หน้าแรก ทอพ. ประกาศเจตนารมณ์ พัฒนาสู่องค์กรที่มีสมรรถนะ-มีธรรมาภิบาลสูงชงข้อเสนอต่อรัฐบาล หนุน 16 องค์กรเฉพาะ เกิดจากแนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ต้องอิสระ คล่องตัวสูง ช่วยขับเคลื่อน พันธกิจรัฐบาลสำเร็จเร็วขึ้น
ทอพ. ประกาศเจตนารมณ์ พัฒนาสู่องค์กรที่มีสมรรถนะ-มีธรรมาภิบาลสูงชงข้อเสนอต่อรัฐบาล หนุน 16 องค์กรเฉพาะ เกิดจากแนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ต้องอิสระ คล่องตัวสูง ช่วยขับเคลื่อน พันธกิจรัฐบาลสำเร็จเร็วขึ้น
23 มี.ค. 2561
0
ข่าวประชาสัมพันธ์

23 มี.ค. 2561 ณ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ – ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช). พร้อมด้วย ดร.ลดาวัลย์ กระแสร์ชล รองผู้อำนวยการ สวทช. นางพัชรียา กุลานุช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. และบุคลากร สวทช. เข้าร่วมงานประชุมวิชาการที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) ครั้งที่ 5 หัวข้อ “New Public Management: Thailand 4.0” การจัดการภาครัฐแนวใหม่ : ไทยแลนด์ 4.0 ซึ่งจัดขึ้นโดย ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) ที่มีสมาชิกองค์กรจำนวน 16 หน่วยงาน

เพื่อรับฟังและแลกเปลี่ยนเรียนรู้การทำงานร่วมกับผู้บริหาร และบุคลากร ที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) อีกจำนวน 15 องค์กร โดยมี ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช เป็นประธานเปิดงาน และโอกาสนี้ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้อำนวยการ สวทช. ได้ร่วมเสวนาในหัวข้อ “องค์การ พ.ร.บ.เฉพาะ : การบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ (New Public Management) ผลการดำเนินงาน และหรือ best practice การบริหารจัดการที่น่าสนใจ” พร้อมกับผู้บริหารหน่วยงาน ทอพ. ได้แก่ สสส. สกว. และ สทบ.

ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในฐานะ ประธานที่ประชุมผู้บริหารองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ (ทอพ.) กล่าวว่า การรวมตัวกันของ ทอพ. มีเจตนารมณ์เดียวกัน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยตามแนวคิดการจัดการภาครัฐแนวใหม่ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ประสานพลังสร้างการจัดการองค์กรภาครัฐที่มีประสิทธิภาพสูงเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” เพื่อมุ่งสู่ Thailand 4.0 ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน มีเป้าหมายให้ประเทศก้าวออกจากกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง กับดักความเหลื่อมล้ำ สู่ประเทศที่มีรายได้สูง โดยใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในหลายๆ ด้าน อาทิ ด้านสาธารณสุข ด้านการศึกษา ด้านความมั่นคงเทคโนโลยีและอุตสาหกรรม ทาให้หน่วยงานรัฐต่างๆ ต้องเร่งปรับตัว เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้องค์กรมีขีดสมรรถนะสูงและทันสมัย

 

ดร.สุปรีดา กล่าวต่อว่า ทอพ. ได้ร่วมกันประกาศเจตนารมณ์และจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในการพัฒนาองค์กร ทอพ. ไปสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาล เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน และได้รับความไว้วางใจเป็นที่พึ่งของประชาชนอย่างแท้จริง ดังนี้
1. ประสานพลังและบูรณาการอย่างเป็นรูปธรรม โดยเพิ่มบทบาทการให้ข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาล การดำเนินงานตอบสนองยุทธศาสตร์ชาติ ร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา และสร้างภูมิคุ้มกันแก่ชุมชนและสังคมเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน
2. เร่งพัฒนาไปสู่การเป็นองค์กรสมรรถนะสูงและมีธรรมาภิบาล มีความคล่องตัวในการบริหารจัดการ มีประสิทธิภาพ โปร่งใส ประสานทรัพยากรร่วมกัน สร้างนวัตกรรมแนวคิดใหม่ในการแก้ปัญหา
3.จัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่รัฐบาลและหน่วยงานที่กำกับองค์กรภาครัฐ เพื่อพัฒนา 16 องค์กรเฉพาะให้สามารถดำเนินการตามพันธกิจของแต่ละองค์กรได้อย่างเป็นอิสระและคล่องตัวมากขึ้น ที่สำคัญช่วยการขับเคลื่อนพันธกิจของรัฐบาลได้ให้สำเร็จ โดยทบทวนข้อกำหนด ข้อบังคับที่เป็นอุปสรรคในการทำงาน โดยมุ่งยึดแนวทางการบริหารจัดการองค์กร และกลไกการกำกับตามที่ได้ออกแบบและระบุไว้ในพระราชบัญญัติเฉพาะของแต่ละองค์กรเป็นหลัก

ทั้งนี้ ทอพ. มีสมาชิกเป็นองค์กรของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะจำนวน 16 หน่วยงานที่มีพันธกิจแตกต่างกันใน 4 มิติ ได้แก่ ด้านสุขภาพ ด้านการศึกษา ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และด้านกองทุนสนับสนุน อาทิ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และสถาบันอนุญาโตตุลาการ (THAC) ฯลฯ

23 มี.ค. 2561
0
แชร์หน้านี้: