![](https://waa.inter.nstda.or.th/stks/images/2020/20200220-guidelines-risk-nstda-case-study.png)
ในโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง มีความผันผวน ไม่แน่นอน ซับซ้อน และยากจะคาดเดานั้น “การบริหารจัดการองค์กรไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรือภาคอุตสาหกรรมต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม” การนำระบบบริหารความเสี่ยงมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องสำคัญ
หนังสือ “แนวทางการบริหารความเสี่ยงองค์กร กรณีศึกษา สวทช.” เล่มนี้ได้ผ่านการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการบริหารความเสี่ยงของ สวทช. จึงขอนำเสนอเผยแพร่ให้กับองค์กรอื่นๆ นำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการจะพัฒนากระบวนการบริหารความเสี่ยงเพื่อใช้เป็นเครื่องมือหนึ่งสำหรับริหารจัดการองค์กร
[
Download หนังสือ] | [View as flip book]
10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง
1. เครื่องข่ายมือถือ 5G/6G (Mobile Network 5G/6G)
2. การคำนวณและวิศวกรรมควอนตัม (Quantum Coumputing and Engineering)
3. เอไอแห่งอนาคต (Future Artificial Intelligence)
4. การเดินทางแบบไร้รอยต่อ (Mobility-as-a-Service, Maas)
5. เซลล์แสดงอาทิตย์เพอรอฟสไกด์ (Perovskite Solar Cell)
6. แบตเตอรี่ลิเทียมยุคหน้า(Next Generation Lithium Ion Batterles)
7. โครงเสริมภายนอกกาย (Exoskeletion)
8. ไฟเบอร์สารพัดประโยชน์จากจุลินทรีย์
(Microbial Multifunctional Fiber)
9. กายจำลองทดสอบยา (Companion Diagnostics)
10. วัคซีนมะเร็งเฉพาะบุคคล (Personalized Cancer Vaccine)
![10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ปี 2562 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ปี 2562](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2020/01/images_001-pr_Artboard_1_copy_74x.png)
![10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ปี 2562 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ปี 2562](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2020/01/images_001-pr_Artboard_1_copy_84x.png)
![10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ปี 2562 10 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ปี 2562](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2020/01/images_001-pr_Artboard_1_copy_94x.png)
เมื่อมองไปรอบๆ ตัวจะพบว่าพลาสติกเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างมากในชีวิตประจำวัน โดยใช้ไม่เพียงเพื่อความสะดวกเช่น ถุงพลาสติก และขวดพลาสติก แต่ยังเพื่อการประยุกต์ใช้ที่จำเป็นเช่น การบรรจุอาหาร และอุปกรณ์การแพทย์ เนื่องจากพลาสติกเป็นวัสดุที่ดีที่สุดที่มีอยู่ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการพลาสติกที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีการผลิตพลาสติกเกือบ 400 ล้านตันต่อปีทั่วโลก และตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้น 4 เท่าในปี 2050 ทุกวันนี้มีการทิ้งพลาสติกมากกว่า 3 ใน 4 ส่วนหลังจากใช้ครั้งเดียว ทำให้เหลือพลาสติกในหลุมฝังกลบหรือสิ่งแวดล้อม รู้หรือไหมขยะพลาสติกใช้เวลาเป็นพันปีเพื่อย่อยสลาย ดังนั้นจะดีไหมถ้าสามารถเปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงเช่น เครื่องสำอาง ผงซักฟอก หรือน้ำมันหล่อลื่น
ดังนั้นจึงมีการรวมตัวกันระหว่างนักวิจัยจากหลายสถาบัน ได้แก่ ห้องปฏิบัติการแห่งชาติ Argonne และห้องปฏิบัติการ Ames ของกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา, มหาวิทยาลัย Northwestern, มหาวิทยาลัย Cornell, มหาวิทยาลัย South Carolina และมหาวิทยาลัย California Santa Barbara เพื่อทำให้ฝันนั้นเป็นจริง
ในขณะที่บางส่วนของขยะพลาสติกถูกนำกลับมาใช้ใหม่ (recycled) แต่ผลิตภัณฑ์ที่ได้มีคุณภาพและคุณค่าต่ำกว่าพลาสติกตั้งต้น เมื่อเร็วๆ นี้ทีมวิจัยดังกล่าวได้รายงานในวารสาร ACS Central Science ว่าสามารถค้นพบวิธีเร่งปฏิกิริยาสำหรับเปลี่ยนขยะพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง เช่น น้ำมันหล่อลื่น หรือขี้ผึ้ง (waxes) ต่อมาขี้ผึ้งสามารถเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ในชีวิตประจำวันเช่น ผงซักฟอก และเครื่องสำอาง
ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้คือ อนุภาคนาโนแพลทินัม (platinum nanoparticles) แต่ละอนุภาคมีขนาดเพียง 2 นาโนเมตร ถูกยึดไว้บน perovskite nanocuboids มีขนาดประมาณ 100 นาโนเมตร ทีมวิจัยเลือกใช้ perovskite เพราะคงตัวมากๆ ในอุณหภูมิและความดันที่ใช้ในการเร่งปฏิกิริยาและได้รับการทดสอบว่าเป็นวัสดุที่ดีเป็นพิเศษสำหรับการเปลี่ยนพลังงาน
ทีมวิจัยเลือกใช้วิธี atomic layer deposition เป็นวิธีวางอนุภาคนาโนแพลทินัมบน perovskite nanocuboid ทำให้ควบคุมขนาดอนุภาคนาโนได้แม่นยำ ซึ่งเป็นวิธีที่ได้รับการพัฒนาโดยห้องปฏิบัติการ Argonne และมหาวิทยาลัย Northwestern
เริ่มจากการทดสอบตัวเร่งปฏิกิริยากับ polyethylene ที่ใช้สำหรับงานวิจัย ผลที่ได้คือตัวเร่งปฏิกิริยาสามารถเปลี่ยน polyethylene ซึ่งเป็นส่วนประกอบที่พบได้ทั่วไปมากที่สุดในพลาสติกเป็นผลิตภัณฑ์ของเหลวคุณภาพสูงปริมาณมาก ต่อมาได้ทดสอบตัวเร่งปฏิกิริยากับถุงพลาสติกที่มีวางจำหน่าย พบว่าตัวเร่งปฏิกิริยาให้ผลกับถุงพลาสติกเหมือนกับการใช้ polyethylene อย่างเดียวและผลิตน้อยกว่ามากไฮโดรคาร์บอนที่มีขนาดเล็ก (ตัวอย่างเช่น methane และ ethane) ที่เกิดขึ้นในกระบวนการ pyrolysis (กระบวนการให้ความร้อนที่อุณหภูมิสูง) หรือใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาทั่วไปซึ่งประกอบด้วยอนุภาคนาโนแพลทินัมอยู่บนสารตั้งต้น alumina
ต่อมาทีมวิจัยได้คำนวณตามทฤษฎี พบว่ามี 2 ลักษณะหลักที่มีผลต่อประสิทธิภาพของตัวเร่งปฏิกิริยา อย่างแรกคือความสามารถคงตัวในอุณหภูมิเนื่องจากการลงตัวทางเรขาคณิตระหว่างรูปร่างเป็นลูกบาศก์ของอนุภาคนาโนแพลทินัมและ perovskite nanocuboid อย่างที่สองคือความไม่เป็นรูของวัสดุ perovskite ซึ่งช่วยให้เกิดปฏิกิริยาเร่ง
การค้นพบครั้งนี้คงเป็นข่าวดีของใครหลายคนที่สามารถใช้ประโยชน์จากขยะพลาสติก แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมได้เป็นผลสำเร็จ แต่ยังหวังว่าจะได้ยินข่าวดีแบบนี้อยู่เรื่อยๆ ในอนาคตข้างหน้า
ที่มา: Joseph E. Harmon (2019, October 23). Rethinking the science of plastic recycling. Argonne National Laboratory. Retrieved January 13, 2019, from https://www.anl.gov/article/rethinking-the-science-of-plastic-recycling
การติดตั้ง Greenstone 3.09 สำหรับ Windows
Download โปรแกรมได้ที่ http://www.greenstone.org/download
- เลือก Download โปรแกรมที่สำหรับใช้ในระบบปฏิบัติการ Windows
- ติดตั้งโปรแกรม
เลือกภาษาสำหรับแสดงในโปรแกรม คลิกปุ่ม Next
![](https://waa.inter.nstda.or.th/stks/images/2020/20190115-gsdl-002.png)
ตำแหน่งติดตั้งโปรแกม ถ้าไม่เปลี่ยนคลิกปุ่ม Next
– เปลี่ยนตำแหน่งคลิกปุ่ม Browser
![](https://waa.inter.nstda.or.th/stks/images/2020/20190115-gsdl-003.png)
ติดตั้งโปรแกรมเสริมที่จำเป็น คลิกปุ่ม Next ต่อไปได้เลย
![](https://waa.inter.nstda.or.th/stks/images/2020/20190115-gsdl-004.png)
ตั้งรหัสผ่าน สำหรับเข้าใช้งาน คลิกที่ช่องสี่เหลี่ยม คลิกปุ่ม Next
![](https://waa.inter.nstda.or.th/stks/images/2020/20190115-gsdl-006.png)
คลิกปุ่ม Install
![](https://waa.inter.nstda.or.th/stks/images/2020/20190115-gsdl-007.png)
![](https://waa.inter.nstda.or.th/stks/images/2020/20190115-gsdl-009.png)
- เมื่อติดตั้งโปรแกรมเรียบร้อยแล้ว ให้เปิดที่ Start –> Greenstone –> Greenstone Librarian Interface(GLI) เพื่อเปิดใช้งานโปรแกรม Greenstone
![](https://waa.inter.nstda.or.th/stks/images/2020/20190115-gsdl-011.png)
ถ้าเรามองไปในชีวิตประจำในโลกยุคใหม่จะพบว่ามีพลาสติกมาเกี่ยวข้องอย่างมาก รู้ไหมว่าพลาสติกเหล่านั้นเกิดมาจากโพลิเมอร์สังเคราะห์ที่มีส่วนประกอบของคาร์บอนเป็นหลัก (โมเลกุลอินทรีย์ขนาดใหญ่ที่ประกอบขึ้นจากหน่วยย่อยซ้ำๆ กันที่เรียกว่า โมเลกุลเดี่ยว (โมโนเมอร์)) โพลิเมอร์ถูกออกแบบให้ทนทานต่อการทำลาย เมื่อมาดูทั่วโลกมีการผลิตพลาสติกมากน้อยแค่ไหน พบว่ามีการผลิตมากกว่า 400 ล้านเมตริกซ์ตันต่อปี ด้วยมากกว่า 8 พันล้านเมตริกซ์ตันถูกผลิตในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา เฉลี่ยแล้วมีการผลิตเพิ่มขึ้น 36% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาและมีแนวโน้มที่จะผลิตถึง 700 ล้านเมตริกซ์ตันในปี 2030 (พลาสติกจะถูกผลิตเพื่อทุกคนบนโลกประมาณ 80 กิโลกรัม) ทั่วโลกพลาสติกที่ถูกทิ้ง 20% จะถูกนำกลับมาใช้ใหม่ (น้อยกว่า 10% ในสหรัฐอเมริกา) โดยกระบวนการเชิงกลเป็นหลัก และประมาณ 25% ถูกเผาเพื่อให้ได้พลังงานออกมา มากกว่าครึ่งถูกเก็บในหลุมฝังกลบหรือถูกปล่อยสู่สิ่งแวดล้อม ดังนั้นพลาสติกของเสียเป็นปัญหาต่อสิ่งแวดลอมในระยะยาว ตัวอย่างเช่น ด้วยอัตราของการผลิตและการทิ้งพลาสติกในปัจจุบัน ได้รับการทำนายว่าปริมาณพลาสติกของเสียในมหาสมุทรจะมากกว่าปริมาณของปลาในปี 2050
พลาสติกเป็นแหล่งของสารเคมี เชื้อเพลิง และวัสดุ ถึงแม้การเผาจะกำจัดของเสียและได้พลังงานออกมา แต่ใช้หมดไปแหล่งที่มีประโยชน์และสร้างผลพลอยได้ที่ไม่ต้องการ การนำกลับมาใช้ใหม่ที่อาศัยกระบวนการเชิงกล (mechanical recycling) ซึ่งเกี่ยวกับการตัดเป็นชิ้นๆ การให้ความร้อน และการสร้างขึ้นใหม่ของพลาสติก มีประสิทธิภาพมากกว่าการผลิตพลาสติกจากผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ใช้พลังงานน้อยกว่าครึ่งเพื่อผลิตพลาสติกใหม่ แต่วิธีนี้ลดคุณค่าของพลาสติก การนำกลับมาใช้ใหม่ที่อาศัยวิธีทางเคมี (chemical recycling) เปลี่ยนโพลิเมอร์เป็นตัวกลางระดับโมเลกุลซึ่งใช้เป็นหน่วยโครงสร้างเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้พลาสติกที่ถูกทิ้งกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูง อย่างไรก็ตามวิธีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน (ตัวอย่างเช่น การใช้อุณหภูมิสูงที่ไม่มีออกซิเจน) ต้องการพลังงานมากและกระบวนอื่นๆ อีกเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ วิธีการใหม่คือ polymer upcycling เป็นการเปลี่ยนโพลิเมอร์เป็นสารเคมี เชื้อเพลิง หรือตัวกลางระดับโมเลกุลและต่อจากนั้นสร้างใหม่ตัวกลางเหล่านั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงภายใต้สภาพที่ไม่รุนแรง
Basic Energy Sciences ภายใต้กระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกาจัดการประชุมในหัวข้อ Chemical Upcycling of Polymers ในเดือนเมษายน 2019 เพื่อระบุปัญหาพื้นฐานและการวิจัยที่สามารถเปลี่ยนพลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นเชื้อเพลิง สารเคมี และวัสดุที่มีมูลค่าสูงขึ้น จากการประชุมดังกล่าวได้ระบุ 4 งานวิจัยที่ควรให้ความสนใจก่อนเพื่อจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางเคมีและกระบวนการทางฟิสิกส์ที่ซับซ้อนที่ใช้ในการเปลี่ยนพลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง งานวิจัยดังกล่าวได้แก่
1. รู้อย่างละเอียดกลไกการเปลี่ยน สร้างใหม่ และการทำหน้าที่ของโพลิเมอร์
ต้องการตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การเปลี่ยนโมเลกุลขนาดใหญ่ และกระบวนการทางเคมีใหม่เพื่อเปลี่ยนสายโพลิเมอร์ในพลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นตัวกลางซึ่งสามารถถูกสร้างใหม่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ (ตัวอย่างเช่น สารเคมี เชื้อเพลิง หรือโพลิเมอร์ใหม่)
2. เข้าใจและค้นหากระบวนการเปลี่ยนพลาสติกผสมเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
พัฒนาสารเคมีที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงาน วิธีเร่งปฏิกิริยาและแยกใหม่ที่จะแก้ปัญหาทางเคมีและฟิสิกส์ของพลาสติกผสม จะทำให้เกิดการเปลี่ยนพลาสติกผสมเป็นสารเคมีและเชื้อเพลิง รวมถึงวัสดุใหม่
3. ออกแบบโพลิเมอร์รุ่นถัดไปสำหรับการหมุนเวียนทางเคมี
ต้องออกแบบพลาสติกใหม่ให้มีคุณสมบัติและการหมุนเวียนทางเคมีตามต้องการเพื่อทำให้เกิดการนำพลาสติกกลับมาใช้ใหม่และ chemical upcycling พัฒนาเคมีโมโนเมอร์และโพลิเมอร์ใหม่ซึ่งทำให้เกิดโพลิเมอร์รุ่นถัดไปที่มีคุณสมบัติเหมือนหรือดีกว่าโพลิเมอร์ปัจจุบันและทำให้เกิดวงจรชีวิตวงกลมใช้กระบวนการที่ใช้อะตอมและพลังงานที่มีประสิทธิภาพ
4. พัฒนาเครื่องมือใหม่เพื่อค้นหาและควบคุมกลไกทางเคมีสำหรับการเปลี่ยนโมเลกุลขนาดใหญ่
การศึกษาลักษณะแบบ in situ และ operando รวมกับการสร้างแบบจำลองโดยใช้คอมพิวเตอร์แบบ real-time การจำลอง และการวิเคราะห์ข้อมูล จะทำให้เข้าใจกลไกและ kinetic ของการเปลี่ยน การสร้างใหม่ และการแยก เทคนิคเหล่านี้จะช่วยออกแบบการเปลี่ยนทางเคมีและกระบวนการใหม่สำหรับเปลี่ยนพลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ
สรุป
Chemical upcycling จากพลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นเชื้อเพลิง สารเคมี หรือวัสดุที่มีมูลค่าสูงจะเปลี่ยนแปลงวงจรชีวิตของพลาสติก ช่วยประหยัดพลังงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ความก้าวหน้าของทั้ง 4 งานวิจัยดังกล่าวจะทำให้เกิดความรู้พื้นฐานที่จำเป็นต่อการออกแบบปฏิกิริยาเคมี ตัวเร่งปฏิกิริยา กระบวนการใหม่ที่จะทำให้การเปลี่ยน การสร้างขึ้นใหม่ และการทำหน้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นของพลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง งานวิจัยพื้นฐานในเรื่อง chemical upcycling of polymers จะทำให้พลาสติกที่ถูกทิ้งเป็นแหล่งในการผลิตที่มีประสิทธิภาพสารเคมี เชื้อเพลิง วัสดุที่มีมูลค่าสูง และลดการสะสมของพลาสติกของเสียในสิ่งแวดล้อม
ที่มา: Office of Science, U.S. Department of Energy. Roundtable on Chemical Upcycling of Polymers. Retrieved January 8, 2020, from https://winey.seas.upenn.edu/wp-content/uploads/2017/08/2019_DOE_Polymer_Upcycling_Brochure.pdf
![](https://www.nstda.or.th/home/wp-content/uploads/2020/01/images_cre1.jpg)
ในปัจจุบัน มีหลายคนหรือสื่อหลายสำนักที่สนใจการทำ youtube , สื่อออนไลน์เพื่อการค้า มีความเข้าใจว่า “การนำคลิปคนอื่นมาใช้งานโดยการให้เครดิตเจ้าของคลิปบนวีดีโอที่ตัดต่อใหม่ของตนแล้วเผยแพร่ สามารถทำได้เพราะให้เครดิตแล้ว” ความเข้าใจนี้ถือเป็นสิ่งที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง เนื่องจากสื่อดังกล่าวไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของคลิปที่เป็นต้นฉบับ (Original Content) อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร หรือผ่านการอนุญาตที่ชัดเจนจากเจ้าของไม่ว่าจะช่องทางใดๆ ก็ตาม ที่สำคัญคือการไม่ได้รับการติดต่อจากผู้ขอใช้ เป็นการคิดเองเออเองทั้งสิ้นจากผู้สร้าง หากเจ้าของพบเจอ สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ที่นำคลิปไปดัดแปลง ทำซ้ำ ได้อย่างหนักหน่วง กฏเกณฑ์เหล่านี้มีกฏหมายรองรับและสำคัญที่จิตสำนึกในการนำไปใช้ หากใครทำ youtube จะเข้าใจได้ดีในเรื่องการละเมิดคลิปของผู้อื่น ที่มีโทษถึงขั้นปิด account หรือยุติช่อง youtube ทันที ดังนั้นจึงควรพิจารณาและศึกษาให้เข้าใจถึงกติกา มารยาท จิตสำนึก และ กฏหมายในการละเมิดสิทธิ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันผลเสียที่จะเกิดขึ้นกับผู้สร้างทั้งเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดีครับ เพราะลิขสิทธิ์และสัญญาอนุญาต ไม่ใช่การคิดเองเออเอง แต่มันคือการทำความเข้าใจในกฏกติกาสากล และการสื่อสารอย่างลงตัวระหว่างผู้ขอและผู้ให้ครับ
วารสารข่าววิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จากกรุงบรัสเซลส์ ฉบับที่ 8 เดือน สิงหาคม 2562
การประกาศยกเลิกการใช้พลาสติก 8 ชนิดในสหราชอาณาจักร
รัฐบาลแห่งสหราชอาณาจักรได้ประกาศเลิกใช้พลาสติก 8 ชนิดภายในปี ค.ศ. 2020 ได้แก่
1.ชุดช้อน ส้อม และมีดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง
2.บรรจุภัณฑ์ที่ทำด้วยวัสดุพอลิสไตรีน
3.สำลีก้านพลาสติก (cotton buds)
4. แท่งคนกาแฟ
5.หลอดดื่มน้ำที่ทำจากพลาสติก (มีข้อยกเว้นสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้ในทางการแพทย์)
6.พลาสติกแตกสลายได้ชนิดอ๊อกโซ (Oxo-degradable Plastics)
7.พลาสติก PVC หรือ พอลิไวนิลคลอไรด์ (polyvinylchloride, PVC)
8.ชามและถ้วยพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง
โครงการ UK Plastics Pact
โครงการ UK Plastics Pact ได้ถูกจัดตั้งเมื่อปี ค.ศ. 2018 โดยมีสมาชิก 127 เข้าร่วม โดยสมาชิกต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยการเลิกใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกทั้ง 8 ชนิด และหาวัสดุทดแทน เช่น กระดาษ เส้นใย โลหะ และ อื่นๆ รวมไปถึงร่วมมือกันในการบรรลุเป้าหมายการกำจัดพลาสติกที่เป็นปัญหาทั้งหมดและลดการใช้พลาสติกที่ไม่จำเป็นให้ได้ภายในปี ค.ศ. 2025
การยกเลิกใช้พลาสติกบางประเภทในประเทศไทย
สำหรับประเทศไทย คณะอนุกรรมการบริหารจัดการขยะพลาสติกได้จัดทำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) พิจารณากำหนดการลด และเลิกใช้ ผลิตภัณฑ์พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง ที่พบมากในขยะซึ่งถูกทิ้งในทะเลของประเทศไทยและก่อให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนการยกเลิกพลาสติก 7 ประเภทดังนี้
1.พลาสติกหุ้มฝาขวดน้ำดื่ม
2.พลาสติกแตกสลายได้ชนิดอ๊อกโซ
3.ไมโครบีดจากพลาสติก เลิกใช้ปี 2562
4.ถุงพลาสติกหูหิ้วขนาดความหนาน้อยกว่า 36 ไมครอน
5.กล่องโฟมบรรจุอาหาร เลิกใช้ปี 2565
6.แก้วน้ำพลาสติก (ชนิดใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง)
7.หลอดพลาสติก เลิกใช้ปี 2568 โดยมีเป้าหมายรวมในการลด
การประชุมประจำปีของสมาคมนักวิชาชีพไทยในภูมิภาคยุโรป ATPER 2019
สำนักงานที่ปรึกษาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ณ กรุงบรัสเซลส์ ได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมประจำปีของสมาคมนักวิชาชีพไทยในภูมิภาคยุโรป ATPER 2019 ณ เมือง Dusseldorf สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2562 การจัดประชุมครั้งนี้ มีผู้แทนของหน่วยงานในประเทศไทย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา สถาบันวิจัย ร่วมกันพัฒนารูปแบบและแนวทางในการสร้างความร่วมมือระหว่างกัน เพื่อสนับสนุนการใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย การสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อม
ที่มาของการประชุม
การถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับภาคอุตสาหกรรมสามารถสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมในประเทศควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ ตลอดจนส่งเสริมให้เกิดวิสาหกิจเริ่มต้นทางด้าน เทคโนโลยีและนวัตกรรม (Startup) อันเป็นพื้นฐานสำคัญที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศเพื่อรองรับการเติบโต ของอุตสาหกรรมใหม่ หัวข้อการประชุมสมาคมนักวิชาชีไทยในภูมิภาคยุโรปมุ่งเน้นไปที่ประเด็นดังนี้
1.นวัตกรรม
2.เทคโนโลยีชีวภาพและวิทยาศาสตร์สุขภาพ
3.อุตสาหกรรมการผลิตและโลจิสติกสมัยใหม่
การประชุมหารือ สร้างความร่วมมือการวิจัย พัฒนา และการทดสอบพลาสติกชีวภาพ การรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติก และวัสดุสัมผัสอาหาร
ในการประชุมครั้งนี้ได้พบปะกับองค์กรเชี่ยวชาญระดับโลกที่มีประสบการณ์สูงในด้านพลาสติกชีวภาพของราชอาณาจักรเบลเยียมและราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ รวม 4 หน่วยงาน คือ
1.Wageningen University & Research
2.Rodenburg Biopolymers
3.Public Waste Agency of Flanders (OVAM)
4.Organic Waste Systems (OWS)
โดยมีประเด็นการหารือด้านการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์นวัตกรรม การพัฒนามาตรฐานวิธีทดสอบ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการขยะ และความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี รวมถึงการเยี่ยมชมห้องปฏิบัติการและโรงงานต้นแบบ
ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://waa.inter.nstda.or.th/stks/pub/2019/20191119-newsletter-brussels-no8-aug62.pdf