ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212

ช่วงนี้เพื่อนๆ WFH กัน ปฎิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง อยู่บ้านและเน้นการซื้อของออนไลน์กันเยอะขึ้น ซึ่งในบางครั้งก็อาจจะพบปัญหา เช่น ไม่ได้รับสินค้า ได้สินค้าผิดสเปก หรือถูกหลอกลวง ฯลฯ ไม่รู้ปรึกษาใครดี วันนี้ฝ่ายบริการความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี(STKS) ขอแนะนำบริการจากภาครัฐ คือ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCC (Online Complaint Center) อยู่ภายใต้โครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มอบหมายให้สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ ดำเนินการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการรับเรื่องร้องเรียนปัญหาที่เกิดจากการซื้อขายทางออนไลน์ การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยี ภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวมไปถึงปัญหาออนไลน์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ให้แก่ประชาชน ผู้ประกอบการทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการให้คำปรึกษาและประสานความช่วยเหลือ ผู้บริโภคออนไลน์ที่ได้รับความเดือดร้อนค่ะ

1212
ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212

สามารถขอเข้าใช้บริการ ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ 1212 OCC  ได้ผ่าน 4 ช่องทาง ตลอด 24 ชั่วโมง คือ

1) สายด่วนโทร.1212

2) อีเมล 1212@mdes.go.th

3) เว็บไซต์ https://www.1212occ.com

4) เฟซบุ๊ก ข้อมูลข่าวสาร 1212 OCC https://www.facebook.com/1212OCC

โดยการร้องเรียนผู้ใช้งานสามารถทำ 3 ขั้นตอนง่ายๆคือ

1)เลือกหัวข้อร้องเรียน

2)กรอกแบบฟอร์ม

3)ติดตามผล

นอกจากนี้ในหน้าเว็บไซต์ยังมีข้อมูล สถิติที่น่าสนใจตั้งแต่ปี 2561-ปัจจุบัน ซึ่งทำให้เราทราบข้อมูลที่น่าสนใจและเห็นแนวโน้มของปัญหาออนไลน์เพื่อจะได้ระมัดระวังการใช้งานออนไลน์กันค่ะ

การเลี่ยงกับดักการให้รางวัลและการรับรู้ KM (Knowledge management, การจัดการความรู้)

ข้างล่างเป็นคำถาม 5 ข้อ สำหรับถามตัวเองเมื่อตัดสินใจวิธีที่จะให้รางวัลการมีส่วนร่วมใน KM ในองค์กร พร้อมด้วยเคล็ดลับเพื่อหลีกเลี่ยงกับดักในแต่ละขั้นตอน
1. การประสบผลสำเร็จใน KM ในที่สุดเป็นอย่างไร
เมื่อออกแบบกลยุทธ์การให้รางวัลและการรับรู้ KM เริ่มโดยคิดถึงสถานะสุดท้ายที่ต้องการ ต้องการอะไรเพื่อประสบผลสำเร็จในธุรกิจ จะทำให้เกิดสิ่งจูงใจในแต่ละบุคคลและเป็นกลุ่มจัดให้อยู่ในแนวเดียวกับจุดประสงค์ของ KM

กับดักเพื่อหลีกเลี่ยง
ผู้นำบ่อยครั้งสร้างจินตนาการที่หรูหราแต่ไม่ชัด เช่น กลายเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ หรือ สร้างวัฒนธรรมการแบ่งปันความรู้ เหล่านี้เป็นประโยชน์เพียงเมื่อถูกระบุ ต้องการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ แตกเป็นจุดประสงค์ที่จำเพาะ เช่น เร่งเวลาเพื่อการตลาดสำหรับความคิดใหม่ และสร้างแผนการพัฒนาความเชี่ยวชาญผูกกับความต้องการทักษะ เป้าหมายที่ชัดเจนง่ายมากกว่ามากที่จะทำงาน

2. การกระทำหรือพฤติกรรมอะไรที่ต้องการเพื่อสนับสนุน
เมื่อเข้าใจจุดประสงค์สำหรับ KM แสดงให้เห็นวิธีที่แต่ละบุคคลและทีมต้องสนับสนุน คนต้องทำอะไรเพื่อทำให้จุดประสงค์เป็นจริง ตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการขนย้ายการปฏิบัติที่ได้รับการตรวจสอบระหว่างที่ตั้ง จะต้องการทีมเพื่อทำให้การปฏิบัติเป็นเอกสารในคลังที่ถูกแบ่งปันหรือชุมชนที่แท้จริง ยังจะต้องการคนเยี่ยมชมคลังหรือชุมชน, เรียนรู้จาก post และประยุกต์ใช้รายละเอียดกับงานของตน

กับดักเพื่อหลีกเลี่ยง
หลายโปรแกรม KM เน้นปริมาณของผลงานมากกว่าคุณภาพในการวัด ซึ่งสามารถทำให้เกิดผลที่ไม่ตั้งใจ ถ้าให้รางวัลกับคนสำหรับการนำขึ้นหรือการ post สิ่งจำนวนมาก อาจจบด้วยด้อยกว่าหรือเป็นสองเท่าระบบที่เต็มไปด้วยขยะเนื้อหา และถ้าสร้างโควตาเป็นเดือนหรือเป็นปีสำหรับผลงาน เป็นไปได้ที่จะได้จำนวนมากของขยะก่อนแต่ละเวลาครบกำหนด กลยุทธ์ที่ดีกว่าคือให้รางวัลแก่คนที่แบ่งปันสิ่งที่ดี ตัวอย่างเช่น ถ้าคนอื่นอ่านและติดป้ายว่าเป็นประโยชน์
อีกหนึ่งความผิดพลาดปกติคือ ลืมไปให้รางวัลกับการใช้ซ้ำความรู้ ทีมซึ่งประยุกต์ใช้การปฏิบัติที่ได้รับการตรวจสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้านำไปสู่การปรับปรุงคุณภาพอย่างมากหรือประหยัดเวลาหรือค่าใช้จ่าย ควรจะได้รับการประชาสัมพันธ์มากเท่าทีมที่สร้างความรู้ มิฉะนั้นจะจบด้วยการไหลล้นคลังความรู้ซึ่งไม่มีใครกำลังใช้

3. สิ่งที่ถูกต้องที่จะเสนอคืออะไร
ถัดมาต้องตัดสินใจการให้รางวัลและการรับรู้ที่จำเพาะที่จะจัดให้และวิธีที่จะถูกให้ ตัวแปรรวมถึง:
– แต่ละบุคคลหรือทีม จะขอบคุณผู้สนับสนุนแต่ละบุคคลหรือกลุ่ม เช่น ชุมชน, โครงการ หรือหน่วยธุรกิจ หรือทั้งสอง
– จับต้องได้หรือจับต้องไม่ได้ จะมอบรางวัล หรือเน้นการรับรู้ของสาธารณะ, ความสามารถในการมองเห็นของผู้นำอาวุโส และโอกาสพัฒนาความเชี่ยวชาญใช่ไหม
– ต่อเนื่องหรือยึดติดกับเวลา พนักงานจะได้รับการรับรู้อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา หรือจะเป็นประจำปีใช่ไหม
– Top down หรือธรรมดา ผู้รับจะถูกเลือกและทำให้เห็นโดยทีม KM, ผู้นำองค์กร หรือเพื่อนร่วมงานใช่ไหม

กับดักเพื่อหลีกเลี่ยง
ในความพยายามเพื่อความยุติธรรมและครอบคลุมทุกรูปแบบของการมีส่วนร่วม โปรมแกรม KM อาจเสนอรางวัลมากเกินไปหรือสร้างกฎที่มีรายละเอียดซึ่งให้คะแนนพนักงานโดยใช้ 17 ตัวแปรที่แตกต่างกัน ทางเลือกหลายทางและความต้องการความเหมาะสมที่ซับซ้อนเป็นไปได้มากกว่าที่จะทำให้พนักงานสับสนกว่าถูกกระตุ้น ระบบและเกณฑ์สำหรับการรับรู้ควรโปร่งใสและง่ายที่จะเข้าใจ

4. อะไรเป็นข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณและแหล่งทรัพยากร
การรู้ข้อจำกัดทำให้วิธีการดีขึ้น มีเงินเพื่อจัดงานเหตุการณ์ให้รางวัลหรือเสนอรางวัลหรือ SWAG ใช่ไหม สามารถซื้อซอฟต์แวร์เพื่อทำให้เป็นอัตโนมัติ KM gamification ใช่ไหม อาจต้องการที่จะปรับลดความคาดหวัง หรือสร้างกรณีธุรกิจเพื่อการจัดหาเงินทุนมากขึ้น

ก่อนที่จะบอกว่าต้องการเงิน คิดอย่างจริงจังเกี่ยวกับต้องการเงินใช่ไหม รางวัลเล็ก เช่น เหยือกหรือแผ่นรองเมาส์สามารถเหมาะสมเหมือนรางวัลใหญ่ แท้จริงเงินสดและรางวัลใหญ่มีโอกาสที่จะทำให้เกิดความโกรธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคนไม่เห็นด้วยกับวิธีผู้รับถูกเลือก

กับดักเพื่อหลีกเลี่ยง
หลายโปรแกรม KM เน้นที่ค่าใช้จ่ายของรางวัล แต่มองข้ามแหล่งทรัพยากรที่ต้องการเพื่อจัดการรางวัล กระบวนการประเมินที่ซับซ้อนอาจต้องการการดูแลที่มากกว่ากว่าทีม KM ขนาดเล็กสามารถจัดให้ ถ้า KM ไม่มีเวลาเพื่อประเมินค่าและทบทวนการเสนอตรงเวลา ความล่าช้าอาจทำให้ผู้มีส่วนร่วมผิดหวังและทำให้ความกระตือรือร้นน้อยลงสำหรับ KM อย่าสัญญามากกว่าสามารถส่งออก

5. กำลังจะวางแผนอะไรทำให้วัฒนธรรมเหมาะสมใช่ไหม
ประเมินรางวัลและการรับรู้ในบริบทของวัฒนธรรม เงินสดเป็นเพียงสิ่งที่เคลื่อนย้ายพนักงานใช่ไหม หรือทำให้โอกาสมีคุณค่าเพื่อสร้างความมีชื่อเสียงและสนับสนุนภารกิจใช่ไหม รางวัลจะมีความหมายมากที่สุดมาจากผู้นำอาวุโส หรือคนมีความเคารพมากกว่าสำหรับผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายเพื่อนร่วมงานใช่ไหม ทุกองค์กรแตกต่างกัน อะไรที่เหมาะกับหนึ่งองค์กรอาจไม่เหมาะกับองค์กรอื่น ๆ

กับดักเพื่อหลีกเลี่ยง
บางทีม KM เสียเวลาทำในสิ่งที่คนอื่นทำมาแล้วเมื่อไม่ต้องการ ถ้า HR หรือความเป็นผู้นำมีแล้วโปรแกรมการรับรู้พนักงาน อาจสามารถเข้าไปเกี่ยวข้องโดยเสนอชื่อผู้สนับสนุน KM เพื่อรางวัลและโอกาส หรือเพิ่มการรับรู้จำเพาะ KM ไปยังโปรแกรม ถ้าการให้รางวัลมีการรับรู้ชื่อแล้วและกระบวนการที่ถูกสร้างขึ้น อาศัยสิ่งเหล่านี้สามารถต่อไปรวม KM เข้าไปในวัฒนธรรมในขณะมีเวลาว่างของทีมเพื่อจุดประสงค์อื่น ๆ

ที่มา: Lauren Trees (February 25, 2021). Escape the Sand Traps of KM Rewards and Recognition. Retrieved August 6, 2021, from https://www.apqc.org/blog/escape-sand-traps-km-rewards-and-recognition

Content Management Process คืออะไร

Content Management Process ที่ดีจะไม่ประสบผลสำเร็จในระยะยาว โดยปราศจากการจัดให้อยู่ในแนวเดียวกับและรวมเข้าในกระบวนการทางธุรกิจ และการควบคุมซึ่งทำให้เกิดความรับผิดชอบและการเกาะติดกับกระบวนการและนโยบาย

Content Management มีหลายชั้นซึ่งบ่อยๆ ไม่ชัดเจนโดยคำสัญญาของเทคโนโลยีและการทำให้เป็นอัตโนมัติที่ดี ผู้ขายถูกต้องการเพื่อสนับสนุนการพัฒนาและการจัดการของ content management processes และกลุ่มของแหล่งทรัพยากรที่อุทิศถูกต้องการเพื่อสนับสนุนการจับและการเข้าถึงเนื้อหา สิ่งเหล่านี้อาจถูกต้องการเพื่อขับเคลื่อนและหรือทำให้เกิดการประยุกต์ใช้ที่ประสบผลสำเร็จ แต่เมื่อมองไปทั่วการประยุกต์ใช้การจัดการเนื้อหาที่ประสบผลสำเร็จซึ่งคงอยู่และปรับปรุงเมื่อเวลาผ่านไป มีหนึ่งสิ่งปกติ คือ พื้นฐานการจัดการกระบวนการที่แข็งแรง

วิธีเริ่ม Content Management
1. คำจำกัดความที่ดีของเนื้อหา คืออะไรและไม่คืออะไร
2. กรณีธุรกิจซึ่งสามารถชี้ว่าแสดงผลกระทบต่อผลลัพธ์ของธุรกิจ
3. วิธีการและแผน
4. ผู้นำธุรกิจยินดีจะให้เวลาและแหล่งทรัพยากรเพื่อการทดสอบเริ่มต้น
5. ความคิดกระบวนการดังนั้น content management ถูกฝังในขั้นตอนการทำงานเพื่อกลายเป็นมาตรฐาน

ที่มา: Cindy Hubert (April 19, 2021). What is a Content Management Process?. Retrieved August 6, 2021, from https://www.apqc.org/blog/what-content-management-process

Digital Transformation คืออะไร

Digital transformation ประกอบด้วย 2 คำ คือ Digital และ Transformation Digital หรือเทคโนโลยี และ Transformation หรือการเปลี่ยนแปลง หมายความว่า digital transformation ในองค์กรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีภายในธุรกิจซึ่งทำให้เกิดผลประโยชน์ที่วัดได้ Transformation ไม่ควรเป็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งนำไปสู่ความแตกต่าง แต่ควรเป็นการเปลี่ยนแปลงที่นำสู่สิ่งที่ดีกว่า โดยสรุป digital transformation เป็นคำที่กว้าง แม้แต่สองคนภายในองค์กรเดียวกันสามารถพูดถึงคำเดียวกัน แต่อาจกำลังคิดถึงสองความคิดที่ตรงข้ามกัน

Digital transformation ถูกใช้อย่างกว้างขวาง ไม่แน่ใจว่าถ้าถามผู้บริหาร 10 คนเพื่อนิยามความหมายของคำนี้ จะได้รับคำตอบที่เหมือนกัน สำหรับบางคน เป็นการใช้ประโยชน์ปัญญาประดิษฐ์ (artificial intelligence) สำหรับคนอื่นๆ หมายถึงการย้าย applications ทั้งหมดไปสู่ cloud หรือทำให้เป็นอัตโนมัติกระบวนการธุรกิจทั้งหมด ผู้บริหารคนหนึ่งจะพูดว่าหมายถึงการใช้กลยุทธ์ mobile หรือปรับปรุงเว็บไซต์ของบริษัทใหม่เพื่อเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้ามากขึ้น ในขณะที่ผู้บริหารการเงินอาจพูดว่าเป็นการนำหลักการบัญชีหุ่นยนต์หรือการวิเคราะห์ขั้นสูงมาใช้ ชัดเจนว่า digital transformation สามารถหมายถึงสิ่งที่แตกต่างกันจากคนที่แตกต่างกัน

เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องเข้าใจ digital transformation ไม่คืออะไร ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมทางเทคโนโลยีโดยปราศจากผลประโยชน์ที่สังเกตเห็นได้ไม่เป็น digital transformation

ที่มา: Perry Wiggins (May 11, 2021). What is Digital Transformation?. Retrieved July 26, 2021, from https://www.apqc.org/blog/what-digital-transformation

วิธีทำให้เกิดผลของการจัดการความรู้ (KM, knowledge management) เร็วขึ้น

1. ตรวจสอบการจัดให้อยู่แนวเดียวกับธุรกิจ
โปรแกรม KM จะไม่ไปไหนเลยถ้าไม่ถูกจัดให้อยู่ในแนวเดียวกับธุรกิจ ข้างล่างเป็น 5 คำถามซึ่งสามารถถามผู้บริหารเพื่อระบุปัญหาธุรกิจที่ถูกต้องสำหรับ KM เพื่อแก้ปัญหา
– มีความรู้ซึ่งต้องการเพื่อการแข่งขันในระยะสั้นใช่ไหม
– ต้องการความรู้อะไรเพื่อปรับปรุงและตอบสนองความต้องการในระยะยาว
– ผู้แตกต่าง (differentiator(s)) ในตลาดสามารถถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นอะไร ถ้าความรู้และความเชี่ยวชาญถูกแบ่งปันและถ่ายทอดมากขึ้น
– มีความท้าทายปัจจุบันหรือกำลังจะเกิดขึ้นซึ่งเกี่ยวกับความรู้ใช่ไหม
– การประสบความสำเร็จของ KM เป็นอย่างไรสำหรับองค์กร
ตอบคำถามเหล่านี้สามารถช่วยระบุคุณค่าสำหรับโปรแกรม KM ในขณะที่ยังระบุ เช่น ความคาดหวังของความเป็นผู้นำ และความท้าทายที่มีศักยภาพ เมื่อสร้างเหตุผลและขอบเขตของความพยายาม KM กำหนดวัตถุประสงค์, KPIs, ความต้องการแหล่งทรัพยากร, ค่าใช้จ่าย, ผลประโยชน์ และ timeline สำหรับการประยุกต์ใช้ในกรณีธุรกิจ KM

2. สร้างกลุ่มคนที่มีสมรรถนะสูง
พนักงานเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน KM แต่ต้องการกลุ่มคนที่ดีของบทบาท KM เพื่อทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ดี เมื่อต้องสร้างกลุ่มคน จะดีกว่าที่จะคิดนอกจากทีม KM หลัก ในขณะที่ทุกโปรแกรม KM ต้องการอย่างน้อยเจ้าหน้าที่ที่อุทิศตน งานวิจัยของ APQC (American Productivity and Quality Center) พบว่าไม่มีความสัมพันธ์ทางสถิติระหว่างขนาดของเจ้าหน้าที่ KM ขององค์กรและอัตราของการมีส่วนร่วมของ KM หรือการรับรู้ของประสิทธิภาพ

แม้แต่ทีม KM ขนาดเล็กสามารถประสบผลสำเร็จด้วยการสนับสนุนของอาสาสมัคร, ผู้ชนะเลิศ KM และผู้ใช้ในธุรกิจ เพราะว่าพูดภาษาของธุรกิจ สามารถพูดคุยเกี่ยวกับ KM ได้อย่างเชื่อมั่นกับเพื่อนร่วมงาน สามารถสนับสนุนคนซึ่งต้องการความช่วยเหลือ และที่สำคัญสามารถชี้อุปสรรคซึ่งทีม KM หลักอาจไม่เคยพบมาก่อน มีคนในธุรกิจเพื่อสนับสนุน KM เป็นสิ่งที่มีประสิทธิภาพมากซึ่งกำลังเห็นองค์กรมากขึ้นทำวิธีนี้ให้เป็นทางการด้วยได้รับการฝึกหัดและอย่างเป็นทางการเต็มเวลา, เป็นบางเวลา หรืออาสาสมัครบทบาทสนับสนุน KM ถูกฝังในธุรกิจ

3. ให้ความสนใจภายนอก (Shine Up the Exterior)
จะไปได้ไกลถ้ามีกลยุทธ์ที่ดีและคนที่ถูกต้อง นอกจากนี้เห็นคุณค่าของความพยายามให้ความสนใจภายนอกด้วยแบรนด์ KM ที่น่าสนใจและกลยุทธ์ส่งข้อความ (messaging strategy) จำไว้ว่า KM ต้องแข่งขันอย่างต่อเนื่องสำหรับความสนใจของพนักงาน จะไม่สร้างความตื่นเต้นอะไรเลยในการแบ่งปันความรู้ถ้า KM ดูเหมือนอินเทอร์เน็ตที่เก่า

ก่อนที่ใช้แบรนด์และการส่งข้อความ ให้ความสนใจที่ชุดเครื่องมือ KM เมื่อเชื่อว่าเครื่องมือดีที่จะใช้ พัฒนาแบรนด์ KM ที่แข็งแรงและที่จดจำง่าย ต่อมาวางแผนกลยุทธ์ส่งข้อความโดยถาม ทำไมคนที่องค์กรควรสนใจเกี่ยวกับ KM โดยปกติตอบคำถามนี้นำไปสู่ภารกิจ, คุณค่า และกลยุทธ์ที่ขยายขึ้นขององค์กร ตัวอย่างเช่น ถ้าคนแบ่งปันและใช้ซ้ำความรู้ จะสามารถให้การบริการที่ดีกว่าแก่ลูกค้า

ต่อมาพัฒนาและจัดการแผนการสื่อสาร KM จะต้องกระจายข้อความจำนวนมาก แต่กรุณาอย่าให้ทุกสิ่งทุกอย่างไปยังทุกคนในทุก platforms ต้องแบ่งผู้ฟัง KM และพัฒนาแผนเป้าหมายซึ่งเหมาะกับคนที่ถูกต้องที่เวลาที่ถูกต้องที่ช่องทางที่ถูกต้อง

ที่มา: Mercy Harper (February 20, 2020). How to Speed Up Knowledge Management Results. Retrieved July 26, 2021, from https://www.apqc.org/blog/how-speed-knowledge-management-results

ตอนที่ 3 รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

นักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของนักวิจัยอาวุโส และนักวิจัย ประกอบด้วยคุณวรรณสิกา เกียรติปฐมชัย และคณะ ดร.ชูศักดิ์ ธนวัฒโน ดร.นพดล นันทวงศ์ และคณะ ดร.ชัญญา พุทธิขันธ์ และคณะ ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ และคณะ ดร.นัยนา สหเวชชภัณฑ์ และคณะ ดร.ศิษเฎศ ทองสิมา ดร.สิทธิโชค ตั้งภัสสรเรือง ดร.อุรชา รักษ์ตานนท์ชัย ดร.แสงจันทร์ เสนาปิน ดร.กอบกุล เหล่าเท้ง ดร.สุรพิชญ ลอยกุลนันท์ และ ศ.ดร.อภิชาติ วรรณวิจิตร

ตอนที่ 2 VDO รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ ผู้อำนวยการศูนย์แห่งชาติ และผู้บริหาร

รางวัลนักวิจัยดีเด่นระดับนานาชาติ และนักวิจัยดีเด่นระดับชาติ

ผู้อำนวยการศูนย์แห่งชาติ และผู้บริหาร

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของผู้อำนวยการศูนย์แห่งชาติ และผู้บริหาร ประกอบด้วย ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ และคณะ ดร.ศรัณย์ สัมฤทธิ์เดชขจร ดร.จุลเทพ ขจรไชยกูล และคณะ ดร.สมวงษ์ ตระกูลรุ่ง ดร.วรรณี ฉินศิริกุล และคณะ ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ดร.วรรณพ วิเศษสงวน ดร.ธีรยุทธ ตู้จินดา ดร.ศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม และคณะ เป็นต้น

ตอนที่ 1 เกียรติคุณและรางวัล ผู้อำนวยการ สวทช. อดีต-ปัจจุบัน

เกียรติคุณและรางวัล ผู้อำนวยการ สวทช. อดีต-ปัจจุบัน

เผยแพร่เกียรติคุณและรางวัลของผู้อำนวยการ สวทช. ประกอบด้วย ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ รศ.ดร.ศักรินทร์ ภูมิรัตน ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล และ ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ด้วยความรู้ความสามารถในการบริหารงาน สวทช. มาตั้งแต่ปี 2534 จนถึงปัจจุบัน ก่อให้เกิดคุณูปการและประโยชน์ในวงวิชาการอย่างแพร่หลาย พร้อมกันนี้ได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติจากทั้งเวทีระดับชาติและนานาชาติมาโดยตลอด

3 วิธีการที่จะทำให้การจัดการความรู้ (KM, knowledge management) เข้าไปอยู่ในงานที่แท้จริง

กำลังมองหาองค์กรชั้นนำใช้วิธีที่ยั่งยืนมากกว่าโดยใช้บทบาท (roles), ชุดทักษะ (skillsets) และกระบวนการ (processes) เพื่อฝัง KM

บางองค์กรใช้บทบาท (roles) สนับสนุน KM ในธุรกิจเพื่อทำให้เกิดการสนับสนุนและการชี้แนะที่มีอิทธิพลมาก บทบาทเหล่านี้ยังป้องกันการตอบกลับซึ่งทำให้ KM พัฒนาอย่างต่อเนื่องชุดเครื่องมือและกลยุทธ์ หนึ่งองค์กรที่ใช้วิธีนี้คือ Pfizer ซึ่งผู้เชี่ยวชาญพิเศษ KM เพิ่มการมีส่วนร่วมที่ระดับท้องถิ่นได้อย่างประสบผลสำเร็จ

หลายองค์กรยังกำลังระบุและทำให้เกิดขึ้น KM ชุดทักษะะ (skillsets) เมื่อคนในธุรกิจมีทักษะเพื่อทำ KM ของตนเอง สามารถสร้างการแบ่งปันความรู้และใช้ซ้ำในงานซึ่งมีประโยชน์ และเมื่อองค์กรรู้ว่า KM เป็นชุดทักษะ KM กลายเป็นหนทางสำหรับพนักงานเพื่อเติบโตและสูงขึ้นในอาชีพ ตัวอย่างเช่น Schlumberger จัดให้มีแหล่งทรัพยากรจำนวนมากเพื่อช่วยพนักงานพัฒนาและแสดงทักษะ KM และทักษะเหล่านี้เป็นที่ต้องการเพื่อก้าวสูงขึ้นบันไดอาชีพที่แน่นอน

การสร้าง KM ในกระบวนการ (processes) ธุรกิจที่มีอยู่แล้ว เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพ เมื่อวาง KM ในกระบวนการซึ่งคนใช้แล้ว จะเตือนให้มีส่วนร่วมในโอกาสที่ถูกต้องและทำให้ KM รู้สึกสำคัญกับงาน มีหนทางเล็กน้อยที่จะทำ แต่เนื่องจากองค์กรส่วนใหญ่จัดโครงสร้างงานในรูปแบบของโครงการ การรวม KM เข้าไปในการจัดการโครงการเป็นเรื่องปกติ หนึ่งตัวอย่างมาจาก Consolidated Contractors Company ซึ่ง KM ถูกสร้างในบทบาทโครงการหลักและวงจรชีวิตโครงการทั้งหมด

ที่มา: Mercy Harper (February 13, 2020). 3 Ways to Bake KM into Real Work. Retrieved July 26, 2021, from https://www.apqc.org/blog/3-ways-bake-km-real-work

วิธีส่งเสริมวัฒนธรรมการจัดการความรู้ (KM, knowledge management)

โดยพื้นฐาน วัฒนธรรมเป็นดินขององค์กร เมื่ออุดมสมบูรณ์ KM เจริญ เมื่อแข็งและเป็นหิน KM ต่อสู้เพื่อให้เกิดราก

ข้างล่างเป็น 5 วิธี ที่ช่วยให้โปรแกรม KM เติบโตในวัฒนธรรมซึ่ง KM ถูกเพาะปลูกแล้ว
– เพาะปลูกเมล็ดที่ถูกต้อง ทำงานกับผู้นำอาวุโสเพื่อให้แน่ใจว่า KM มุ่งไปที่ปัญหาธุรกิจที่ถูกต้อง
– โน้มเอียงต่อราก ความคาดหวังการปฏิบัติเป็นรากของพฤติกรรมพนักงาน เป็นที่ต้องการและไม่เป็นที่ต้องการ ทำงานร่วมกับ HR เพื่อทำให้ เช่น จุดประสงค์การปฏิบัติ โอกาสการเติบโตทางอาชีพ อยู่ในแนวเดียวกับ KM
– สอนคนทำสวน ทำให้ผู้นำและผู้จัดการเห็นวิธีที่พวกเขาสามารถช่วยวัฒนธรรม KM เจริญผ่านการสื่อสารและเป็นแบบอย่างแก่ผู้อื่น คนเหล่านี้ยุ่ง ดังนั้นต้องบอกว่า KM ต้องการอะไรจากพวกเขาและสอนวิธีที่จะได้สิ่งนั้น
– หยุดวัชพืช ข้อจำกัดทางภาษาและภูมิศาสตร์สามารถป้องกันวัฒนธรรม KM จากการแผ่ขยายทั่วทั้งองค์กร กำจัดข้อจำกัดเหล่านี้ด้วยการจัดหมวดหมู่องค์กร, เครื่องมือแปลภาษา และชุมชนนักปฏิบัติทั่วโลก
– ให้แสงแดด ส่องแสงไปยังพฤติกรรม KM ที่ดีและเรื่องราวที่ประสบผลสำเร็จด้วยรางวัลและการรับรู้

ที่มา: Mercy Harper (February 27, 2020). How to Foster a KM Culture. Retrieved July 26, 2021, from https://www.apqc.org/blog/how-foster-km-culture