หน้าแรก จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.3 – 35 หน่วยงานสานพลังประชารัฐเปิดเมืองนวัตกรรมอาหาร
จดหมายข่าว สวทช. ปี 2 ฉ.3 – 35 หน่วยงานสานพลังประชารัฐเปิดเมืองนวัตกรรมอาหาร
3 มิ.ย. 2559
0
จดหมายข่าว สวทช. ย่อย

alt

alt

35 หน่วยงานสานพลังประชารัฐเปิดเมืองนวัตกรรมอาหาร​

alt

กระทรวงวิทย์ฯ เร่งสปีดเต็มสูบเมืองนวัตกรรมอาหาร รวมพลังครั้งประวัติศาสตร์ ผนึก 9 หน่วยงานรัฐ 13 บริษัทเอกชน 12 มหาวิทยาลัย และ 1 สมาคม ปักธงเป็นรูปธรรมกลางปีนี้ พร้อมขยายปีกสู่ภูมิภาคในอนาคตอันใกล้

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในฐานะได้รับมอบหมายเป็นเจ้าภาพหลักในการเดินหน้าโครงการเมืองนวัตกรรมอาหาร หรือ ฟู๊ดอินโนโพลิส (Food Innopolis) ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยให้ประสานกับกระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) สถาบันอาหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการจัดหาสิทธิประโยชน์และสิ่งจูงใจ รวมทั้งมาตรการต่างๆ มาสนับสนุน เพื่อดึงดูดบริษัทอาหารชั้นนำของโลกมาลงทุนนวัตกรรมอาหารในประเทศไทย และผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีรวมถึงนวัตกรรมสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร โดยได้มีการลงนามความร่วมมือดังกล่าว
ณ สำนักงานประสานงานเมืองนวัตกรรมอาหาร อาคารอุทยานนวัตกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยมี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธี เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2559

alt  alt

ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า ฟู๊ดอินโนโพลิสวางเป้าหมายในการสร้างนวัตกรรมด้านอาหารที่สอดคล้องกับแนวโน้มและทิศทางของตลาดอุตสาหกรรมอาหารโลก ซึ่งครอบคลุมถึงอาหารเพื่อสุขภาพและอาหารฟังก์ชั่น เช่น อาหารฟังก์ชั่นและโภชนเภสัชภัณฑ์ สารปรุงแต่งอาหารและสารสกัดทางโภชนาการ ผลิตภัณฑ์ไขมันและน้ำมันเพื่อสุขภาพ ฯลฯ อาหารพิเศษเฉพาะกลุ่ม เช่น อาหารฮาลาล อาหารโคเชอร์ อาหารสำหรับผู้ป่วย/ผู้สูงอายุ ฯลฯ ผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าเพิ่มสูง เช่น อาหารทะเลและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคุณภาพสูงเพื่อเป็นวัตถุดิบอาหาร ฯลฯ ผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้คุณภาพสูง เช่น ผลิตภัณฑ์ผักและผลไม้ออร์กานิก ฯลฯ และกิจการสนับสนุนนวัตกรรมอาหารอย่างครบวงจร เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอาหาร เทคโนโลยีบรรจุภัณฑ์ การออกแบบและการพิมพ์ บริการที่ปรึกษานวัตกรรม ฯลฯ
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ กล่าวต่อว่า ความร่วมมือระหว่าง 3 ภาคส่วนที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมอาหารในครั้งนี้ ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีของการทำงานในรูปแบบที่อาศัยกลไกประชารัฐ ตามแนวทางของรัฐบาล และถือได้ว่าเป็นครั้งแรกที่มีการจับมือกันระหว่างเอกชน รัฐ และสถาบันการศึกษาเพื่อร่วมมือกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ ซึ่งหลังจากการลงนามความร่วมมือในครั้งนี้คาดว่าจะเกิดความร่วมมือที่เป็น รูปธรรมที่ชัดเจนขึ้นระหว่างหน่วยงานที่ร่วมลงนาม เพื่อขับเคลื่อนภารกิจของเมืองนวัตกรรมอาหารให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่วางไว้ นอกจากนี้ยังมีการหารือเพื่อความร่วมมือกับบริษัทอาหารยักษ์ใหญ่จากต่างประเทศซึ่งจะมีการลงนามในโอกาสต่อไป
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่  http://www.nstda.or.th/news/22013-nstda-mou

3 มิ.ย. 2559
0
แชร์หน้านี้: