หน้าแรก เยาวชนไทยโชว์ศักยภาพ คว้าชัยโครงงานวิทย์ระดับชาติ (YSC2025) เตรียมลุยแข่งเวทีโลก Regeneron ISEF 2025 สหรัฐอเมริกา

เยาวชนไทยโชว์ศักยภาพ คว้าชัยโครงงานวิทย์ระดับชาติ (YSC2025) เตรียมลุยแข่งเวทีโลก Regeneron ISEF 2025 สหรัฐอเมริกา

6 ก.พ. 2568
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จ.ปทุมธานี: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมประกาศผลการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 27

(5 กุมภาพันธ์ 2568) ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จ.ปทุมธานี: กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดกิจกรรมประกาศผลการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 27 หรือ (Young Scientist Competition: YSC2025) ซึ่งผู้ชนะจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และโอกาสได้รับสิทธิ์คัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในงาน Regeneron ISEF 2025 สหรัฐอเมริกา

ดร.พัชร์ลิตา ฉัตรวริศพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. เป็นประธานมอบรางวัล พร้อมด้วย คุณศิรินทร์พร เดียวตระกูล ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรการวิจัยและนวัตกรรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกล่าวแสดงความยินดี รวมถึงมหาวิทยาลัยศูนย์ประสานงานโครงการ YSC ทั้ง 6 แห่งทั่วทุกภูมิภาค

โอกาสนี้ ดร.พัชร์ลิตา ฉัตรวริศพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. เป็นประธานมอบรางวัล พร้อมด้วย คุณศิรินทร์พร เดียวตระกูล ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรการวิจัยและนวัตกรรม สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ร่วมกล่าวแสดงความยินดี รวมถึงมหาวิทยาลัยศูนย์ประสานงานโครงการ YSC ทั้ง 6 แห่งทั่วทุกภูมิภาค คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ นักเรียน อาจารย์ที่ปรึกษาและผู้ปกครอง เข้าร่วมงานลุ้นการประกาศผลการประกวดดังกล่าว

ดร.พัชร์ลิตา ฉัตรวริศพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวบนเวที สวทช. ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและบ่มเพาะเยาวชนไทยให้ก้าวไปสู่เวทีระดับนานาชาติ โครงการ YSC

ดร.พัชร์ลิตา ฉัตรวริศพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. ภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนและบ่มเพาะเยาวชนไทยให้ก้าวไปสู่เวทีระดับนานาชาติ โครงการ YSC เป็นมากกว่าการประกวด แต่เป็นเวทีแห่งการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และจุดประกายแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ด้วยกระบวนการวิจัยและสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ถูกต้อง เราเชื่อมั่นว่าเยาวชนเหล่านี้จะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ และสร้างสรรค์นวัตกรรมที่จะเป็นประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติในอนาคต โครงการนี้เป็นปีที่ 27 แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสวทช. และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วนในการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทย เราขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในการสนับสนุนโครงการนี้มาโดยตลอด และขอเป็นกำลังใจให้นักเรียนทุกคนที่ได้รับรางวัลและเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันในระดับนานาชาติ

“การจัดการประกวดครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในการสนับสนุนทุนพัฒนาผลงานผ่านมหาวิทยาลัยเครือข่าย พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ในการบ่มเพาะเยาวชนพร้อมทั้งสนับสนุนเยาวชนให้เข้าร่วมการประกวด Regeneron ISEF2025 ซึ่งมีกำหนดจัดในระหว่างวันที่ 10-16 พฤษภาคม 2568 เมืองโคลัมบัส รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา และการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์อื่น ๆ ในระดับนานาชาติ” ดร.พัชร์ลิตา กล่าวเสริม

คุณศิรินทร์พร เดียวตระกูล ผู้แทนสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า วช. ในฐานะหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ได้ให้การสนับสนุน สวทช. และมหาวิทยาลัยเครือข่ายทั้ง 6 แห่ง จัดกิจกรรมโครงการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (Young Scientist Competition : YSC) มาอย่างต่อเนื่อง

คุณศิรินทร์พร เดียวตระกูล ผู้แทนสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า วช. ในฐานะหน่วยบริหารจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ได้ให้การสนับสนุน สวทช. และมหาวิทยาลัยเครือข่ายทั้ง 6 แห่ง จัดกิจกรรมโครงการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ (Young Scientist Competition : YSC) มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ พ.ศ. 2564 – ปัจจุบัน ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งส่งเสริมเยาวชนในระดับมัธยมศึกษาให้ได้รับองค์ความรู้และพัฒนาทักษะด้านโครงงานวิทยาศาสตร์ อันเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างนักวิทยาศาสตร์และนักนวัตกรรมรุ่นใหม่ของประเทศ วช. ขอแสดงความยินดีกับนักเรียนและคุณครูทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเทและพัฒนาทักษะความสามารถจนได้รับรางวัลในการประกวดในครั้งนี้ และได้รับโอกาสในการพัฒนาทักษะในระดับนานาชาติต่อไป สำหรับเยาวชนที่ไม่ได้รับรางวัลในปีนี้ วช. ขอเป็นกำลังใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าน้องๆ จะยังคงมุ่งมั่นและพัฒนาฝีมือเพื่อโอกาสต่อไปในอนาคต เราเชื่อมั่นว่าการจัดกิจกรรมการประกวดเช่นนี้ จะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้เยาวชนและพัฒนาศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์ อันจะนำไปสู่การพัฒนากำลังคนเพื่อการพัฒนาประเทศ

 

สำหรับการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ ครั้งที่ 27 ในปีนี้มีโครงงานส่งเข้าประกวดทั้งสิ้น 2,429 โครงงาน มีนักเรียนเข้าร่วม 6,442 คน และอาจารย์ที่ปรึกษา 1,555 คน จาก 326 โรงเรียนทั่วประเทศ โครงงานที่ผ่านเข้ารอบข้อเสนอเพื่อรับทุนพัฒนา 307 โครงงาน และมี 65 โครงงานจาก 41 โรงเรียนที่ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ โดยผลการประกวด มีดังนี้

 

รางวัลชนะเลิศ 3 รางวัล ได้แก่

 

BeeShield: การพัฒนาอุโมงค์ทางเข้าป้องกันไรผึ้งโดยใช้พฤติกรรมการเข้ารังของผึ้งและการตอบสนองของไร ต่อกรดฟอร์มิก

ผู้พัฒนา: ปัณณวิชญ์ ธีรนันท์พัฒธน, กฤตนน เมืองแก้ว และวิภารัศม์ ธะนะวงค์

อาจารย์ที่ปรึกษา: เกียรติศักดิ์ อินราษฎร โรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จังหวัดเชียงราย

บทเวทีมอบรางวัลชนะเลิศ  BeeShield: การพัฒนาอุโมงค์ทางเข้าป้องกันไรผึ้งโดยใช้พฤติกรรมการเข้ารังของผึ้งและการตอบสนองของไร ต่อกรดฟอร์มิก ผู้พัฒนา: ปัณณวิชญ์ ธีรนันท์พัฒธน, กฤตนน เมืองแก้ว และวิภารัศม์ ธะนะวงค์ มาพร้อมอาจารย์ที่ปรึกษา: เกียรติศักดิ์ อินราษฎร โรงเรียนดำรงราษฎร์สงเคราะห์ จังหวัดเชียงราย

โครงงานนี้พัฒนาอุโมงค์ป้องกันไรผึ้ง โดยใช้ AI แยกแยะผึ้งที่ติดไร จากพฤติกรรมการเข้ารัง และใช้ ระบบฉีดพ่นกรดฟอร์มิกอัตโนมัติ ในระดับที่ปลอดภัยต่อผึ้ง ผลการทดลองพบว่า กรดฟอร์มิก 75% สามารถกำจัดไรได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อผึ้ง เมื่อทดสอบเป็นเวลา 2 เดือน ระบบนี้ช่วยลดการติดไรของผึ้งได้ 3 เท่า ลดอัตราการตายของผึ้ง 4 เท่า และเพิ่มผลผลิตน้ำผึ้ง 4 เท่า เมื่อเทียบกับชุดควบคุม นวัตกรรมนี้จึงเป็น ทางเลือกที่ปลอดภัยและยั่งยืน สำหรับการเลี้ยงผึ้งและการอนุรักษ์ระบบนิเวศ

 

การสังเคราะห์โมเลกุลเซนเซอร์ฐานสารสีย้อมเคอร์คูมินที่สกัดจากขมิ้นชันสำหรับตรวจวัดแอลดีไฮด์สายาว ซึ่งเป็นสารบ่งชี้โรคมะเร็งปอด

ผู้พัฒนา: ธนัช ไชยมงคล

อาจารย์ที่ปรึกษา: ธีรพัฒน์ ขันใจ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงราย และบุษยรัตน์ ธรรมพัฒนกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร

บนเวที่มอบรางวัลชนะเลิศ การสังเคราะห์โมเลกุลเซนเซอร์ฐานสารสีย้อมเคอร์คูมินที่สกัดจากขมิ้นชันสำหรับตรวจวัดแอลดีไฮด์สายาว ซึ่งเป็นสารบ่งชี้โรคมะเร็งปอด
ผู้พัฒนา: ธนัช ไชยมงคล
อาจารย์ที่ปรึกษา: ธีรพัฒน์ ขันใจ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงราย และบุษยรัตน์ ธรรมพัฒนกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุงเทพมหานคร

โครงงานนี้พัฒนา อนุภาคกักเก็บโมเลกุลเซนเซอร์ EC@ccdz สำหรับการวินิจฉัยคัดกรองโรคมะเร็งปอด โดยเพิ่มความจำเพาะในการตรวจวัด nonanal (C9) ซึ่งเป็นสารบ่งชี้ทางชีวภาพ ผ่านปฏิกิริยากับ hydrazine-เคอร์คูมิน ทำให้สัญญาณฟลูออเรสเซนต์เพิ่มขึ้นและแยกแยะแอลดีไฮด์สายยาวได้อย่างแม่นยำ ด้วยการห่อหุ้มพอลิเมอร์ เอทิลเซลลูโลส (EC) เพื่อเสริมอันตรกิริยาแบบ hydrophobic interaction ส่งผลให้เกิดการจับตัวที่เสถียรและตรวจวัดได้ที่ ความยาวคลื่น 409 นาโนเมตร นอกจากนี้ยังพัฒนาชุดตรวจเชิงแสงบนกระดาษเคลือบโมเลกุลเซนเซอร์ ซึ่งสามารถตรวจวัด nonanal ในเหงื่อสังเคราะห์ ได้อย่างแม่นยำ โดยให้ขีดจำกัดการตรวจพบ (LOD) และขีดจำกัดการตรวจวัด (LOQ) ที่ 0.898 และ 2.994 µg/mL ตามลำดับ เทคโนโลยีนี้มีศักยภาพในการพัฒนาเป็นชุดทดสอบคัดกรองมะเร็งปอดที่ง่ายและมีประสิทธิภาพสูง

 

โครงงานการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ Low Carbon สำหรับป้องกันไฟฟ้าสถิตและสารเคมีจากเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ร่วมกับฟางข้าว

ผู้พัฒนา: ชวกร สงจันทร์, ปัณณพงค์ สงขกุล และทุกกร ประโพพิศ

อาจารย์ที่ปรึกษา: จันทร์จิรา ชัยอินทรีอาจ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่

รางวัลชนะเลิศ โครงงานการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ Low Carbon สำหรับป้องกันไฟฟ้าสถิตและสารเคมีจากเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ร่วมกับฟางข้าว ผู้พัฒนา: ชวกร สงจันทร์, ปัณณพงค์ สงขกุล และทุกกร ประโพพิศ อาจารย์ที่ปรึกษา: จันทร์จิรา ชัยอินทรีอาจ โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่

โครงงานนี้พัฒนาบรรจุภัณฑ์ป้องกันไฟฟ้าสถิตและสารเคมีจากเศษข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผสมเยื่อฟางข้าว เพื่อลดขยะเกษตรและทดแทนวัสดุสังเคราะห์ โดยได้พัฒนาสูตรวัสดุผสมคาร์บอนรูพรุนและเยื่อฟางข้างเป็น 7 สูตร พบว่า สูตรที่ 3 อัตราส่วนคาร์บอนรูพรุนต่อเยื่อฟางข้าวเป็น 1:1 มีความแข็งแรงสูง สามารถป้องกันการซึมผ่านของสารเคมีได้ดี ขณะที่สูตรที่ 6 อัตราส่วนเป็น 1:4 มีค่าความจุไฟฟ้าสูง เหมาะสำหรับป้องกันไฟฟ้าสถิต นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 45-63% และใช้พลังงานต่ำกว่าพลาสติกทั่วไป จึงเป็นทางเลือกที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม

ผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศทั้ง 3 ทีม จะได้รับถ้วยพระราชทานฯ ในงานประชุมวิชาการประจำปี สวทช. (NAC2025) วันที่ 27 มีนาคม 2568 และจะได้รับการบ่มเพาะเสริมศักยภาพเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาโครงงานต่อยอดภายใต้การดูแลของนักวิจัย สวทช. ผู้เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องจากหน่วยงานชั้นนำในประเทศไทย ไปพร้อมกับน้องๆ ผู้ได้รับรางวัลที่ 1 และที่ 2 อีกกว่า 50 คน ก่อนคัดเลือกและประกาศผลเยาวชนตัวแทนประเทศไทยที่จะได้เดินทางไปแข่งขันในเวที Regeneron ISEF 2025 ระหว่างวันที่ 10-16 พฤษภาคมนี้

นอกจากนี้ยังมีโครงงานที่ได้รับรางวัลที่ 1 จำนวน 8 รางวัล รางวัลที่ 2 จำนวน 10 รางวัล และรางวัลชมเชยอีก 12 รางวัล รวมถึงรางวัลพิเศษอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 14 รางวัลจากผู้สนับสนุน ได้แก่ สวทช. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และบริษัท รีเวสเทค จำกัด อาทิ รางวัลด้านนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน รางวัลพิเศษนวัตกรรมรักษ์โลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รางวัลพิเศษนวัตกรรมด้านการแก้ปัญหาร่วมสมัย เป็นต้น

ภาพหมู่โครงงานที่ได้รับรางวัลที่ 1 จำนวน 8 รางวัล รางวัลที่ 2 จำนวน 10 รางวัล และรางวัลชมเชยอีก 12 รางวัล รวมถึงรางวัลพิเศษอื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 14 รางวัลจากผู้สนับสนุน ได้แก่ สวทช. มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และบริษัท รีเวสเทค จำกัด อาทิ รางวัลด้านนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน รางวัลพิเศษนวัตกรรมรักษ์โลกเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน รางวัลพิเศษนวัตกรรมด้านการแก้ปัญหาร่วมสมัย เป็นต้น

“สวทช. ขอขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษาโครงงานทุกท่าน ที่เสียสละเวลาและความรู้ความสามารถในการพัฒนาเยาวชนไทย ขอขอบคุณผู้บริหารโรงเรียนทุกท่านที่สนับสนุนให้นักเรียนและอาจารย์ได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ และขอขอบคุณมหาวิทยาลัยศูนย์ประสานงานทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากร ที่ร่วมเป็นส่วนสำคัญในการจัดการประกวดโครงงานของนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ในครั้งนี้” ดร.พัชร์ลิตา กล่าวทิ้งท้าย

นอกจากการแข่งขันแล้ว โครงการยังมีการอบรมเสริมทักษะแก่นักเรียนและอาจารย์ที่ปรึกษา นำเยาวชน YSC สร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ให้โรงเรียนทั่วประเทศ จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่าย และเปิดโอกาสให้เยาวชนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ YSC Education Outreach Day เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรอีกด้วย

มี 5 คนอยู่บนเวทีเพื่ออบรมเสริมทักษะแก่นักเรียนและอาจารย์ที่ปรึกษา นำเยาวชน YSC สร้างแรงบันดาลใจด้านวิทยาศาสตร์ให้โรงเรียนทั่วประเทศ จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่าย และเปิดโอกาสให้เยาวชนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ YSC Education Outreach Day เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่าย และเปิดโอกาสให้เยาวชนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ YSC Education Outreach Day เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร
จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่าย และเปิดโอกาสให้เยาวชนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ YSC Education Outreach Day เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร จัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างเครือข่าย และเปิดโอกาสให้เยาวชนแลกเปลี่ยนประสบการณ์ YSC Education Outreach Day เยี่ยมชมห้องปฏิบัติการบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร

//////

ข่าวโดย พัชรพร แววนิล และ วราภรณ์ โลหะเลิศ คณะนิเทศศาสตร์ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์

แชร์หน้านี้: