วนบนนี้ ถือเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่คนไข้ไม่สามารถเบิกได้จาก สปสช. ที่ผ่านมาต้องซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ชิ้นนี้นำเข้าจากต่างประเทศซึ่งมีราคาแพง โดยมีราคาเริ่มต้นประมาณ 150,000 บาท ดังนั้นจึงมีคนไข้จำนวนมากที่ไม่สามารถจ่ายได้ หากเราสามารถผลิตได้ภายในประเทศและมีต้นทุนต่ำ ก็จะช่วยเหลือคนไข้ได้มาก โดยเฉพาะคนไข้เด็กที่มีโอกาสผ่าตัดใส่กระดูกและข้อโลหะต้นแขนส่วนบน แล้วรักษาหายและเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวัยทำงานโดยไม่เป็นภาระกับสังคม ที่สำคัญยังมีแขน แม้ว่าจะขยับได้ไม่ 100% แต่ก็ยังมีแขนที่ขยับใช้งานได้ นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพการใช้ชีวิตของคนไข้หลังการรักษาได้
สำหรับวัสดุที่ใช้ทำ “กระดูกและข้อโลหะต้นแขนเทียมส่วนบน” มีทั้งโคบอล โคเมียม อัลลอย์ ส่วนแกนกลางของอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมกับกระดูกจริงของผู้ป่วยมะเร็งกระดูก ทำจากวัสดุไททาเนียม มีคุณสมบัติแข็งแรงทนทาน แต่เบา และเข้ากับร่างกายได้ดี ไม่เกิดการต่อต้าน ซึ่งขณะนี้ได้ทดลองนำไปใช้กับผู้ป่วยมะเร็งกระดูกแล้ว 10 ราย พบว่าไม่มีการติดเชื้อ หรือปัญหาการหลุดของชิ้นส่วนแต่อย่างใด เป็นที่พอใจของแพทย์และผู้ป่วยเป็นอย่างยิ่ง ในส่วนของการวิจัย ถือเป็นการสะสมองค์ความรู้เรื่องวัสดุทางการแพทย์ โดยเฉพาะเรื่องการทำชิ้นส่วนเทียมที่ใช้กับร่างกายมนุษย์ ซึ่งหากทำชิ้นนี้ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ในอนาคตเมื่อมีองค์ความรู้มากขึ้น ก็สามารถทำชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น ข้อเข่า สะโพก ที่มีความยากขึ้นมาอีกระดับหนึ่งได้ ปริมาณการใช้ของผู้ป่วยก็จะเพิ่มมากขึ้น คนไข้มีโอกาสได้ใช้งานในราคาที่เข้าถึงได้ หากนำเข้าจากต่างประเทศมีราคาแพงงานวิจัย “กระดูกและข้อโลหะต้นแขนเทียมส่วนบน” ของ สวทช. นี้ ตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ที่ส่งเสริมนวัตกรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการแพทย์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรม 1 ใน 10 อุตสาหกรรม New S- Curve เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ซึ่ง สวทช. ทำงานวิจัยได้ตอบโจทย์ประเทศด้วยการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่อง ใช้ประโยชน์ได้จริงและสามารถลดการพึ่งพาเทคโนโลยีการนำเข้าจากต่างประเทศ สร้างความเข้มแข็งของอุตสาหกรรมการแพทย์อย่างยั่งยืน