ประเทศไทยติดอันดับที่ 9 ของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์คุณภาพสูง ตามการจัดอันดับของ Nature Index 2020 โดยประเทศไทยสามารถรักษาอันดับการเป็น 10 ประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ที่ตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์คุณภาพสูง ตามการจัดอันดับของ Nature Index ตั้งแต่ปี 2015
Nature Index คือตัวชี้วัดคุณภาพงานวิจัย โดยจัดอันดับประเทศและสถาบัน ด้วยการพิจารณาการตีพิมพ์บทความวิจัย (ต่อปี) ในวารสารที่มีผลกระทบสูงและเป็นที่ยอมรับของแต่ละสาขาในเครือ Nature Research ซึ่งแบ่งเป็น 4 สาขาวิชา คือ
- วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Sciences)
- วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Sciences)
- เคมี (Chemistry)
- วิทยาศาสตร์โลกและสิ่งแวดล้อม (Earth & Environmental Sciences)
Nature Index มีตั้งแต่ปี 2015 โดยใช้ตัวชี้วัดหลัก 2 ตัวในการพิจารณาจัดอันดับ คือ
- จำนวนบทความตีพิมพ์ (Count) ยกตัวอย่างเช่น บทความ 1 บทความ ที่มีผู้เขียน 1 คน หรือ หลายคนจากประเทศไทย ดังนั้นประเทศไทยจะได้รับค่า Count เท่ากับ 1
- จำนวนสัดส่วน/ส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของบทความที่จัดสรรให้กับสถาบันหรือประเทศ (Fractional Count) โดย 1 บทความ จะมีค่า Fractional Count เท่ากับ 1 ซึ่งถูกแบ่งให้ผู้เขียนทุกคนในบทความหนึ่งๆ ภายใต้สมมติฐานที่ว่าทุกคนมีส่วนร่วมเท่าเทียมกัน ยกตัวอย่างเช่น บทความ 1 บทความ ที่มีผู้เขียน 10 คน หมายความว่าผู้เขียนแต่ละคนได้รับค่า Fractional Count เท่ากับ 0.1
Nature Index 2020 เผย ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 9 ของประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากทั้งหมด 33 ประเทศ โดยพิจารณาจากการตีพิมพ์บทความวิจัยในวารสารวิทยาศาสตร์คุณภาพสูงในเครือ Nature Research จำนวน 82 ชื่อ ซึ่งคัดเลือกโดยคณะนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำ ทั้งนี้เป็นบทความซึ่งตีพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2019 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว ประเทศไทยมีจำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 254 และ มีค่าความเป็นเจ้าของบทความ (Fractional Count) เท่ากับ 49 ตามภาพที่แสดงด้านล่าง
Nature Index https://www.natureindex.com/annual-tables/2019/country/all/regions-Asia%20Pacific
ทั้งนี้ประเทศไทยสามารถรักษาอันดับการเป็น 10 ประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตามการจัดอันดับของ Nature Index ตั้งแต่ปี 2015
หากพิจารณาบทความวิจัยตีพิมพ์ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2019 – วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2020 ประเทศไทยมีจำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 247 และค่าความเป็นเจ้าของบทความ (Fractional Count) เท่ากับ 47.47 เมื่อพิจารณาสาขาวิชาของบทความดังกล่าวซึ่งแบ่งตามกลุ่มวิชาหลัก 4 สาขา พบว่าสาขาวิชาที่มีจำนวนผลงานตีพิมพ์มากที่สุด คือ
- อันดับที่ 1 วิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Sciences) จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 127 และ ค่าความเป็นเจ้าของบทความ (Fractional Count) เท่ากับ 16.20
- อันดับที่ 2 วิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Sciences) จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 67 และ ค่าความเป็นเจ้าของบทความ (Fractional Count) เท่ากับ 10.65
- อันดับที่ 3 เคมี (Chemistry) จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 50 และ ค่าความเป็นเจ้าของบทความ (Fractional Count) เท่ากับ 19.08
- อันดับที่ 4 วิทยาศาสตร์โลกและสิ่งแวดล้อม (Earth & Environmental Sciences) จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 18 และ ค่าความเป็นเจ้าของบทความ (Fractional Count) เท่ากับ 2.91
หมายเหตุ: 1 บทความอาจครอบคลุมมากกว่าหนึ่งสาขาวิชา
Nature Index https://www.natureindex.com/country-outputs/thailand
ทั้งนี้ 10 สถาบันแรกในประเทศไทยที่ติดอันดับ Nature Index 2020 ใน ภาพรวมทั้ง 4 สาขาวิชา (ข้อมูลจากผลงานตีพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2019) ได้แก่
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 112 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 11.07
- สถาบันวิทยสิริเมธี จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 23 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 8.79
- มหาวิทยาลัยมหิดล จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 53 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 5.13
- มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 19 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 1.69
- มหาวิทยาลัยขอนแก่น จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 15 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 1.67
- สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 11 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 1.57
- สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 8 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 1.45
- มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 9 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 1.54
- มหาวิทยาลัยมหาสารคาม จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 11 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 1.16
- มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จำนวนบทความวิจัย (Count) เท่ากับ 14 ค่าความเป็นเจ้าของบทความวิจัย (Fractional Count) เท่ากับ 1.13
Nature Index https://www.natureindex.com/annual-tables/2020/institution/all/all/countries-Thailand
หมายเหตุ: ควรคำนึงถึงปัจจัยและตัวชี้วัดอื่นๆ เมื่อพิจารณาคุณภาพการวิจัยและการจัดอันดับสถาบัน ไม่ควรใช้ Nature Index เพียงอย่างเดียวเพื่อประเมินสถาบัน
หากพิจารณา 10 สถาบันแรกในประเทศไทยที่ติดอันดับ Nature Index 2020 แบ่งตาม สาขาเคมี (Chemistry) (ข้อมูลจากผลงานตีพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2019) พบว่า มี 7 ใน 10 สถาบันที่ติดอันดับ 10 สถาบันแรกในภาพรวมทั้ง 4 สาขาวิชา ยังคงปรากฎชื่อ แม้มีการสลับอันดับกัน ดังภาพปรากฎด้านล่าง
Nature Index https://www.natureindex.com/annual-tables/2020/institution/all/chemistry/countries-Thailand
หากพิจารณา 10 สถาบันแรกในประเทศไทยที่ติดอันดับ Nature Index 2020 แบ่งตาม สาขาวิทยาศาสตร์โลกและสิ่งแวดล้อม (Earth & Environmental Sciences) (ข้อมูลจากผลงานตีพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2019) พบว่า มีเพียง 5 ใน 10 สถาบันที่ติดอันดับ 10 สถาบันแรกในภาพรวมทั้ง 4 สาขาวิชา ยังคงปรากฎชื่อ แม้มีการสลับอันดับกัน ดังภาพปรากฎด้านล่าง
Nature Index https://www.natureindex.com/annual-tables/2020/institution/all/earth-and-environmental/countries-Thailand
หากพิจารณา 10 สถาบันแรกในประเทศไทยที่ติดอันดับ Nature Index 2020 แบ่งตาม สาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ (Life Sciences) (ข้อมูลจากผลงานตีพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2019) พบว่า มี 6 ใน 10 สถาบันที่ติดอันดับ 10 สถาบันแรกในภาพรวมทั้ง 4 สาขาวิชา ยังคงปรากฎชื่อ แม้มีการสลับอันดับกัน ดังภาพปรากฎด้านล่าง
Nature Index https://www.natureindex.com/annual-tables/2020/institution/all/life-sciences/countries-Thailand
หากพิจารณา 10 สถาบันแรกในประเทศไทยที่ติดอันดับ Nature Index 2020 แบ่งตาม สาขาวิทยาศาสตร์กายภาพ (Physical Sciences) (ข้อมูลจากผลงานตีพิมพ์ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 ถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2019) พบว่า มี 5 ใน 10 สถาบันที่ติดอันดับ 10 สถาบันแรกในภาพรวมทั้ง 4 สาขาวิชา ยังคงปรากฎชื่อ แม้มีการสลับอันดับกัน ดังภาพปรากฎด้านล่าง
Nature https://www.natureindex.com/annual-tables/2020/institution/all/physical-sciences/countries-Thailand
หมายเหตุ: ควรคำนึงถึงปัจจัยและตัวชี้วัดอื่นๆ เมื่อพิจารณาคุณภาพการวิจัยและการจัดอันดับสถาบัน ไม่ควรใช้ Nature Index เพียงอย่างเดียวเพื่อประเมินสถาบัน