หน้าแรก รัฐมนตรีวิทย์ฯ และคณะ เยี่ยมบริษัทโมบิลอาย, องค์กร Startup อิสราเอล พร้อมเข้าร่วมประชุม “Thinking out of the Box” เสริมแกร่งด้าน วทน. ไทย เพื่อความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน
รัฐมนตรีวิทย์ฯ และคณะ เยี่ยมบริษัทโมบิลอาย, องค์กร Startup อิสราเอล พร้อมเข้าร่วมประชุม “Thinking out of the Box” เสริมแกร่งด้าน วทน. ไทย เพื่อความมั่นคง มั่นคั่ง ยั่งยืน
31 พ.ค. 2561
0
ข่าวประชาสัมพันธ์

ณ เยรูซาเล็ม ประเทศอิสราเอล : ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมด้วยผู้บริหาร สวทช. หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เยี่ยมชมบริษัท Mobileye จำกัด  และหารือ Israel Innovation Authority (IIA) องค์กรภาครัฐของประเทศอิสราเอลที่ให้การสนับสนุน SMEs และ Startup

พร้อมกับเข้าร่วมประชุม International Ministerial Level Scientific Conference “Thinking out of the Box”– Celebrating Seventy Years of Israel Scientific Innovation in the Service of Humanity เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือและเสริมแกร่งการวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมของประเทศ ขับเคลื่อนไทยแลนด์ 4.0

ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า เยี่ยมชมบริษัท Mobileye จำกัด เป็นบริษัท Startup บริษัทที่เชี่ยวชาญด้าน Advanced Driver Assist Systems (ADAS) พัฒนาเซ็นเซอร์, Mapping รวมถึงซอฟต์แวร์หลายชนิดสำหรับรถไร้คนขับ เพื่อการใช้รถที่ปลอดภัย และลดอุบัติเหตุบนท้องถนน (บริษัทอินเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ซื้อกิจการไปดำเนินการไปเมื่อปีที่แล้ว) จากการประชุมร่วมกันฝ่ายไทยมีความสนใจจะศึกษาความเป็นไปได้ที่จะร่วมมือกับ Mobileye เพื่อส่งเสริมการสร้างและใช้งานนวัตกรรมด้าน Disruptive Technology (เทคโนโลยีเปลี่ยนโลกได้แก่ เทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าและสามารถเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต การประกอบธุรกิจ และเศรษฐกิจ), Dual-use Technology (เทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองประโยชน์การใช้งานทั้งด้านการทหารและพลเรือน) และ การยกระดับเมืองในประเทศไทยให้เป็น Smart City ในสามจังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ และ ชลบุรี ตามแนวนโยบาย Regulatory Sandbox ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มุ่งส่งเสริมให้เกิดการทดสอบและพัฒนานวัตกรรมเพื่อเร่งกระบวนการพัฒนานวัตกรรมในประเทศ และส่งเสริมธุรกิจเทคโนโลยีและนวัตกรรม ซึ่ง Mobileye จะส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมหารือความสนใจและแนวทางความร่วมมือกับฝ่ายไทยตามคำเชิญของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภายในปีนี้

 

นอกจากนี้ยังได้เข้าพบเพื่อหารือกับ Mr. Aharon Aharon, CEO, Israel Innovation Authority (IIA) องค์กรอิสระที่สำคัญของรัฐอิสราเอลที่รับผิดชอบตั้งแต่นโยบายด้านนวัตกรรมของประเทศ ไปจนถึงการสร้างระบบนิเวศที่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนานวัตกรรมและเศรษฐกิจของอิสราเอลโดยรวม นอกจากนั้น IIA มีพันธกิจในการติดตามและวิเคราะห์พลวัตรของนวัตกรรมอิสราเอลและต่างประเทศ รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศเพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีอันจะเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของอิสราเอล IIA ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการ ธุรกิจนวัตกรรมอิสราเอลในทุกระดับ

 

รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดการเชื่อมโยงด้านลงทุนของ Multinational Company เพื่อส่งเสริมให้เกิดการส่งออกเทคโนโลยีของอิสราเอลสู่ตลาดโลกอันจะนำมาซึ่งผลกระทบเชิงเศรษฐกิจ ในด้านความร่วมมือระหว่าง IIA และ ประเทศไทย IIA อยู่ในระหว่างการเตรียมลงนามความร่วมมือกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เพื่อสนับสนุนความร่วมมือระหว่าง ผู้ประกอบการ และธุรกิจนวัตกรรมของสองประเทศ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯมีความสนใจที่จะผลักดันความร่วมมือในสาขาเทคโนโลยี ดังนี้ เทคโนโลยีด้านการเกษตร (Agri tech), เทคโนโลยีเพื่อการใช้งานเชิงการทหารและพลเรือน (Dual-use Technology) และ เทคโนโลยีด้านสุขภาพและการแพทย์ (Health tech) ทั้งนี้ IIA ได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และคณะเดินทางไทยร่วมงานประชุมด้านไซเบอร์ในเดือนพฤศจิกายน 2561 ที่กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลด้วย

ดร.สุวิทย์ ฯ กล่าวเสริมว่า นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมประชุมงาน International Ministerial Level Conference “Thinking out of the Box”– Celebrating Seventy Years of Israel Sciencetific Innovation in the Service of Humanity ซึ่งการประชุมฉลองครบรอบ 70 ปีของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศอิสราเอล ที่ส่งเสริมนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการให้บริการของมนุษยชาติ เป็นการประชุมระดับรัฐมนตรีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และผู้แทนเข้าร่วม ประชุมจำนวนกว่า 21 ประเทศ โดยมี MK. Ofir AKumis รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้การต้อนรับ พร้อมร่วมรับฟังปาฐกถาของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน นาทันยาฮู กล่าวให้นโยบายในอนาคตของประเทศอิสราเอลว่า “จะดำเนินการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีโดยเน้นเรื่องทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (Basic Science) เช่น Quantum Computing, Data Science, รวมถึงคณิตศาสตร์ควอนตัม ซึ่งเทคโนโลยีเป็นแค่ครึ่งหนึ่งของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นส่วนหนึ่งของการนำวิทยาศาสตร์ไปใช้งาน แต่วิทยาศาสตร์พื้นฐานเองนั้นมีความสำคัญมากต่ออนาคตและความมั่นคงของอิสราเอล”

 

อีกทั้งยังได้ร่วมอภิปราย What is a Start-up Nations และกล่าวว่า ประเทศไทยมีการพัฒนาเพื่อให้หลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาน และความเหลื่อมล้ำ โดยรัฐบาลมีนโยบายในการขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ให้ความสำคัญที่ครอบคลุม 3 ส่วนคือ Innovative Economy, Distributive Economy และ Circular Economy มีเป้าหมายหลักในส่วนของไบโอเทคโนโลยีได้แก่ Food and Agriculture, Health, Bioeconomy รวมถึงส่งเสริม 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย (10 S-cuvre) ซึ่งจะช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

 

อีกทั้งกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ได้ดำเนินการโครงการเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EECi: Eastern Economic Corridor of Innovation), Startup, Regional Science Parks (ส่งเสริมด้านงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมเชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพ รวมถึงทำให้เกิดความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษา และภาคเอกชน), Food Innopolis และการพัฒนาย่านนวัตกรรม (Innovative Districts) ทั้งนี้ กระทรวงวิทยศาสตร์ฯ จะรวมกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มีเป้าหมายในการบริหารจัดการ และ funding agencies เพื่อสร้างความเข็มแข็งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ซึ่งการเยี่ยมและเข้าร่วมประชุมนี้ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนา วทน., Startup และเกษตรกรของไทยเป็นอย่างมาก กระทรวงวิทย์ฯ จะนำกรณีตัวอย่างที่ดีเหล่านี้ไปพัฒนาต่อยอดและยกระดับ วทน. ต่อไป

31 พ.ค. 2561
0
แชร์หน้านี้: