ตอนที่ 24 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.จริยา สากยโรจน์ ผลงานเรื่อง “Butt rot disease in Thailand’s mangroves”

ดร.เดือนเพ็ญ จาปรุง ผลงานเรื่อง “แอปตาเซนเซอร์สำหรับวิเคราะห์อัลบูมินในปัสสาวะเพื่อประกอบการคัดกรองโรคไตเรื้อรัง”

ดร.พิศิษฐ์ คำหน่อแก้ว และคณะ ผลงานเรื่อง “ท่อดูดซับความร้อนด้วยอนุภาคนาโนกราฟีน-ซิลิกา สำหรับระบบพลังงานรวมแสงอาทิตย์เข้มข้น”

ดร.ธีรพงศ์ ยะทา ผลงานเรื่อง “ตัวพาอนุภาคนาโน เพื่อการนำส่งยาในร่างกายอย่างแม่นยำ”

ดร.สมเกียรติ เตชกาญจนารักษ์ ผลงานเรื่อง “สูตรผสมสารชีวบำบัดภัณฑ์สำหรับย่อยสลายคราบปนเปื้อนน้ำมัน”

ดร.กิตติวุฒิ เกษมวงศ์ และคณะ ผลงานเรื่อง “ไข่ออกแบบได้”

วารสารข่าว วิทย์ปริทัศน์ ฉบับเดือน กรกฎาคม 2564

วารสารข่าว วิทย์ปริทัศน์ ฉบับที่ 7 เดือน กรกฎาคม 2564

10 อันดับสถาบันเทคโนโลยี ที่มีชื่อเสียงเทียบเคียงกับมหาวิทยาลัยดัง

มหาวิทยาลัยกับสถาบัน

การศึกษาระดับอุดมศึกษา มี 2 ประเภท คือ 1 มหาวิทยาลัย  หรือ University กับ 2 สถาบัน หรือ Institute ในอดีต แรกเริ่มมหาวิทยาลัยใช้เพื่ออ้างถึงศูนย์การเรียนรู้ชนาดใหญ่ที่ให้การศึกษาระดับอุดมศึกษาแก่นักศึกษาที่ต้องการเชี่ยวชาญในสาขาวิชาเฉพาะ กลุ่มสาขาวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาขาด้านสังคมศาสตร์ กลุ่มสาขามนุษยศาสตร์ ในขณะที่สถาบันคือศูนย์การเรียนรู้ที่รัฐบาลหรือสมาชิกในชุมชนสร้างขึ้นเพื่อส่งต่อทักษะเฉพาะด้านให้กับผู้เรียนเพื่อช่วยให้มีความรู้ในการประกอบอาชีพ สถาบันมีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางที่เน้นด้านการศึกษา เช่น แฟชั่น เกษตรกรรม ศิลปะและเทคโนโลยีฯ ในภาพรวมคำว่า สถาบัน มีความหมายเล็กกว่า คำว่า มหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม พัฒนาการที่เกิดขึ้นในหลายประเทศได้ทำให้นิยามนี้ เปลี่ยนไปโดยเฉพาะสถาบันเทคโนโลยีได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก ตัวอย่างของสถาบันที่มีชื่อเสียงของสหรัฐอเมริกา คือ สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) ซึ่งเป็นสถาบันสอนด้านเทคโนโลยีลำดับต้น ๆ ของโลก ส่วนของไทย คือ กลุ่มสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า (King Mongkut’s Institute of Technology) ซึ่งต่อมา วิทยาเขตธนบุรี และวิทยาเขตพระนครเหนือ เปลี่ยนชื่อว่า มหาวิทยาลัย ในขณะที่ วิทยาเขตเจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง ยังคงยืนหยัดที่ จะใช้ว่า สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเช่นแรกเริ่มก่อตั้ง

Massachusetts Institute of Technology

อันดับที่ 4 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองเคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1861

Massachusetts Institute of Technology (MIT) เป็นสถาบันเทคโนโลยีเอกชนที่มีชื่อเสียงระดับโลกในอันดับต้น ๆ ของ U.S. News & World Report และการจัดอันดับวิทยาลัยอื่น ๆ งานวิจัยที่พัฒนาอย่างเข้มข้น หุ่นยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทางการแพทย์ที่เก็บเกี่ยวพลังงานจากความแตกต่างของอุณหภูมิ รวมทั้งการพัฒนาเรดาร์ แผงวงจรดิจิทัลการพัฒนาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ลิเทียมไอออน ไปจนถึงการค้นพบยีนก่อมะเร็ง (Oncogene)
MIT แบ่งออกเป็น 31 ภาควิชา ใน 5 คณะ
1. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และผังเมือง
2. คณะวิศวกรรมศาสตร์
3. คณะมนุษยศาสตร์ ศิลปะและสังคมศาสตร์
4. คณะการบริหารจัดการ
5. คณะวิทยาศาสตร์

Caltech
อันดับที่ 9 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองพาซาตินา รัฐแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้ง ปี ค.ศ. 1891
California Institute of Technology (Caltech) เป็นสถาบันเทคโนโลยีเอกชนในสหรัฐอเมริกาที่ศึกษาวิชา STEM เป็นหลัก นักวิชาการและผู้บริหารมุ่งเน้นความพยายามและทรัพยากรขึ้นในโครงการ เช่น Jet Propulsion Laboratory (JPL) ของ NASA
JPL เป็นศูนย์วิจัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก โครงการปัจจุบัน ได้แก่ รถแลนด์โรเวอร์ Mars Curiosity, Mars Reconnaissance Orbiter และยานอวกาศ Juno ที่โคจรรอบดาวพฤหัสบดี ห้องปฏิบัติการยังมีหน้าที่รับผิดชอบช่วยพัฒนา FINDER เป็นเครื่องมือช่วยเหลือค้นหาบุคคลที่ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง โปรแกรมที่นักศึกษาทำโครงการวิจัยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ Summer Undergraduate Research Fellowship (SURF) ซึ่งนักศึกษาจะทำงานเพื่อพัฒนาโครงการวิจัยระยะเวลา 10 สัปดาห์ นอกจากนี้ยังเปิดหลักสูตรบัณทิตศึกษาในสาขาวิศวกรรมศาสตร์และสาขาวิทยาศาสตร์ ชีววิทยา เคมี วิทยาการคอมพิวเตอร์ ธรณีศาสตร์ คณิตศาสตร์ และฟิสิกส์

Georgia Tech.
อันดับที่ 35 U.S. News 2021 Best National Universities

นครแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย ก่อตั้งปี 1885
Georgia Institute of Technology (Georgia Tech)
สถาบันเทคโนโลยีรัฐและมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นการวิจัย ภารกิจของ Georgia Tech คือการพัฒนาผู้นำที่พัฒนาเทคโนโลยีและปรับปรุงสภาพของมนุษย์ ภารกิจและแผนกลยุทธ์มุ่งเน้นไปที่การสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชีวิตของผู้คนทุกที่
Georgia Tech มีวิทยาลัย 6 สาขา บัณฑิตวิทยาลัยที่ได้รับการจัดอันดับสูง ได้แก่ คณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะบริหารธุรกิจ Georgia เป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นการวิจัยมากที่สุดของประเทศ

Rensselaer
อันดับที่ 53 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองทรอย รัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งปี ค.ศ. 1824
Rensselaer Polytechnic Institute (RPI)
สถาบันก่อตั้งบนหลักการของการนำวิทยาศาสตร์มาสู่ชีวิตประจำวัน และยังคงแพร่หลายอยู่ในปัจจุบัน นักเรียนหนึ่งในสี่มีส่วนร่วมใน Greek Life เน้นความเป็นผู้นำนวัตกรรม ความอดทน และวิวัฒนาการ นักศึกษาระดับปริญญาตรีและบัณฑิตศึกษามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนการวิจัยที่ Rensselaer ลำดับความสำคัญในการวิจัย 6 อันดับแรก ได้แก่ เทคโนโลยีชีวภาพ พลังงานและสิ่งแวดล้อม นาโนเทคโนโลยี คอมพิวเตอร์และเทคโนสารสนเทศ และสื่อและศิลปะ ทักษะทางเทคนิคจาก Rensselaer ไปสู่อาชีพที่ประสบความสำเร็จในฐานะผู้ประกอบการ นักประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์ และอื่นๆ

WPI
อันดับที่ 66 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองวูสเตอร์ รัฐแมสซาซูเซตส์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1865
Worcester Polytechnic Institute (WPI) สถาบันเอกชน เพื่อสร้างและถ่ายทอดความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรม โปรแกรมการวิจัยระดับบัณฑิตศึกษาประกอบด้วยวิทยาการหุ่นยนต์ วัสดุศาสตร์ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี WPI เช่น วิศวกรรมป้องกันอัคคีภัย วิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและวิศวกรรมชีวภาพ พลังงาน และวิทยาศาสตร์ข้อมูล

VIRGINIA TECH (VT)
อันดับที่ 74 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองแบล็กส์เบิร์ก รัฐเวอร์จิเนีย ก่อตั้งปี ค.ศ. 1872
Virginia Polytechnic Institute (Virginia Tech) สถาบันรัฐ อดีตสถาบันเทคนิคทางการทหารในแบล็กส์เบิร์ก ผลักดันขอบเขตความรู้โดยใช้แนวทางปฏิบัติแบบสหวิทยาการเพื่อเตรียมนักวิชาการให้เป็นผู้นำและนักแก้ปัญหา สาขาวิชาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดที่ Virginia Tech ได้แก่ วิศวกรรมศาสตร์; ธุรกิจ, การจัดการ, การตลาดและการบริการสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง ; วิทยาศาสตร์ครอบครัวและผู้บริโภค/ มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ; และวิทยาศาสตร์ชีวภาพและชีวการแพทย์

STEVENS Institute of Technology (Stvens)
อันดับที่ 80 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองโฮไบเกน รัฐนิวเจอร์ซีย์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1870
Stevens Institute of Technology (Stvens) สถาบันเอกชน เน้นย้ำถึงนวัตกรรมและการเป็นผู้ประกอบการ เน้นการวิจัยในด้านโปรแกรมวิศวกรรม วิทยาศาสตร์ และการจัดการเป็นหลัก แม้ว่า Stevens จะเน้นหนักในด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ แต่สถาบันจัดเป็นวิทยาลัยสี่แห่ง รวมถึงวิทยาลัยศิลปศาสตร์และอักษรศาสตร์ เนื่องจากหลักสูตรนี้เน้นการบรรจบกันของศิลปะและมนุษยศาสตร์ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

Rochester Institute of Technology (RIT)
อันดับที่ 112 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองรอเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งปี ค.ศ. 1829
Rochester Institute of Technology (RIT) สถาบันเอกชน เน้นการเรียนวิทยาการคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมศาสตร์ หรือเทคโนโลยีสารสนเทศ และเปิดสอนหลักสูตร ศิลปะศาสตร์ ธุรกิจ และศิลปะและการออกแบบ รวมถึงการออกแบบสื่อใหม่ ระบบข้อมูลการจัดการ วิทยาศาสตร์การถ่ายภาพ การออกแบบอุตสาหกรรม เทคโนโลยีวิศวกรรมโยธา และเว็บและคอมพิวเตอร์มือถือ

New Jersey Institute of Technology (NJIT)
อันดับที่ 118 U.S. News 2021 Best National Universities

เมืองนวร์ก (Newark) รัฐนิวเจอร์ซีย์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1881
New Jersey Institute of Technology (NJIT) สถาบันรัฐ เป็นผู้นำระดับโลกในด้าน Solar – Terrestrial สาขาวิชา R&D ได้แก่ คณิตศาสตร์ประยุกต์ วัสดุศาสตร์ และวิศวกรรมชีวการแพทย์ นอกจากนั้น ที่นี่ยังมี อาจารย์ชาวไทย ศ.ดร. เมธี เวชารัตนา ประธานสมาคมนักวิชาชีพไทยในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา (Association of Thai Professionals in America and Canada – ATPAC) เป็นผู้สอนในปัจจุบัน

ILLINOIS TECH
อันดับที่ 124 U.S. News 2021 Best National Universities

นครชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ก่อตั้งปี ค.ศ. 1940
Illinois Institute of Technology (Illinois Tech) สถาบันเอกชน เปิดสอนหลักสูตรวิชาการ ได้แก่ วิทยาศาสตร์ สถาปัตยกรรม วิศวกรรม ธุรกิจ จิตวิทยา การสื่อสารและการพัฒนาระดับวิชาชีพ และอื่น ๆ
ปัจจุบัน นักศึกษารับมือการวิจัยเชิงปฏิบัติในด้านวิทยาการหุ่นยนต์ข้อมูลมหัส (Big data) การพัฒนาเมืองยั่งยืน การแพทย์ และวิทยาการคอมพิวเตอร์ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิแห่งสหรัฐอเมริกาและสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) กำหนดให้ Illinois Tech เป็นศูนย์ความเป็นเลิศทางวิชาการแห่งชาติในการศึกษาการป้องกันภัยทางไซเบอร์

Instituto Politeécnico Nacional
อันดับที่ 4 ของเม็กซิโก อันดับที่ 508 ของโลก ที่ตั้ง กรุงเม็กซิโก ซิตี ก่อตั้งปี ค.ศ. 1936
National Polytechnic Institute IPN มุ่งเน้นศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ (Natural Science) วิทยาศาสตร์ชีวภาพและวิทยาศาสตร์สุขภาพ เทคโนโลยีและวิศวกรรมศาสตร์ สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://static1.squarespace.com/static/5f7e0e2e76a05248ed76e064/t/6148b4bf72725905e432f6aa/1632154838007/OST+Science+Review+July+2021.pdf

 

 

ตอนที่ 23 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.บุญล้อม ถาวรยุติการต์ และคณะ ผลงานเรื่อง “Innovatives Sillicone Gel-Coated Fabrics for Scar Reduction”

ดร.สุพล มนะเกษตรธาร ผลงานเรื่อง “Glucose monitoring handheld device based on micro/nanoneedles”

ดร.บุรินทร์ เกิดทรัพย์ ผลงานเรื่อง “Design for permanent magnet-assisted synchronous reluctance motors used for electric vehicle applications”

ดร.กนกวรรณ ศันสนะพงษ์ปรีชา ผลงานเรื่อง “การพัฒนาอนุภาคนาโนลิโปโซม Auroginger อิมัลเจล สำหรับการนำส่งทางผิวหนัง ร่วมกับเทคนิค lontoporesis”

ดร.ธิดารัตน์ นิ่มเชื้อ ผลงานเรื่อง “การเพิ่มมูลค่าชานอ้อย : การสกัดเซลลูโลสและนาโนเซลลูโลส และการประยุกต์ใช้เป็นวัสดุทางการแพทย์”

ตอนที่ 22 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

คุณเสกสรร พาป้อง ผลงานเรื่อง “Developing a Research Framework and Methodology of Social Life Cycle Assessment in Thailand”

คุณปริญญา จันทร์หุณีย์ และคณะ ผลงานเรื่อง “อุปกรณ์ช่วยพ่นยาชนิดทำได้ด้วยตนเอง”

คุณวุฒินันต์ หลงเจริญ และคณะ ผลงานเรื่อง “NavTU : แอปพลิเคชันนำทางบนมือถือแอนดรอยด์สำหรับผู้พิการไทยทางการมองเห็น”

Professor Dr. Timothy William Flegel ผลงานเรื่อง “การพัฒนาวิธีการตรวจแบคทีเรียสาเหตุกุ้งตายด่วน (Early Mortality Syndrome: EMS)”

คุณสมบัติ รักประทานพร ผลงานเรื่อง “การพัฒนาการวินิจฉัยการติดเชื้อไวรัสในกุ้งด้วยโมโนโคลนอลแอนติบอดี”

วิธีสร้างสไลด์สำหรับการนำเสนองานวิจัย

1. ใช้ตัวอักษรเท่าที่จำเป็น
จำไว้ว่าผู้ฟังกำลังฟังและดูการนำเสนอ ถ้าใช้ตัวอักษรมากในสไลด์ ผู้ฟังส่วนใหญ่จะสนใจอ่านมากกว่าฟัง

2. ใช้รูปภาพ
ในบางกรณีอาจไม่จำเป็นต้องใช้ตัวอักษร ถ้าใช้รูปภาพผู้ฟังจะสามารถฟังได้อย่างต่อเนื่องง่ายขึ้นในขณะที่ดูสไลด์

3. Control the pace of new information
อย่าใช้หัวข้อที่สรุปเนื้อหาในสไลด์ ตัวอย่างเช่น หัวข้อ Protein A is required for proper heart function ผู้ฟังจะรู้ทันทีผลของการทดลอง และผู้ฟังอาจหยุดฟัง ให้พูดถึงคำถามเกี่ยวกับงานวิจัยหรือการทดลองแทน

4. คำแนะนำอื่น ๆ
ถ้าใช้ตัวอักษร ต้องแน่ใจว่าผู้ฟังอ่านตัวอักษรได้อย่างง่าย
– ตรวจสอบการสะกดคำให้ถูกต้อง
– ทำให้มีเนื้อที่ว่างระหว่างบรรทัดหรือ paragraphs ควรใช้ช่องว่างระหว่างบรรทัด 10 pt
– ทำให้โครงสร้างไปในทางเดียวกัน ถ้ารายการเนื้อหาเป็นประโยคที่สมบูรณ์ ต้องทำให้เนื้อหาทั้งหมดเป็นประโยคที่สมบูรณ์ด้วย
– ใช้ตัวอักษรที่ดูเป็นมืออาชีพและชัดเจน และมีขนาดใหญ่ สามารถอ่านง่ายในขณะที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ไม่จำเป็นต้องให้ผู้ฟังที่อยู่ด้านหลังห้องขนาดใหญ่สามารถมองเห็น ควรใช้ตัวอักษรอย่างน้อยขนาด 24

โดยสรุป สไลด์ต้องไม่อธิบายตัวเอง การนำเสนอที่ดีต้องการผู้นำเสนอสื่อสารรายละเอียดที่สำคัญให้ผู้ฟัง ทำให้สไลด์แนะนำเรื่องราวที่ผู้นำเสนอต้องการสื่อสาร แต่สไลด์ต้องไม่สื่อสารเรื่องราวโดยตัวเอง

ที่มา: Ben Mudrak. How to Build Great Slides for Your Research Presentation. Retrieved January 13, 2021, from https://www.aje.com/arc/writing-slides-for-your-research-presentation/

การศึกษาวัฏจักรชีวิตของการใช้พลังงานไปสู่ภาคขนส่ง และการคำนวณเปรียบเทียบรอยเท้าคาร์บอนในการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เชื้อเพลิงยานยนต์ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงชีวภาพ

ประเทศไทยถูกจัดอันดับโดยดัชนีความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศโลก (Global Climnate Risk Index) ประจำปี พ.ศ. 2564 (Global Climate Risk Index 2021 ให้มีความเปราะบางและความเสี่ยงสูงจากผลกระทบการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอันดับ 9 จาก 180 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ รัฐบาลไทยโดยนายกรัฐมนตรีได้ให้คำมั่นต่อประชาคมโลกในการก้าวสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี ค.ศ. 2050 และบรรลุเป้าหมายการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ได้ในปี ค.ศ. 2065 การลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก (GHGs) เพื่อลดความเสี่ยงจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จึงอาจเป็นภาระที่ประเทศจะมิอาจปฏิเสธได้อีกต่อไป

ภาคพลังงานไทย โดยภาคการขนส่งเป็นอีกหนึ่งสาขาที่มีสัดส่วนการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจก(GHGs) สูงถึงร้อยละ 18.81 ของปริมาณการปลดปล่อยฯรวมในปี ค.ศ. 2016 เป็นรองเพียงสาขาการผลิตพลังงาน (สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, 2563) ดังนี้ ภาครัฐจึงกำหนดมาตรการสำคัญต่างๆ เพื่อลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกในภาคการขนส่งไทยดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการสนับสนุนการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) และมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า (EV โดยกำหนดเป้าหมายสัดส่วนการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก ซึ่งหมายรวมถึงเชื้อเพลิงชีวภาพ ต่อการใช้พลังงานขั้นสุดท้ายที่ร้อยละ 30 ในปี พ.ศ. 2580 และกำหนดเป้าหมายให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ที่ใช้ไฟฟ้าที่ไม่ปลดปล่อยมลพิษ (ZEV) ภายในปี พ.ศ. 2578 ทั้งนี้ เนื่องจากทั้งมาตรการการส่งเสริมเชื้อเพลิงชีวภาพ (Biofuel) และยานยนต์ไฟฟ้า (EV ต่างเป็นเทคโนโลยีภาคการขนส่งทางถนนที่มีศักยภาพในการลดการปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกภาคขนส่ง

อย่างไรก็ตาม เชื้อเพลิงชีวภาพมีกระบวนการเพาะปลูกและการแปรรูป ขณะที่ยานยนต์ไฟฟ้าต้องการการผลิตไฟฟ้าเพิ่มเติมจากแหล่งพลังงานต่างๆ ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม หรืออย่างน้อยก็แตกต่างจากกรณีเปรียบเทียบกับการใช้พลังงานของยานยนต์สันดาปภายใน (ICE) ทั่วไป ดังนั้น การศึกษาเปรียบเทียบผลกระทบด้านลบต่อสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้นใหม่หรือที่อาจเพิ่มขึ้นจากมาตรการเหล่านี้จึงมีความสำคัญ และสามารถวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบได้ด้วยการใช้การประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA)

การประเมินวัฏจักรชีวิต (LCA) ภายใต้การศึกษานี้ อยู่บนพื้นฐานแนวคิด “การวิเคราะห์จากแหล่งกำเนิดสู่การขับเคลื่อน (Well-to-Wheel: WtW)” ซึ่งจำแนกการพิจารณาวัฏจักรชีวิตพลังงานเชื้อเพลิงภาคขนส่งออกเป็น 2 ส่วน คือ “การวิเคราะห์จากแหล่งกำเนิดสู่ถังเชื้อเพลิง (Well-to-Tank: WtT)” และ “การวิเคราะห์จากถังเชื้อเพลิงสู่การขับเคลื่อน (Tank to-Wheel: TtW)” ซึ่งสามารถวิเคราะห์การปลดปล่อยแก๊สเรือนกระจกได้ครอบคลุมตลอดวัฏจักรชีวิตเชื้อเพลิงที่ใช้ในภาคการขนส่ง โดยไม่รวมวัฏจักรชีวิตของยานยนต์

งานวิจัยนโยบายองค์กร
ฝ่ายบริหารกลยุทธ์และนโยบายองค์กร

 

ตอนที่ 21 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.อัชฌา กอบวิทยา และคณะ ผลงานเรื่อง “เลนส์มิวอาย นวัตกรรมใหม่ของกล้องจุลทรรศน์แบบพกพา”

ดร.อุมาพร เอื้อวิเศษวัฒนา ผลงานเรื่อง “Climate change adaptation strategy through application of biofloc technology for the improvement of productivity and environmental sustainability of white shrimp Litopenaeus vannamei production in South East Asia”

ดร.แสงจันทร์ เสนาปิน ผลงานเรื่อง “Current and emerging infectious diseases in fish and shrimp: Emphasis on molecular characterization, pathogenesis and detection” และ “การศึกษาชีววิทยาโมเลกุลกุ้ง ด้วยเทคนิคยีสต์ทูไฮบริด”

ดร.อรวรรณ ชัชวาลการพาณิชย์ และคณะ ผลงานเรื่อง “มะเขือเทศรับประทานผลสดลูกเล็กที่ต้านทานต่อโรคใบหงิกเหลือง”

ดร.สุวดี ก้องพารากุล และคณะ ผลงานเรื่อง “แผ่นยางทำความสะอาดน้ำมันแบบใช้ซ้ำ”

ศ.นพ.นพพร สิทธิสมบัติ ผลงานเรื่อง “การวิจัยเพื่อพัฒนาระบบการสร้างวัคซีนลูกผสม 4 ชนิดเพื่อป้องกันไข้เลือดออก”

ตอนที่ 20 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.สาทินี ซื่อตรง ผลงานเรื่อง “ดำเนินงานวิจัยด้านการศึกษาความหลากหลายของชนิดพันธุ์ราทะเลที่พบในป่าชายเลนของประเทศไทย” และ “ความสัมพันธ์ทางวิวัฒนาการในระดับโมเลกุลของราทะเลกลุ่มโดทิดิโอไมซีส (Dothideomycetes)”

ดร.สมพงษ์ ศรีมโนเสาวภาคย์ ผลงานเรื่อง “High Precision Sound Absorber”

ดร.ศรชล โยธิยะ และคณะ ผลงานเรื่อง “Modified Coating Process for Septal Defect Closure Device” และ “เครื่องเคลือบฟิล์มบางแบบสปัตเตอร์ริง”

ดร.พัชรี ลาภสุริยกุล และคณะ ผลงานเรื่อง “ฝาจุกสำหรับภาชนะบรรจุของเหลว เพื่อช่วยป้องกันการสำลักในระหว่างริน (Dispensing Closure for Glug-Free Pouring)”

ดร.พิทักษ์ เอี่ยมชัย และคณะ ผลงานเรื่อง “OnSpec VULCAN: เครื่องเคลือบฟิล์มบางสำหรับชิปขยายสัญญาณรามาน”

ดร.วิรัลดา ภูตะคาม ผลงานเรื่อง “การศึกษากระบวนการตอบสนองของปะการังต่อการเพิ่มอุณหภูมิของน้ำทะเลและการประเมินความหลากหลายทางพันธุกรรมของปะการังในน่านน้ำไทยเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลอย่างยั่งยืน” และ “การค้นหาและจีโนไทป์ เครื่องหมายโมเลกุลสนิปแบบทั่วทั้งจีโนมด้วยเทคโนโลยี genotyping-by-sequencing (GBS)”

ดร.สุรภา เทียมจรัส ผลงานเรื่อง “ระบบเซนเซอร์อัจฉริยะสำหรับสนับสนุนการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วย”

ตอนที่ 19 : รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วย

ระดับนานาชาติ และชาติ

ดร.พรรณรำเพย นามพระจันทร์ ฟรานซ์ ผลงานเรื่อง “Making yeast-based, and measles-based vaccine candidates’ vaccine against Porcine Epidemic Diarrhea Virus (PEDV)”

ดร.พรกมล อุ่นเรือน ผลงานเรื่อง “การพัฒนาและออกแบบกระบวนการทางชีวภาพอย่างเป็นระบบ เพื่อผลิตพลังงานเชื้อเพลิงชีวภาพที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน” และ “Development of biorefinery technology to mitigate effects of climate change and to promote bio-based economy and sustainability”

ดร.นพพล คบหมู่ ผลงานเรื่อง “Insights from Population Genomics to the Evolution of Host Specificity in Insect Fungi (GenoSpec)”

คุณปิยะดา สุวรรณดิษฐากุล และคณะ ผลงานเรื่อง “กระบวนการเตรียมของผสมยางธรรมชาติและซิลิกาด้วยเทคนิค in situ sol-gel”

ดร.สุรพิชญ ลอยกุลนันท์ และคณะ ผลงานเรื่อง “การพัฒนาระบบสารรักษาสภาพน้ำยางไร้แอมโมเนียสำหรับผลิตภัณฑ์จุกนมยาง”

ดร.ธิดารัตน์ นิ่มเชื้อ ผลงานเรื่อง “ENZbleach : เอนไซม์ฟอกเยื่อกระดาษจากแบคทีเรียในลำไส้ปลวก”

วารสารข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากกรุงบรัสเซลส์ ฉบับที่ 8 เดือน สิงหาคม 2564

วารสารข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากกรุงบรัสเซลส์ ฉบับที่ 8 เดือน สิงหาคม 2564

มาตรการและเครื่องมือที่ใช้เพื่อส่งเสริมการบรรลุเป้าหมายและข้อกำหนดภายใต้ชุดร่างกฎหมาย “Fit for 55”

          มาตรการภายใต้กฎระเบียบการซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (European Emission Trading System, EU ETS)

ETS คืออะไร: กฎระเบียบการซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (European Emission Trading System, EU ETS) เป็นกลไกทางกฎหมายที่ตั้งขึ้นมาเพื่อควบคุมการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ในอุตสาหกรรมหลัก เช่น อุตสาหกรรมการผลิตพลังงาน โรงกลั่นน้ำมัน โรงงานทำซีเมนต์ โรงถลุงเหล็ก โรงงานผลิตกระดาษ และอุตสาหกรรมการบิน ที่มีการใช้พลังงานและมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปริมาณสูง

จุดประสงค์:

ผลักดันให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพทางพลังงาน เพิ่มการใช้เชื้อเพลิงและเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ เช่น การลดการปล่อยคาร์บอนในภาคการขนส่งทางถนนผ่านการลงทุนในยานพาหนะที่มีการปล่อยก๊าซฯ เป็นศูนย์การพัฒนาประสิทธิภาพทางพลังงานและการปรับปรุงอาคารบ้านเรือน

การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ ETS ภายใต้ชุดร่างกฎหมาย Fit for 55:

– ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ภายใต้ ETS ให้ได้ร้อยละ 61 ภายในปี ค.ศ. 2030 คือต้องลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายใต้ ETS ทุกปีในอัตราร้อยละ 4.2 ต่อปี

– ภาคการขนส่งทางถนน: จะมีการจัดตั้งระบบการซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (ETS) แยกจากภาคการขนส่งทางถนน และอาคารบ้านเรือน

– ภาคการขนส่งทางอากาศ: มีแนวโน้มจะลดโควตาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในสาขาการบินลง และจะซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ในสาขานี้สู่ระบบประมูลซื้อ (Full auctioning of allowances)

– ภาคการขนส่งทางทะเล: มีกำหนดโควตาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สำหรับเรือขนส่งสินค้าที่มีขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตันที่ต้องการเข้าจอดเทียบท่าเรือในสหภาพยุโรป

– กลไกการปรับค่าคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดน (Carbon Border Adjustment Mechanism, CBAM): สินค้า 5 ประเภทที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูง ได้แก่ ซีเมนต์ อะลูมิเนียม ปุ๋ย เหล็กและเหล็กล้า และไฟฟ้า

– การนำ CBAM ไปใช้ในทางปฏิบัติ: ผู้นำเข้าสินค้าจะต้องลงทะเบียนเพื่อซื้อใบแสดงสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (CBAM certificate) ซึ่งราคาจะถูกคำนวณจากราคาเฉลี่ยรายสัปดาห์ของการประมูลโควต้าการปล่อยคาร์บอนของ ETS หน่วยเป็น ยูโร/การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1 ตัน

          กฎระเบียบว่าด้วยการกำหนดสัดส่วนการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศสมาชิก (Effort Sharing Regulation, ESR)

ESR คืออะไร

เป็นกฎระเบียบเพื่อกำหนดเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การขนส่งทางถนน ระบบสร้างความร้อนให้แก่อาคาร เกษตรกรรม โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก และการจัดการขยะ ใช้หลักการคำนวณเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อมูลค่า GDP ของแต่ประเทศ แทนเป้าหมายใน Effort Sharing Decision

ระบบ Bank and Borrow:

จุดประสงค์:

เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสำหรับภาคส่วนที่ไม่ได้ครอบคลุมอยู่ในระบบ EU ETS (European Union Emission Trading System)

การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ ESR ภายใต้ชุดร่างกฎหมาย Fit for 55:

– ลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ภายใต้ ESR ให้ได้ร้อยละ 40 ภายในปี ค.ศ. 2030

– เนื่องจากการใช้ GDP เพียงอย่างเดียวเพื่อคำนวณเป้าหมายในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาจจะก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายสูง จึงเสนอให้มีการปรับเป้าหมายให้มีสัดส่วนประสิทธิภาพต่อต้นทุน (cost-effectiveness) ที่เหมาะสมขึ้นแต่ละประเทศสมาชิกฯ

– การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในภาคส่วนของการขนส่งทางถนนและอาคารบ้านเรือนจะถูกควบคุมภายใต้กฎระเบียบทั้ง ETS และ ESR เนื่องจากการลดการปล่อยก๊าซฯ ในสองภาคส่วนนี้ยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควรตามเป้าหมายที่กำหนดไว้

          กฎระเบียบการใช้ที่ดิน การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน และป่าไม้ (land use, land-use change and forestry, LULUCF)

LULUCF คืออะไร

เป็นกฎระเบียบที่ควบคุมการใช้ประโยชน์จากที่ดินและป่าไม้ และการทำการเกษตร เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความยั่งยืนของระบบนิเวศน์และการใช้ทรัพยากรที่ดิน เช่น ควบคุมการถางป่า (indirect land use change) หรือนำพื้นที่ที่เคยใช้ปลูกพืชเศรษฐกิจชนิดอื่น (direct land use change) มาใช้ปลูกพืชไบโอดีเซล (biodiesel crops) เพื่อส่งออก หรือนำไปผลิตเป็นพลังงาน รวมถึงการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการใช้ประโยชน์จากที่ดินและป่าไม้

จุดประสงค์

ฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพและเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับคาร์บอนเพื่อมุ่งพัฒนาสู่ภูมิภาคที่มีการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2050

การเปลี่ยนแปลงสำคัญของ LULUCF ภายใต้ชุดร่างกฎหมาย Fit for 55:

– เสนอให้มีการกำหนดเป้าหมายในการดูดซับคาร์บอนที่ปล่อยจากการใช้ประโยชน์จากที่ดินและป่าไม้ จุดมุ่งหมายคือ การดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Carbon Sink ให้ได้อย่างต่ำ 310 ล้านตัน ภายในปี ค.ศ. 2030

– การใช้ที่ดิน การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดิน ป่าไม้ และเกษตรกรรมจะต้องไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ มีคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี ค.ศ. 2035

– ระบบการเฝ้าติดตาม การรายงาน และการตรวจสอบปริมาณการปล่อยและการดูดซับคาร์บอนจากการใช้ประโยชน์ที่ดิน ป่าไม้ และเกษตรกรรม โดยใช้ข้อมูลทางภูมิศาสตร์และระบบรับส่งสัญญาณทางไกล เพื่อให้การติดตามบรรลุเป้าหมาย มีความเที่ยงตรงและแม่นยำมากขึ้น

          มาตรการในภาคการขนส่ง

– กฎระเบียบโครงสร้างพื้นฐานสำหรับเชื้อเพลิงทางเลือก (Alternative Fuels Infrastructure Regulation) โดยจะต้องติดตั้งสถานีชาร์จไฟและเติมเชื้อเพลิงให้แก่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในระยะทางทุก ๆ 60 กิโลเมตร พร้อมทั้งติดตั้งสถานีเติมก๊าซไฮโดรเจนแก่รถยนต์พลังงานไฮโดรเจนในทุก ๆ 150 กิโลเมตรบนทางหลวงสายหลัก สำหรับการเดินทางระยะสั้นและระยะยาว

– คณะกรรมาธิการยุโรปเสนอให้มีการใช้เชื้อเพลิงทางเลือกที่มีคาร์บอนต่ำเพิ่มมากขึ้นในภาคการขนส่งทางทะเลอีกทั้งเครื่องบินและเรือขนส่งจะต้องเข้าถึงแหล่งจ่ายไฟฟ้าที่สะอาดในท่าเรือและสนามบินหลักได้

          มาตรการในการจัดตั้งกองทุนให้เงินอุดหนุน

– การจัดตั้ง Social Climate Fund: กองทุนนี้ส่งเสริมมาตรการและการลงทุนในภาคส่วนของอาคารบ้านเรือนและการขนส่งซึ่งมีปริมาณการปล่อยเรือนกระจกที่สูง กลุ่มเป้าหมายหลักคือ กลุ่มครัวเรือน วิสาหกิจขนาดเล็ก และผู้ใช้บริการขนส่ง

– การจัดตั้ง Innovation Fund: กองทุนส่งเสริมนวัตกรรม หรือ Innovation Fund เพื่อส่งเสริมการพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีคาร์บอนต่ำให้แก่ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม กลุ่มเป้าหมายคือ บริษัทและธุรกิจ เพื่อนำไปลงทุนด้านเทคโนโลยีสะอาด โดยเฉพาะด้านพลังงานหมุนเวียน แหล่งเก็บพลังงาน และการดักจับและกักเก็บคาร์บอน พร้อมทั้งช่วยสร้างงานในตลาดเพิ่มมากขึ้น

– การจัดตั้ง Modernisation Fund: เป็นกองทุนช่วยสนับสนุนประเทศที่มีรายได้ต่ำ เป้าหมายนำเงินไปช่วยเหลือลงทุนด้านการพัฒนาและการใช้พลังงานหมุนเวียน การพัฒนาประสิทธิภาพทางพลังงาน แหล่งกักเก็บพลังงาน ระบบพลังงาน และช่วยเหลือพื้นที่ที่ยังต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิลให้สามารถเปลี่ยนผ่านมาใช้พลังงานสะอาดได้ โดย 10 ประเทศคือ บัลแกเรีย โครเอเชีย เช็ก เอสโตเนีย ฮังการี ลัตเวีย ลิทัวเนีย โปแลนด์ โรมาเนีย และสโลวาเกีย

มาตรการอื่น ๆ

จัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์แห่งยุโรปเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อให้คำแนะนำทางวิทยาศาสตร์ และรายงานเกี่ยวกับมาตรการของอียู

ทิศทางการสนับสนุนงานวิจัย

จากร่างชุดกฎหมาย เป็นส่วนหนึ่งของนโยบาย Green Deal สหภาพยุโรปจะส่งเสริมให้งบวิจัยแก่งานวิจัยและเทคโนโลยีที่จะช่วยบรรลุเป้าหมายภายใต้ชุดร่างกฎหมาย “Fit for 55” เช่น การพัฒนายานยนต์ไฟฟ้าและพลังงานไฮโดรเจน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ สถานีชาร์จไฟอัจฉริยะ แบตเตอรีสำหรับกักเก็บพลังงาน และการรักษาและเพิ่มพูนความหลากหลายทางชีวภาพ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.thaiscience.eu/uploads/journal_20210917084720-pdf.pdf