ขั้นตอนการเปิดเผยชุดข้อมูลสำหรับข้อมูลเปิดภาครัฐ
จากบทความแนะนำข้อมูลเปิดภาครัฐ หลังจากพิจารณาเตรียมข้อมูลเพื่อเปิดเผย ต่อไปเป็นขั้นตอนเปิดเผยชุดข้อมูล ที่หน่วยงานจะต้องดำเนินการเพื่อเปิดเผยสู่สาธารณะ โดยมีทั้งหมด 10 ขั้นตอน
ขั้นตอน 1 สำรวจชุดข้อมูลที่มีอยู่ในหน่วยงาน
พิจารณาในหน่วยงานของท่านว่า มีการทำธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance) แล้วหรือไม่
- กรณี หน่วยงานมีการทำธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance)
– เข้าไปดูที่ Data Catalog ที่ได้จัดทำไว้ และนำข้อมูลที่ถูกจัดชั้นความลับว่าเป็น “ข้อมูลสาธารณะ” แล้วนำเข้าสู่ ขั้นตอน 2 เพื่อพิจารณาเพิ่มเติมชุดข้อมูลที่ ควรนำมาเปิดเผย
- กรณี หน่วยงานไม่มีการทำธรรมาภิบาลข้อมูล (Data Governance)
– ให้ทำการสำรวจข้อมูลภายในหน่วยงาน ให้นำข้อมูลที่เป็น “ข้อมูลสาธารณะ” สามารถเปิดเผย ไปพิจารณาเพิ่มเติมตาม ขั้นตอน 2
ขั้นตอน 2 พิจารณาชุดข้อมูลที่ควรจะนำมาเปิด
หลังจากได้ “ข้อมูลสาธารณะ” มาแล้ว ก็ต้องมาระบุชุดข้อมูลที่จะนำไปเปิดเผยว่าเป็นชุดข้อมูลประเภทใด มีความสำคัญอย่างไร และนำไปใช้ในทิศทางใด โดยพิจารณาตาม
ลักษณะอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้
- กฎหมายกำหนดให้เปิดเผย เช่น ข้อมูลแผนงาน โครงการ สัญญาสัมปทาน
- เปิดตามภารกิจของหน่วยงาน เช่น ข้อมูลเชิงสถิติการให้บริการ
- มีประโยชน์ต่อผู้พัฒนาในการนำไปพัฒนาบริการภาครัฐ เช่น ข้อมูลสถิติต่าง ๆ
- มีประโยชน์ต่อกลุ่มผู้ใช้งาน เช่น ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท ข้อมูลการขนส่ง ข้อมูลการเกิดอาชญากรรม
- สร้างความโปร่งใส คือ ผู้ใช้สามารถนำไปวิเคราะห์เพื่อป้องกันการทุจริต เช่น ข้อมูลด้านงบประมาณ ค่าใช้จ่ายของภาครัฐ และการจัดซื้อจัดจ้าง
ขั้นตอน 3 จัดลำดับความสำคัญ
โดยพิจารณาจากหลักเกณฑ์ต่อไปนี้
- คุณค่าของแต่ละชุดข้อมูล
- คุณภาพของชุดข้อมูล
- การบริหารจัดการของชุดข้อมูลเปิด
- หากมีคุณค่าสูง ข้อมูลที่มีอยู่มีคุณภาพ และอยู่ในรูปแบบที่สามารถเปิดเผยได้ ก็ควรพิจารณาให้เปิดเผยก่อน
ขั้นตอน 4 การรวบรวมจัดทำชุดข้อมูล
เนื่องจากข้อมูลอาจจะมาจากหลายส่วนงานภายใน จึงต้องมีการจัดทำออกมาเป็นชุดข้อมูลก่อนเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
ขั้นตอน 5 การจำแนกประเภทข้อมูลและตัวอย่าง
ต้องทำให้มั่นใจก่อนว่า ข้อมูลที่จะนำมาเปิดเผยถูกจำแนกว่าเป็นข้อมูลที่สามารถเปิดเผยได้ โดยสามารถพิจารณาตามคำถามต่อไปนี้
- เป็นข้อมูลเปิดตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 ใช่หรือไม่
- หากใช่ สามารถเปิดเผยได้
- หากไม่ใช่ ให้พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
- เป็นข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงฯ ตาม พ.ร.บ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และพ.ร.บ.ข่าวกรองแห่งชาติ พ.ศ. 2562ใช่หรือไม่
- หากใช่ ไม่สามารถเปิดเผยได้
- หากไม่ใช่ ให้พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
- เป็นข้อมูลส่วนบุคคลฯ ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 หรือ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540ใช่หรือไม่
- หากใช่ ให้พิจารณาว่าได้รับอนุญาตให้เปิดเผยได้ ใช่หรือไม่
- หากใช่ สามารถเปิดเผยได้
- หากไม่ใช่ ไม่สามารถเปิดเผยได้
- หากไม่ใช่ ให้พิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
- เป็นข้อมูลที่มีกฎหมายเฉพาะให้เปิดเผย ใช่หรือไม่
- หากใช่ สามารถเปิดเผยได้
- หากไม่ใช่ ไม่สามารถเปิดเผยได้
- ทั้งนี้หลังจากจำแนกชุดข้อมูล จะต้องพิจารณาเรื่องต่อไปนี้ด้วย
- คุณภาพของชุดข้อมูล ชุดข้อมูลที่คุณภาพต่ำไม่ควรนำมาเปิดเผยหรือเผยแพร่จนกว่า จะมีการควบคุมคุณภาพของข้อมูลให้สูงขึ้นในระดับที่ยอมรับให้เปิดเผยได้
- สิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ข้อมูลเปิดภาครัฐจะต้องไม่มีข้อห้ามเรื่องลิขสิทธิ์สิทธิบตัรเครื่องหมายการค้า หรือข้อจ ากัดในเชิงการค้า (Open License) ในการนำชุดข้อมูลดังกล่าว ไปเปิดเผย และสามารถใช้งานได้โดยอิสระ ไม่เสียค่าใช้จ่าย
ขั้นตอน 6 การเตรียมความพร้อมก่อนนำขึ้นเผยแพร่
ทำให้อยู่ในรูปแบบเปิด ทำให้อยู่ในรูปแบบเปิดมากที่สุด เช่น มีชุดข้อมูลอยู่ในไฟล์ .pdf ก็ให้ทำการแปลงเป็นไฟล์รูปแบบอื่น เพื่อทำให้เครื่องอ่านได้ เช่น .csv
- การแปลงไฟล์ ที่ทำให้สามารถเปิดเผยได้
- ตรวจสอบคุณภาพ – กำจัดข้อมูลซ้ำ ทำให้ไม่มีข้อมูลว่าง
- ตรวจสอบความต้องกัน – รูปแบบวันที่ รูปแบบเวลา
- ตรวจสอบมาตรฐาน – รหัสมาตรฐาน เช่น UN/LOCODE
- กำหนดความถี่ในการปรับปรุง กำหนดว่าชุดข้อมูลนี้ ต้องปรับปรุงหรือไม่ หากมี ความถี่เป็นอย่างไร จะใช้วิธีใดในการปรับปรุง
- Metadata ต้องมีการจัดทำเมทาดาตาเพื่อความสะดวกกับผู้ใช้งาน ซึ่งเป็นความต้องการขั้นต่ำในการเปิดเผยชุดข้อมูลเปิด
ขั้นตอน 7 การขออนุมัติ
การเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐจะต้องได้รับอนุมัติจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐในการเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐ
ขั้นตอน 8 เปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐผ่านช่องทาง
มี 2ช่องทาง หลัก ๆ ที่แนะนำเพื่อให้ข้อมูลไม่ซ้ำซ้อนกัน
- ผ่านศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ หน่วยงานของรัฐต้องดำเนินการเผยแพร่ชุดข้อมูลให้เป็นไปตามกลุ่มข้อมูลเปิดภาครัฐที่ศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐได้มีการกำหนดไว้ โดย สพร.
ผู้พัฒนาศูนย์กลางข้อมูลเปิดภาครัฐ (Data.go.th) เพื่อให้หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานสามารถนำข้อมูลที่สามารถเปิดเผยได้มาเปิดเผย
- ผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานเอง หากหน่วยงานของรัฐมีชุดข้อมูลที่เปิดเผยไปแล้วผ่านเว็บไซต์ของหน่วยงานเอง ผู้รับผิดชอบในการนำข้อมูลเปิดของหน่วยงานสามารถ
เชื่อม API มาที่ทางแพลตออร์มที่ สพร. มีให้บริการได้
ขั้นตอน 9 การวัดผล
ต้องกำหนด “แผนการวัดผล” เพื่อนำแผนการไปปรับปรุง และพัฒนาข้อมูลเปิดภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น
- กำหนดแผนปรับปรุง ชุดข้อมูลที่นำขึ้นเปิดเผยแล้ว (Existing Datasets) โดยพิจารณาจาก
- ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับชุดข้อมูล
- ข้อร้องเรียน
- กำหนดแผนการนำเข้าชุดข้อมูลใหม่ ๆ โดยพิจารณาชุดข้อมูลที่มีแนวโน้มควรเปิดเผย (Potential Datasets) ตัวอย่างข้อมูลเหล่านี้ หาได้จาก
- ชุดข้อมูลภายในประเทศที่มีคนต้องการ แต่ยังไม่มีการเปิดเผย
- ชุดข้อมูลที่มีคุณค่าของต่างประเทศ
- ชุดข้อมูลที่ถูกนำไปใช้พัฒนาบริการต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ
ขั้นตอน 10 การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ผลที่ได้จาก ขั้นตอน 8 ต้องนำมาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ข้อมูลที่ได้มีการเปิดเผยไปแล้วมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีหลักการปรับปรุงเบื้องต้นดังนี้
- แก้ไข ปรับปรุง ข้อมูลเดิม ที่ยังมีข้อผิดพลาดอยู่
- ปรับปรุง ข้อมูลเดิมให้มีคุณภาพมากขึ้น
- เพิ่มชุดข้อมูลตามความต้องการของผู้ใช้
- เพิ่มชุดข้อมูลให้ทันสมัย
- กำหนดเป้าหมายให้เปิดเผยเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี
- จัดทำ High Value Datasets
แหล่งข้อมูล : https://www.dga.or.th/wp-content/uploads/2021/03/ราชกิจจานุเบกษา_เปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลต่อสาธารณะ.pdf
ข้อมูลเปิดภาครัฐ
ข้อมูลที่หน่วยงานของรัฐต้องเปิดเผยต่อสาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลที่สามารถเข้าถึงและใช้ได้อย่างเสรี ไม่จำกัดแพลตฟอร์ม ไม่เสียค่าใช้จ่าย เผยแพร่ ทำซ้ำหรือใช้ประโยชน์ได้โดยไม่จำกัดวัตถุประสงค์
คุณลักษณะแบบเปิด โดยคุณลักษณะของไฟล์ที่ไม่ถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ จากเจ้าของข้อมูล สามารถเข้าถึงได้อย่างเสรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ใช้งานหรือประมวลผลได้หลากหลายซอฟต์แวร์
ประโยชน์ของการเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐ
- ช่วยให้เกิดความโปร่งใสในการบริหารประเทศ
- ช่วยสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
- ช่วยสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในการบริหารประเทศ
ขั้นตอนสำคัญของการเตรียมข้อมูลเพื่อเปิดเผย
- ขั้นตอนที่ 1 การพิจารณาคุณลักษณะข้อมูลเปิดภาครัฐ คุณลักษณะข้อมูลเปิดภาครัฐ 10 ประการ ที่จะนำมาเปิดเผย ควรมีลักษณะดังนี้
-
- สมบูรณ์ (Complete) คือ ข้อมูลเปิดต้องพร้อมใช้งาน และไม่เป็นข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลความมั่นคง หรือมีข้อยกเว้นในการเปิดเผยข้อมูล
- ปฐมภูมิ (Primary) คือ ข้อมูลที่ได้จากแหล่งข้อมูลโดยตรง ไม่มีการปรับแต่ง หรืออยู่ในรูปแบบข้อมูลสรุป
- เป็นปัจจุบัน (Timely) คือ ข้อมูลต้องเป็นปัจจุบัน และเปิดเผยในเวลาที่เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ เพื่อเพิ่มประโยชน์ให้กับผู้ใช้ข้อมูล
- เข้าถึงได้ง่าย (Accessible) คือ ข้อมูลต้องเข้าถึงได้ง่าย ผู้ใช้ข้อมูลสามารถค้นหา เข้าถึง และใช้งานชุดข้อมูลได้หลายช่องทาง
- อ่านได้ด้วยเครื่อง (Machine-readable) คือ ข้อมูลต้องมีโครงสร้าง สามารถอ่านได้ด้วยเครื่อง และนำข้อมูลไปใช้งานต่อได
- ไม่เลือกปฏิบัติ (Non-discriminatory) คือ ผู้ใช้ข้อมูลต้องสามารถนำข้อมูลไปใช้ได้อย่างอิสระ โดยไม่ต้องระบุตัวตน หรือเหตุผลของการนำไปใช้งาน
- ไม่จำกัดสิทธิ (Non-proprietary) คือ ข้อมูลต้องอยู่ในรูปแบบมาตรฐานเปิดที่สามารถใช้ได้หลายแพลตฟอร์ม และต้องไม่ถือครองกรรมสิทธิ์หลังจากนำข้อมูลเปิดไปใช้ประโยชน์
- ปลอดสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา (License-free) คือ ข้อมูลต้องไม่ขัดต่อกฎหมายว่าด้วยลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า หรือความลับทางการค้า
- คงอยู่ถาวร (Permanence) คือ ข้อมูลต้องสามารถใช้งานได้ตลอดเวลา และมีการควบคุมการเปลี่ยนแปลงของชุดข้อมูล
- ไม่มีค่าใช้จ่าย (Free of charge) คือ ผู้ใช้ข้อมูลต้องไม่เสียค่าใช้จ่ายในการเข้าถึงข้อมูล
- ขั้นตอนที่ 2 ประเมินความพร้อมของการเปิดเผยข้อมูล ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนถัดไปหรือ กระบวนการเตรียมการเปิ ดเผยข้อมูล จะต้องประเมินความพร้อมของการเปิดเผยข้อมูลภายในหน่วยงาน โดยจะประเมินจาก 5 กิจกรรมนี้
-
- การบริหารจัดการข้อมูลเปิด จัดทำแผนในการบริหารจัดการและเปิดเผยข้อมูล
- การสร้างองค์ความรู้และทักษะ จัดกิจกรรมส่งเสริมการเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐภายในหน่วยงาน
- การสนับสนุนและส่งเสริมการนำข้อมูลไปใช้ ส่งเสริมให้เกิดการนำข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ
- งบประมาณ กำหนดงบประมาณที่จำเป็นต่อการเปิดเผย
- การกาหนดกลยุทธ์ กำหนดแนวทางการดำเนินงานที่ชัดเจน
หลังจากผ่านการเตรียมการทั้ง 2 ขั้นตอนแล้ว สามารถดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป เพื่อเตรียมการเปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐ
แหล่งข้อมูล : https://www.dga.or.th/wp-content/uploads/2021/03/ราชกิจจานุเบกษา_เปิดเผยข้อมูลเปิดภาครัฐในรูปแบบข้อมูลดิจิทัลต่อสาธารณะ.pdf
bing.com
![](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2024/04/microsoft-bing-01.png)
การค้นหาด้วย AI
ฟังก์ชันการค้นหาตามบทการสนทนา ด้วยคำถามและคำสั่งที่ซับซ้อน เช่น ค้นหาโรงเรียนที่ดีที่สุด พร้อมด้วยสวนสาธารณะในบริเวณใกล้เคียง หรือบริเวณที่ต้องการ พร้อมระยะทางจากโรงเรียน ผลลัพธ์ รูปภาพ ลิงก์และข้อมูลเพิ่มเติม หน้าเว็บของโรงเรียน เนื้อหาความรู้ ครอบคลุมสาขาต่างๆ วิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และเทคโนโลยี
Designer
เครื่องมือตัวช่วยการออกแบบ สร้างภาพตามต้องการในรูปแบบสไตล์ที่ต้องการ รูปภาพสำหรับโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการให้ช่วยสร้างสรรค์รูปภาพคำเชิญให้เข้าร่วมงานเลี้ยงปาร์ตี้ สามารถสร้างตัวเลือกรูปภาพได้มากมายนับไม่ถ้วน
การสร้างข้อความ
สร้างข้อความ เป็นโทนและรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อใช้ร่างอีเมล โพสต์ในบล็อก สุนทรพจน์ บทกวี เรื่องสั้น เป็นต้น สามารถสรุปข้อมูลจากบทความได้ สามารถแปลข้อความเป็นภาษาต่างๆ ช่วย rewrite เนื้อหาได้
Requirements: Web Browser แนะนำให้ใช้ Microsoft Edge
สามารถใช้ของ Microsoft (hotmail, outlook) ในการล็อคอิน Microsoft และ ณ ปัจจุบันยังไม่ต้องใช้การล็อคอินในการใช้งาน
Bard (Backbone Transformer) architecture (เปลี่ยนเป็น “Gemini” https://gemini.google.com/, เม.ย. 2567) เป็นเครื่องมือแบบ AI Chat Bot ที่มีลักษณะการใช้งาน เช่นเดียวกันกับ ChatGPT พัฒนาจาก Large Language Model
![](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2024/04/bard-gemini-01.png)
ฟังก์ชันความสามารถ:
1) Language Understanding
- Natural Language Processing (NLP): เข้าใจและตอบสนองคำสั่งในภาษามนุษย์ คำถามทั้งแบบที่ง่ายและคำถามที่ประโยคซับซ้อนมากขึ้น รวมถึงคำถามที่ขอให้คิดออกแบบสร้างสรรค์ขึ้นมาตามจินตนาการ
- Sentiment Analysis: สามารถตรวจจับลักษณะของประโยคข้อความที่แสดงออกถึงสภาพอารมณ์ emotional tone และสามารถตอบสนองปรับตามสภาพดังกล่าวได้
- Context Awareness: สามารถอ้างอิงตามบริบทของซีรี่ย์ของบทสนทนาที่เกิดขึ้นและสามารถตอบสนองตามบริบทนั้นได้
2) Information Retrieval and Generation
- Search: เข้าถึงข้อมูลผ่านผลลัพธ์การค้นหาด้วย Google Search และตอบสนองได้สอดคล้องกับผลลัพธ์การค้นหานั้น
- Question Answering: สามารถตอบคำถามได้หลากหลาย in a comprehensive and informative way แม้ว่าจะเป็นคำถามที่แปลกหรือท้าทาย
- Text Generation: สร้างสรรค์ข้อความ ที่หลากหลาย อาทิ บทกลอน บทกวี โค้ดภาษาโปรแกรม แต่งเพลงพร้อมโน้ตดนตรี เนื้อหาของจดหมายอีเมล เป็นต้น
3) Information Retrieval and Generation
- Translation: แปลภาษาได้
- Summarization: สามารถสร้างสรุปเนื้อหาข้อมูลจากบทความที่ต้องการได้
- Writing: ช่วยในการเขียน เช่น การ brainstorming
Requirements:
- Hardware: อุปกรณ์ที่มี web browser (ระบบปฏิบัติการไม่จำกัด) และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต – computers, laptops, smartphones, and tablets
- Software: web browser : Chrome, Firefox, Safari, or Edge
- Additional requirements: มีสมาชิกบัญชี Google
AI Tool ที่สามารถสร้าง presentation ได้เก่งมาก สามารถสร้างสไลด์ได้จากเพียงกำหนดชื่อเรื่องเท่านั้น ระบบจะคิด outline ให้โดยอัตโนมัติ จะบบจะหารูปแบบที่เหมาะสมกับเนื้อหาในแต่ละ slide และภาพภาพประกอบให้ด้วย
Link : https://gamma.app/
![](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2024/03/Gamma-logo.png)
Continue reading “Gamma.app – AI ช่วยสร้าง Preaentation”
Synthesia เป็น AI ที่ทำทางด้าน Generate ไฟล์ VDO โดยแปลงข้อความเป็นเสียงพูด Text to speech และมี avator ให้ใช้งานจำนวนมาก โดย avatar จะทำหน้าที่พูดตาม text ที่เราใส่เข้าไป การขยับปาก เสียงพูด สีหน้าและท่าทาง ดูเป็นธรรมชาติ มีภาษาพูดให้เลือกหลายภาษารวมถึงภาษาไทย
Link : https://www.synthesia.io/
![](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2024/03/Synthesia-logo.jpg)
Continue reading “Synthesia.io – AI ช่วยทำ VDO พรีเซ้นต์”
Cohesive AI เป็น AI Tools ทางด้านช่วยเขียนคอนเทนต์ ที่เน้นการสร้างคอนเทนต์เป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น ไม่มีเวอร์ชันฟรีให้ทดลองใช้ แต่มีความสามารถที่หลากหลาย เช่น เขียนบทความได้หลากหลายประเภท, ปรับข้อความให้เป็นตามจุดประสงค์ได้, เลือกภาพ แต่งภาพเพื่อแทรกในบทความได้, สร้างสคริป VDO และมี Text to speech การแปลงข้อความออกมาเป็นเสียงพูดได้ดีเยี่ยม
![](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2024/03/Cohesive-AI-01.jpg)
Link : https://cohesive.so/
Continue reading “Cohesive AI – AI ช่วยทำคอนเทนต์ ข้อความ ภาพ และเสียง”
Anissa เป็น ai ประเภท Gerenative AI ของคนไทย รองรับภาษาไทย 100% ทำหน้าที่ช่วยทำคอนเทนต์ โดยมีรูปแบบคอนเทนต์ที่หลากหลาย และยังมีความสามารถในการวิเคราะห์ SEO ให้คอนเทนต์อีกด้วย เหมาะสำหรับ Content Creator หรือผู้ที่ต้องเขียนบทความเป็นประจำ
![](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2024/03/Picture2.png)
Link : https://anissa.ai/ Continue reading “Anissa AI – ผู้ช่วยเขียนคอนเทนต์”
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยงานในกำกับของ กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม จัดตั้งขึ้นเมื่่อปี พ.ศ. 2534 ตาม พ.ร.บ.พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 เพื่อเป็นหน่วยงานที่บริหารกองทุนพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (กวทช.)
ประกาศสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ เรื่อง โครงสร้างและการจัดองค์กร อำนาจหน้าที่ วิธีการดำเนินงาน และสถานที่ติดต่อเพื่อขอรับข้อมูลข่าวสารของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 132 ตอนที่ 79 วันที่ 13 สิงหาคม 2558 และ ประกาศ ฉบับที่ 2 เรื่องแก้ไขโครงสร้างองค์กร ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 139 ตอนที่ 261 วันที่ 4 พฤศจิกายน 2565
สวทช. มุ่งผลักดันให้ประเทศไทยแข็งแกร่งและเจริญรุ่งเรืองบนเวทีเศรษฐกิจระดับโลก โดยการนำความสามารถอันเหนือชั้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมาช่วยให้ภาคการเกษตร และภาคอุุตสาหกรรมสามารถดำเนินงานได้ดี มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซึ่ง สวทช. ได้ดำเนินงานผ่านการทำงานร่วมกันของศูนย์ทั้ง 5 ศูนย์แห่งชาติ ได้แก่
• ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (BIOTEC) มุ่งพัฒนางานด้านเทคโนโลยีชีวภาพ
• ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) มุ่งพัฒนางานด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับวัสดุต่างๆ
• ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC) มุ่งพัฒนางานด้านอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
• ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (NANOTEC) มุ่งพัฒนางานด้านนาโนเทคโนโลยี
• ศูนย์เทคโนโลยีพลังงานแห่งชาติ (ENTEC) มุ่งวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานของประเทศ
![](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2024/03/20230327-nstda-services-book-cover.png)