หน้าแรก สวทช. ร่วมหน่วยงานพันธมิตรสิงคโปร์ชูกิจกรรมเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านสะเต็มศึกษา ฝึกฝนเยาวชนผ่านประสบการณ์จริง
สวทช. ร่วมหน่วยงานพันธมิตรสิงคโปร์ชูกิจกรรมเพิ่มพูนประสบการณ์ด้านสะเต็มศึกษา ฝึกฝนเยาวชนผ่านประสบการณ์จริง
9 ม.ค. 2567
0
ข่าว
ข่าวประชาสัมพันธ์

เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2567 ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ได้กล่าวถึงผลการสอบ PISA วัดความรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และอ่านวิเคราะห์ว่า เด็กทั่วโลก 81 ประเทศ ประเทศไทยได้ที่ 58 โดยด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ต่ำสุดรอบ 20 ปี  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) มีพันธกิจหนึ่งในการพัฒนากำลังคนทางวิทยาศาสตร์  ดังนั้นการพัฒนาแหล่งเรียนรู้และกิจกรรมเพิ่มพูนประสบการณ์ให้เด็กไทยได้เชื่อมโยงปรากฏการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันและโลก และมีสมรรถนะสำคัญต่าง ๆ เช่น สมรรถนะด้านวิทยาศาสตร์ สมรรถนะด้านเทคโนโลยี  รู้จักวิเคราะห์และมีกระบวนการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดีขึ้น จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก การมาประชุมหารือและศึกษาแนวทางบริหารจัดการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบสิงคโปร์ ทำให้เห็นมุมมองการพัฒนาเยาวชนที่สิงคโปร์ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นประเทศที่ได้คะแนนสอบสูงสุดในทุกทักษะ เพื่อนำไปพัฒนากิจกรรมเพิ่มพูนประสบการณ์ ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร ภายใต้การดูแลของ สวทช. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ ฝึกทักษะและพัฒนาศักยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับเด็กและเยาวชนผู้มีความสนใจและมีความสามารถพิเศษด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สถาบันเทคโนโลยีและการออกแบบสิงคโปร์ เป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำของสิงคโปร์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยีและการออกแบบ ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2553 ขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักศึกษาในยุคดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วในโลกปัจจุบัน โดยมีหลักสูตรที่ผสานรวมความรู้ทางวิศวกรรมศาสตร์ การออกแบบ สถาปัตยกรรม และการจัดการเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สถาบันมุ่งมั่นในการผลิตบัณฑิตที่มีความคิดสร้างสรรค์และสามารถแก้ไขปัญหาได้หลากหลายวิธี และมีความเข้าใจในเทคโนโลยีอย่างลึกซึ้ง เพื่อให้สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต เหมาะสำหรับนักศึกษาที่สนใจในการเรียนรู้และทำงานในด้านเทคโนโลยีและการออกแบบในระดับสูง โดย Fabrication Lab ของสถาบันเทคโนโลยีและการออกแบบสิงคโปร์ (SUTD) เป็นสถานที่ที่มีความสำคัญอย่างมากในการสนับสนุนการเรียนรู้และการวิจัยในด้านเทคโนโลยีและการออกแบบ  โดยนักศึกษาและคณาจารย์สามารถทำการทดลอง, สร้างสรรค์และทดสอบโครงการต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

ดร.พัชร์ลิตา ฉัตรวริศพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า การที่ได้ลงนามความร่วมมือด้านวิชาการกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและการออกแบบสิงคโปร์ จึงเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการพัฒนาและส่งเสริมเยาวชนผ่านประสบการณ์จริง ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร มีโรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรมหรือ Fabrication Lab เพื่อพัฒนาทักษะความเป็นนวัตกรแก่เด็กและเยาวชนไทย โดยให้ครูและนักเรียนได้ฝึกฝนทางเทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และการออกแบบ  สนับสนุนการเรียนรู้และการวิจัยในด้านเทคโนโลยีและการออกแบบ ทั้งนี้บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรมีความพร้อมด้านเครื่องมือเพื่อให้เยาวชนสามารถเปลี่ยนจินตนาการให้เป็นต้นแบบได้ โดยมีทั้งเครื่องพิมพ์สามมิติ เครื่องตัดด้วยเลเซอร์ และพื้นที่สำหรับการทำงานด้านการประดิษฐ์และเวิร์กช็อปโดยมีวิศวกรบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธรให้คำปรึกษาแนะนำ

นางฤทัย จงสฤษดิ์  ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ หลักสูตร และสื่อการเรียนรู้ กล่าวเสริมว่า โรงประลองต้นแบบทางวิศวกรรม ได้จัดตั้งขึ้นในปี 2561 มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะสะเต็มและความเป็นนวัตกรแก่เด็กและเยาวชนไทย และพัฒนากิจกรรมสำหรับนักเรียนและครู ให้มี ทักษะด้านวิศวกรรม มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สร้างชิ้นงานโดยการใช้เครื่องมือทางวิศวกรรม และเครื่องมือวัดทางวิทยาศาสตร์ การดำเนินงานมีโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาเข้าร่วมโครงการ 150 โรงเรียน และมีมหาวิทยาลัยทำหน้าที่มหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง จำนวน 10 มหาวิทยาลัย ผลจากการดำเนินงาน มีกิจกรรมส่งเสริมทักษะสะเต็มที่จัดโดยบ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สวทช. และมหาวิทยาลัยพี่เลี้ยง รวมทั้งสิ้น 147 ครั้ง มีนักเรียนได้รับประโยชน์ผ่านการเรียนรู้และการลงมือปฏิบัติในห้อง FabLab 27,721 คน ครูได้รับการพัฒนา 2,179 คน มีผลงานนวัตกรรม/สิ่งประดิษฐ์เกิดขึ้นจากนักเรียนในโรงเรียนที่ร่วมโครงการจำนวนกว่า 532 ผลงาน และส่งผลงานเข้าประกวดในเวทีระดับชาติและนานาชาติ  279 ผลงาน ตัวอย่างผลงานสิ่งประดิษฐ์จาก FabLab ที่ได้ใช้ได้จริง ได้แก่ เครื่องอบสมุนไพร โดยวิทยาลัยเทคนิคสกลนคร โรงเรือนเอื้องแซะ โดยโรงเรียนแม่สะเรียง “บริพัตรศึกษา” หุ่นยนต์ปลูกและดูแลพืชอัตโนมัติ ควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน โดยโรงเรียนสาธิตวิทยาการอิสลาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ระบบการแจ้งเตือนการตรวจจับการลอกคราบปูโดยอัตโนมัติผ่านแอปพลิเคชัน จากโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย สตูล การติดตามบาตรพระ โดยใช้ GPS และเครื่องแยกขยะโดยใช้ AI โดยโรงเรียนส่วนบุญโญปถัมภ์ จังหวัดลำพูน เครื่องตรวจจับฝุ่น และรถเข็นอัจฉริยะสำหรับคนพิการ โดยโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ธนบุรี เครื่องสอนปั๊มหัวใจ โดยโรงเรียนสุราษฎร์พิทยา หมวกนิรภัยอัจฉริยะสำหรับแจ้งเตือนภัยเมื่อเกิดอุบัติเหตุ โดยโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม อุปกรณ์ช่วยต่อลมหายใจฉุกเฉินในรถยนต์ โดยโรงเรียนวิสุทธรังสี เป็นต้น

9 ม.ค. 2567
0
แชร์หน้านี้: